โขนเป็นนาฏศิลป์ชั้นสูงของไทยที่รวมศาสตร์และศิลป์แขนงต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืนลงตัว หากไม่ช่วยกันบำรุงรักษาไว้ ก็จะสูญหายไปในที่สุด
ไลฟ์ วาไรตี สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัยชวนคุณไปสนทนากับนักแสดงโขนผู้รับบท หนุมาน มัจฉานุ และไมยราพ ในโขนรามเกียรติ์ ตอนสะกดทัพ บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
คุณกิตติ จาตุประยูร รับบทหนุมาน
l รับบทหนุมานในการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมฯมากี่ปีแล้วครับ
คุณกิตติ : รับบทนี้มาแล้ว 12-13 ปีครับ ครั้งแรกแสดงตอนนางลอย เมื่อปี 2553 แล้วก็ได้รับเกียรติให้รับบทหนุมานมาตลอด เช่น ตอนศึกมัยราพณ์ และจองถนน เป็นต้น แต่ในการแสดงโขนมูลนิธิฯ แต่ละตอนนั้นใช้ผู้แสดงเป็นหนุมาน 4-6 ตัว ขึ้นอยู่กับว่าในตอนนั้นๆมีบทของหนุมานมากน้อยเพียงใด หากหนุมานมีบทมากๆ ก็ต้องใช้ตัวแสดงหลายตัว เช่น ฉากที่ต้องขึ้นรอกลอยตัวกลางอากาศ ก็ต้องใช้หนุมานหลายตัว เพราะใช้ตัวเดิมที่เพิ่งสู้รบกับทศกัณฐ์ แล้วไปขึ้นรอกไม่ทัน เนื่องจากต้องดำเนินบทอย่างรวดเร็วให้สมจริง
l ผู้รับบทหนุมานต้องมีบุคลิกลักษณะสำคัญอย่างไรครับ เพราะบทนี้ถือว่าโดดเด่นมาก เรียกได้ว่าเป็นตัวเอกของโขน
คุณกิตติ : ครูบาอาจารย์โขนจะเลือกคนรูปร่างสันทัด มีความแคล้วคล่องว่องไว เรียนรู้เร็ว และเฉลียวฉลาดให้รับบทหนุมาน เพราะหนุมานมีหลายบุคลิก เช่น ห้าวหาญ เข้มแข็ง ขี้เล่น เจ้าชู้ อยู่ไม่เป็นสุข และต้องเจ้าปัญญาด้วย จะเห็นว่าหนุมานต้องต่อสู้กับยักษ์ต่างๆแม้กระทั่งยักษ์ชั้นสูงสุด เช่น ทศกัณฐ์ ต้องตีลังกาต้องกระโดดโลดเต้นตลอดเวลา และบางบทก็แสดงความเจ้าชู้ เมื่อต้องเกี้ยวพาราสีตัวนางต่างๆ ทั้งคน ทั้งยักษ์ทั้งสัตว์ นี่คือบุคลิกที่หลากหลายของหนุมาน
l กว่าจะแสดงได้อย่างสมบทบาทเช่นนี้ ต้องฝึกฝนนานกี่สิบปีครับ
คุณกิตติ : ผมเรียนที่วิทยาลัยนาฏศิลป์กรุงเทพตั้งแต่ชั้นมัธยมที่ 1 ครับ เรียนจนถึงระดับปริญญาตรี ใช้เวลากว่า 10 ปีครับ เมื่อเรียนจบก็รับราชการในกรมศิลปากร ผมเริ่มรับบทแสดงมาตั้งแต่เขน เสนาลิง แล้วค่อยๆ พัฒนามาจนได้รับบทพญาลิง สิบแปดมงกุฎ แล้วก็บทหนุมาน นับว่าสั่งสมประสบการณ์การแสดงมาประมาณ 30 กว่าปีแล้วครับ สะสมความชำนาญมาเรื่อยๆ จนครูบาอาจารย์โขนท่านไว้วางใจให้รับบทหนุมาน
l วันนี้เรามีตัวแสดงเด็กรับบทมัจฉานุ คุณกิตติเห็นเด็กน้อยเข้ามาร่วมแสดงด้วยแล้วรู้สึกอย่างไรครับ
คุณกิตติ : ดีใจที่มีเด็กรุ่นใหม่รักการแสดงโขน จะได้ช่วยกันสืบสานรักษาโขนไว้ให้อยู่คู่สังคมไทย ผมเห็นว่าเด็กยุคใหม่มีความสามารถในการแสดงมาก มากกว่าสมัยผมเป็นเด็กๆ อีก อย่างน้องดีนานอายุแค่ 11 ปี สามารถแสดงบทมัจฉานุได้อย่างดี แสดงว่าน้องดีนานสนใจและเรียนรู้บทได้ดีมาก เด็กยุคนี้มีข้อมูลเรื่องการแสดงโขนมากมายกว่ายุคผมเป็นเด็ก เพราะมีข้อมูลจากโซเซียลมีเดียให้ดู แต่สมัยผมกว่าจะได้เรียนโขนก็ต้องอยู่ชั้น ม.1 อายุก็ปาเข้าไป 13 ปีแล้ว แต่น้องเขาเรียนรู้เรื่องโขนมาตั้งแต่อายุยังน้อยมาก ทำให้ได้ฝึกฝนได้ดี และพัฒนาการแสดงได้ดีมากครับ
l การแต่งองค์ทรงเครื่องโขนเป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะมีขั้นตอนมากมาย มีขนบธรรมเนียมแบบแผนของตัวละครแต่ละตัว แล้วก็ต้องเย็บต้องตรึงให้เรียบร้อย สำหรับเครื่องทรงของหนุมานต้องเย็บต้องตรึงแน่นหนากว่าตัวละครอื่นมากไหมครับ เพราะต้องกระโดด ตีลังกา และต้องสู้รบเกือบตลอดเวลา
คุณกิตติ : ผู้แสดงโขนต้องมีความรักในการแสดงเป็นอันดับแรก และผู้ที่ทำงานด้านโขนก็ต้องมีความรักในงานเป็นสำคัญ พูดถึงเรื่องการแต่งตัวหนุมานก็ต้องผ่านการเย็บการตรึงให้แน่นหนามากที่สุด เช่น สังวาลก็ต้องตรึงให้แน่น เพราะไม่อย่างนั้นช่วงตีลังกาก็จะหลุดหรือขาดได้ แรกๆ เมื่อรัดเครื่องเสร็จแล้ว จะรู้สึกอึดอัดมากไม่ต้องคิดเรื่องเข้าห้องน้ำเลย เพราะต้องแก้ต้องถอดดังนั้นจึงต้องอดทนเพียงอย่างเดียว คือต้องมีใจรักในการแสดงเป็นสำคัญ
ด.ช.ดีนาน จุณณะทรัพย์ รับบท มัจฉานุ
l น้องดีนานเล่นโขนมากี่ปีแล้วครับ เริ่มเล่นโขนตอนอายุเท่าไร ปัจจุบันอายุกี่ปี
ด.ช.ดีนาน : ผมอายุ 11 ปีครับ เล่นโขนกับมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ครั้งนี้ครั้งแรกครับ รับบทมัจฉานุ แต่ก็เล่นโขนที่โรงเรียนอมาตยกุลบ้างครับ
l ทำไมสนใจโขน จำได้ไหมครับว่าไปดูโขนครั้งแรกอายุกี่ขวบครับ
ด.ช.ดีนาน : ผมไปดูโขนครั้งแรกตอนอายุ 3 ขวบไปกับคุณพ่อครับ ไปดูที่โรงโขนเฉลิมกรุง สนใจโขนเพราะดูแล้วสนุก ตื่นเต้น ผมชอบตัวหนุมาน เพราะรบกับยักษ์ ตีลังกาเก่งมาก พอโตขึ้นก็รู้ว่าโขนเป็นนาฏศิลป์ชั้นสูงของไทย คุณพ่อและคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยายบอกว่าต้องช่วยกันรักษาการแสดงนี้ไว้ให้อยู่คู่สังคมไทยและที่สำคัญคือหาโขนดูได้ยาก เมื่อมีโขนศิลปาชีพฯ จัดแสดงก็จึงอยากให้ทุกคนไปชมครับ
l น้องดีนานคิดว่าเหตุใดคณะกรรมการคัดเลือกตัวแสดงจึงเลือกน้องให้รับบทมัจฉานุ น้องมีลักษณะเด่นตรงไหนครับ จึงได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในเจ็ดมัจฉานุ และได้แสดงหน้าพระที่นั่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ด.ช.ดีนาน : น่าจะเป็นเพราะว่าผมอยู่ไม่เป็นสุข กระโดดไปกระโดดมา และสามารถตีบทผสมระหว่างลิงหนุมานกับปลามัจฉาได้ครับ มัจฉานุเป็นสัตว์ผสมระหว่างลิงกับปลา มีความห้าวหาญ แต่ก็มีความซุกซนเพราะยังเป็นเด็ก เวลารบกับหนุมานก็รบจริงๆ แต่ก็ส่ายก้นล้อหนุมานไปด้วย แล้วเมื่อรู้ว่าหนุมานเป็นพ่อ ก็เสียใจที่รบกับพ่อ ต้องร้องไห้ขอโทษพ่อ แล้วก็มีบทเหมือนลูกน้อยอ้อนพ่อด้วย
l เมื่อได้รับบทมัจฉานุต้องฝึกซ้อมในแต่ละวันนานกี่ชั่วโมงครับ แล้วแบ่งเวลาอย่างไร เพราะต้องเรียนหนังสือด้วย
ด.ช.ดีนาน : ฝึกซ้อมอย่างน้อยวันละ 3-4 ชั่วโมงครับ เวลาเรียนก็ไปเรียนก่อน ว่างจากเรียนก็ฝึกซ้อมครับ ผมให้ความสำคัญกับการเรียนก่อน ส่วนเรื่องซ้อมก็ใช้เวลาหลังจากเรียน ต้องทบทวนท่ารำและทบทวนบทเพื่อให้จำได้แม่นยำ การซ้อมก็มีทั้งซ้อมด้วยตัวเองจากการดูยูทูบ เมื่อใกล้ถึงวันแสดงจริง ก็ต้องฝึกซ้อมกับหนุมานให้มากขึ้น โดยซ้อมหนักกว่าเดิม 3-4 เท่า
l เมื่อรัดเครื่องแต่งองค์ทรงเครื่องแล้ว มัจฉานุอึดอัดมากไหมครับ แล้วถ้าปวดปัสสาวะจะเข้าห้องน้ำได้ไหมครับ
ด.ช.ดีนาน : ตอนแรกๆ ก็อึดอัดมากครับ แต่ก็อยากแต่งตัวเป็นหนุมาน เป็นมัจฉานุ แต่ก็ต้องอดทน และไม่ดื่มน้ำมากๆ เพราะถ้าเข้าห้องน้ำแล้วเราไม่สามารถแต่งตัวเองได้ เพราะต้องมีช่างแต่งตัวให้ หากช่างแต่งตัวกลับไปแล้ว เราก็ไม่สามารถแสดงได้ ดังนั้นจึงต้องอดทนเท่านั้น
l ทั้งสองท่านจะฝากสิ่งใดไปถึงคนไทยเกี่ยวกับโขนตอนสะกดทัพบ้างครับ เชิญครับ
คุณกิตติ : การแสดงโขนชุดนี้มีคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมของไทยมากขอเชิญชวนให้ไปชมการแสดงนี้คณะผู้จัดและนักแสดง นักร้อง และผู้เกี่ยวข้องกับการแสดงทุกคนตั้งใจทำงานนี้อย่างมาก ฉากสวยงาม การร่ายรำงดงาม บทร้อง บทพากย์ก็งดงาม ควรค่าแก่การชม และการอนุรักษ์เป็นอย่างมาก ตัวแสดงหลักๆ ก็เป็นนักแสดงชั้นครูของประเทศไทย ไม่อยากให้พลาดชมการแสดงนี้ครับ รับรองว่ามาชมแล้วจะประทับใจ
ด.ช.ดีนาน : ผมอยากให้ทุกคนไปชมโขนตอนสะกดทัพครับ การแสดงนี้ยิ่งใหญ่อลังการมาก มีฉากสนุกสนาน ฉากสวยงามให้ชมตลอดเรื่องครับ ขอเชิญทุกคนไปชมโขนครับ โขนไทยคือมรดกของคนไทย เรามาช่วยกันอนุรักษ์ให้อยู่คู่กับประเทศไทยนะครับ สิ่งนี้มีคุณค่าต่อความเป็นไทยมากครับ
คุณบัญชา สุริเจย์ รับบทไมยราพ
l คุณบัญชาร่วมแสดงโขนของมูลนิธิฯ มานานกี่ปีแล้วครับ ทราบว่าครั้งนี้รับบทไมยราพใช่ไหมครับ
คุณบัญชา : ร่วมแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ มานานกว่า 10 ปีแล้วครับ ครั้งแรกรับบทมัยราพณ์ ในตอนศึกมัยราพณ์ พ.ศ. 2554 ในครั้งนั้นผมรับบทมัยราพณ์ครับ
l ความเด่นของบทไมยราพในการแสดงครั้งนี้ คืออะไรครับ
คุณบัญชา : ไมยราพเป็นยักษ์ต่างเมือง มีศักดิ์เป็นหลานของทศกัณฐ์ เป็นเจ้าเมืองบาดาล นับได้ว่าเป็นยักษ์ชั้นสูงตนหนึ่งอยู่ในวงศ์พรหม ไมยราพมีความสามารถพิเศษคือใช้ยาที่ปรุงจากการทำพิธีเพื่อสะกดให้ผู้คนและเหล่าวานรทหารพระรามหลับใหลได้ ยาที่ได้จากพิธีนั้นมากจากหัวใจของราชสีห์ที่ไมยราพเสกขึ้นมา จะเห็นได้ว่าไมยราพเป็นยักษ์ที่ไม่ค่อยเน้นการสู้รบมากนักแต่ใช้มนตรามากกว่า แต่ก็มีบางฉากที่ต้องสู้รบ นับว่ามีอุปนิสัยต่างจากยักษ์ที่ชอบสู้รบเป็นสำคัญ เป็นเสมือนเจ้าแห่งเวทมนตร์ ไสยเวทย์
l ความแตกต่างของไมยราพในตอนสะกดทัพ กับมัยราพณ์ในศึกมัยราพณ์คืออะไรครับ
คุณบัญชา : อันดับแรกคือแตกต่างกันที่บทพระราชนิพนธ์ครับ ตอนสะกดทัพ มาจากบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ส่วนศึกมัยราพณ์ มาจากบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือเครื่องทรงของไมยราพในตอนสะกดทัพจะมีผ้าสไบสีแดง และมีผ้าสีแดงพันบนยอดมงกุฎ โรงพิธีใช้ม่านสีแดง ส่วนบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 ใช้สไบสีดำ และโรงพิธีใช้ม่านสีดำ ครับ
l ปกติการแสดงบทยักษ์มักจะต้องมีอาการโหดร้าย เกรี้ยวกราด แต่สำหรับบทไมยราพที่เป็นเสมือนผู้ทรงเวทมนตร์ ผู้แสดงบทนี้ต้องผสมผสานการแสดงออกอย่างไรครับ เพราะมีสองบุคลิกในตัวเดียวกัน
คุณบัญชา : ตามปกติของการแสดงโขน ผู้รับบทตัวใดจะต้องศึกษากิริยาอาการของตัวละครนั้นๆ ให้ขึ้นใจ แล้วตีบทให้แตก ต้องดูว่าช่วงอายุของตัวละครนั้นอยู่ในช่วงใด มีศักดิ์อะไร แต่งกายอย่างไร มีอุปนิสัยอย่างไร มีความสามารถพิเศษอะไร เมื่อศึกษาดีแล้วก็นำมาปรับกับการแสดง เช่น ฉากไมยราพทำพิธีบดยาก็ต้องแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ทรงเวทมนตร์ ทรงภูมิต้องสุขุมสำรวม ประมาณว่าเป็นฤๅษีหรือนักบวช ส่วนในช่วงที่ต้องแสดงออกถึงความโหดร้าย ฮึกเหิม โกรธเกรี้ยว เช่นตอนสู้รับกับหนุมาน ก็ต้องเป็นอีกลักษณะหนึ่ง อารมณ์ที่แสดงออกจะแตกต่างกันอย่างชัดเจน
l ความมหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งของผู้รับบทยักษ์ที่ต้องสวมหัวโขนคือต้องแสดงอาการต่างๆ ให้เป็นไปตามบท เช่น โกรธ โมโห รัก เขินอาย ขี้เล่น เจ้าชู้ แต่หน้าโขนที่สวมอยู่นั้นเป็นหน้าเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆการจะแสดงให้สมบทบาทของอารมณ์ต่างๆ ในขณะที่หน้าโขนเป็นหน้าเดิมต้องใช้เวลาฝึกซ้อมนานกี่สิบปีครับ
คุณบัญชา : การเรียนนาฏศิลป์จนสามารถแสดงได้อย่างชำนาญต้องใช้เวลาอย่างน้อยๆ เป็นหลัก10 ปีขึ้นไป นักแสดงบางคนเรียนมาตั้งแต่ชั้นมัธยมต้นจากวิทยาลัยนาฏศิลป์ บางคนเรียนจนจบปริญญาเอกบางคนทำงานด้านนาฏศิลป์มาเป็นเวลา 20-30 ปี เหล่านี้คือการใช้เวลาอยู่กับการแสดง การฝึกซ้อมอย่างหนัก เวลาเรียนก็ต้องตั้งใจเรียน และต้องกลับไปฝึกฝนหลังจากจบการเรียนแต่ละวัน นอกจากนี้ยังต้องศึกษาลักษณะนิสัย การแสดงออกของตัวละคร ศึกษาช่วงอายุของตัวละคร และศึกษาว่าตัวละครมีชั้นยศใด จึงจะสามารถแสดงให้สมบทบาทได้ และที่สำคัญคือเมื่อเวลาแสดงจริง จะมีบทพากษ์ บทเพลง บทร้อง และมีบรรยากาศการแสดงเข้ามาประกอบ ก็จะยิ่งต้องแสดงให้สมบทบาทมากที่สุด แต่ว่ากันตามจริงแล้ว ไมยราพไม่มีบทแสดงออกมากเท่ากับทศกัณฐ์ เพราะไมยราพมีศักดิ์ต่ำกว่าทศกัณฐ์
l ผู้รับบทไมยราพต้องมีรูปร่างใหญ่โตมากกว่าตัวยักษ์อื่นๆ มากไหมครับ
คุณบัญชา : ตามหลักการเรียนและแสดงโขนรามเกียรติ์นั้น แบ่งจำพวกของยักษ์ไว้สามประเภทคือ ยักษ์เล็ก ยักษ์ต่างเมือง และยักษ์ใหญ่มีศักดิ์สูง เช่นทศกัณฐ์ สหัสเดชะ เป็นต้น ส่วนยักษ์ต่างเมืองก็คือยักษ์วัยกลางๆ เช่น ไมยราพ วิรุณจำบัง มังกรกัณฐ์ แสงอาทิตย์ เป็นต้น พวกนี้ถือเป็นยักษ์ต่างเมืองยักษ์ป่า ยักษ์ระดับกลาง ส่วนยักษ์เด็กคือยักษ์กุมาร เช่น นนยวิก วายุเวก เป็นยักษ์กุมารหัวจุก ส่วนไมยราพเป็นยักษ์เจ้าเมือง เป็นหลานทศกัณฐ์ อยู่ในวันกลางคนก็มีบุคลิกคล่องแคล่ว
l ชั้นยศของยักษ์ดูได้จากชฎาหรือมงกุฎที่สวมด้วยใช่ไหมครับ
คุณบัญชา : ใช่ครับ ดูจากมงกุฎได้ แต่ยักษ์ชั้นสูงบางตนก็ไม่สวมชฎาหรือมงกุฎ เช่น กุมภกรรณอุปราชกรุงลงกา เพราะกุมภกรรณไม่ถือยศถือศักดิ์ เคร่งครัดในศีลในธรรม ส่วนไมยราพสวมชฎายอดกนก ทศกัณฐ์สวมชฎายอดชัย เป็นต้น นี่คือเครื่องแสดงชั้นยศของตัวละคร
l ในฐานะนักแสดงสำคัญตัวหนึ่งในโขนรามเกียรติ์ มองว่าโขนศิลปาชีพฯ มีส่วนช่วยกระตุ้นให้ผู้คนตื่นตัวและสนใจชมโขนรามเกียรติ์มากขึ้นกว่าเดิมมากขึ้นไหมครับ
คุณบัญชา : ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในเมืองไทยในด้านการชมโขนเลยครับ หลังจากที่สมเด็จพระพันปีหลวงทรงชุบฟื้นชีวิตให้โขนเมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา คนไทยจำนวนมากทั้งเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ และคนต่างชาติที่เข้ามาเมืองไทยต่างให้ความสำคัญการการชมโขนมากขึ้น เด็กและวัยรุ่นจำนวนไม่น้อยสนใจเรียนนาฏศิลป์ไทย โดยเฉพาะโขนมากขึ้น ทัศนคติที่มีต่อโขนดีขึ้นมาก จากการที่หลายคนเคยวิจารณ์ว่าโขนเป็นเรื่องล้าสมัย เชย ก็กลับมาชื่นชมและสนใจมากขึ้น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงชุบชูชีวิตนาฏศิลป์ชั้นสูงให้กลับมามีชีวิตชีวามากขึ้น มีผู้ชมมากขึ้น คนจำนวนมากรอคอยชมโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ทุกปี
คุณจะได้พบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความรู้ รายการ ไลฟ์ วาไรตี ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 14.05-14.30 น. ทางโทรทัศน์ NBTกดหมายเลข 2 และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTubeไลฟ์ วาไรตี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี