มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จัดพิธีคำนับครู โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน ‘สัตยาพาลี’ พร้อมมอบทุนพระราชทานแก่นักแสดง

มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จัดพิธีคำนับครู โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน ‘สัตยาพาลี’ พร้อมมอบทุนพระราชทานแก่นักแสดง

วันพุธ ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 17.01 น.

พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รองประธานกรรมการและเลขาธิการมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นประธานในพิธีคำนับครู โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน “สัตยาพาลี” และมอบทุนพระราชทานมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ประจำปี 2568 ให้แก่นักแสดงที่ได้รับการคัดเลือกจากทั่วภูมิภาค จำนวน 15 ทุน ณ อาคารศึกษาทั่วไป วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม โดยมี ไพฑูรย์ เข็มแข็ง (ศิลปินแห่งชาติ) สาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ไทยโขน-ละคร) ประจำปีพุทธศักราช 2564 เป็นครูผู้ประกอบพิธีคำนับครู พร้อมด้วย คณะกรรมการ ผู้กำกับการแสดง ครูผู้เชี่ยวชาญ อาจารย์ผู้ฝึกซ้อม นักแสดงโขน ศิลปิน ทั้งระดับศิลปินชั้นครูและเยาวชน รวมทั้งผู้ปฏิ บัติงานทุกภาคส่วน เข้าร่วมพิธี

พิธีเริ่มขึ้นเมื่อประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จุดธูปเทียนบริเวณหน้าศีรษะครูและถวายเครื่องสังเวย จากนั้น ไพฑูรย์ เข็มแข็ง (ศิลปินแห่งชาติ) กล่าวคำบูชาครู อันเป็นพิธีสำคัญ ถือเป็นประเพณีและธรรมเนียมปฏิบัติในวงการนาฏ ศิลป์และ ดุริยางคศิลป์ ก่อนเริ่มทำกิจกรรมแรก รวมทั้งการฝึกซ้อมการแสดงต่างๆ ด้วยพิธีคำนับครูจะเป็นสิริมงคลสำหรับครูอาจารย์ ศิลปิน นักแสดง รวมถึงผู้ที่เข้าร่วมพิธี


ภายหลังจากจบพิธีคำนับครู พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มอบทุนพระราชทานมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ประจำปี 2568 ให้แก่นักแสดงที่ได้รับการคัดเลือกจากทั่วภูมิภาค ซึ่งคัดเลือกจากนักแสดงที่มีฝีมือ มีความพร้อมในการแสดงโขนฯ โดยคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ เป็นผู้คัดเลือกแต่ละกลุ่มสาขา ประกอบด้วย ละครพระ ละครนาง โขนพระ โขนยักษ์ และโขนลิง สา ขาละ 3 ทุน รวมจำนวน 15 ทุน สาขาละครพระ ได้แก่ ฤทัยวรรณ พ่วงพรมมา คณะศิลปะนาฏดุริยางค์,นนทพร โคตะมะ วิทยาลัยนาฏศิลปะเชียงใหม่,นฤภร จันทร์คง คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สาขาละครนาง ได้แก่ นิตติกาล สุขกลิ่น คณะศิลปะนาฏดุริยางค์,ธนัญญา ใหม่จันดี วิทยา ลัยนาฏศิลป ,กัณฐมณี คำศรี วิทยาลัยนาฏศิลป สาขาโขนพระ ได้แก่ ธีระ พันเชื้อ วิทยาลัยนาฏศิลป ,อิสระพงศ์ อิสระโชติ วิทยาลัยนาฏศิลป ,นัฐพล รักศรี คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สาขาโขนยักษ์ ได้แก่ สุวิชชา ใจอารีย์ คณะศิลปนาฏดุริยางค์ ,รัฐศาสตร์ แซ่โอ้ว วิทยาลัยนาฏศิลป ,กลับวัง ยนตรกิจ วิทยาลัยนาฏศิลป สาขาโขนลิง ได้แก่ ฐาปนะ ไทรเกต คณะศิลปนาฏดุริยางค์ ,ธนกร พินิจ วิทยาลัยนาฏศิลป ,อธิรักษ์ อภิรัตนนันทกุล คณะศิลปศึกษา จากนั้นประธานในพิธีฯ กล่าวให้โอวาทแก่นักแสดงและคณะผู้ปฏิบัติงาน ครูผู้ฝึกซ้อมและนักแสดงทั้งหมดเริ่มทำ การซ้อมการแสดง เพื่อให้เกิดความพร้อมเพรียงสำหรับการแสดงที่ยิ่งใหญ่สมการรอคอยของผู้ชม

ผู้แทนนักแสดงโขนฯ รัฐศาสตร์ แซ่โอ้ว นักศึกษาจากวิทยาลัยนาฏศิลป ผู้ได้รับทุนการศึกษาพระราชทาน สาขาโขนยักษ์ กล่าวด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ของทั้ง 3 พระองค์ว่า “ตนมีความปลื้มปิติเป็นล้นพ้นที่ได้รับทุนการศึกษาพระราชทานในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการได้รับพระราชทานเป็นปีที่ 2 แล้ว ซึ่งเขาจะนำเงินพระราชทานที่ได้รับไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อทางการศึกษาอย่างคุ้มค่าที่สุด และจะตั้งใจเผยแพร่ศิลปการแสดงโขนอันเป็นนาฏยกรรมชั้นสูงของประเทศไทย ให้เยาวชนรุ่นใหม่และคนทุกเพศทุกวัยได้รับชมอย่างงดงาม อันเป็นการสืบสานแนวพระราชดำริฯ ของทั้ง 3 พระองค์ให้คงอยู่สืบไป”

ขณะที่ นฤภร จันทร์คง คณะศิลปนาฏดุริยางค์ ผู้ได้รับทุนการศึกษาพระราชทาน สาขาละครพระ กล่าวว่า “เพิ่งผ่านรอบคัดเลือกการแสดงโขนของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เป็นปีแรก และยังได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการให้ได้รับทุนการศึกษาพระราชทาน ยิ่งทำให้เธอรู้สึกตื้นตันใจและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทั้ง 3 พระองค์ทรงให้ความสนพระราชหฤทัยในศิลปนาฏยกรรมชั้นสูงของไทย อีกทั้งยังทรงส่งเสริมและสนับสนุนให้เยาวชนรุ่นใหม่อันเป็นกำลังของชาติได้ร่วมสืบสานและอนุรักษ์การแสดงโขนไว้ให้คงอยู่ในแผ่นดินไทยตราบนานเท่านาน”

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อโขน อันเป็นนาฏยกรรมชั้นสูง ทรงทำให้โขนได้รับการยกย่องจากองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก (UNESCO) ในปี 2561 ว่าเป็น ‘มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมวลมนุษยชาติ’ ซึ่งถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทยรายการแรกที่ได้รับการขึ้นทะเบียน สำ หรับการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ในครั้งนี้ เป็นปีที่ 18 ซึ่งได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ที่ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชกรณียกิจในพระบรมชนกนาถและพระบรมราชชนนี ด้วยทรงทรงส่งเสริมและสนับสนุนการแสดงโขนอย่างเอาพระทัยใส่ทุกมิติ

สำหรับปี 2568 นี้ การแสดงโขนตอน “สัตยาพาลี” เป็นเรื่องราวของพญาพาลีวานรผู้เป็นกษัตริย์แห่งเมืองขีดขิน ซึ่งเสียคำสัตย์เพราะความหลงผิด แต่ภายหลังระลึกได้จึงสำนึกและยอมรับโทษ ชี้ให้เห็นคุณของความกตัญญูและโทษของความไม่รักษาสัตย์ และกล่าวถึงหน้าที่ของแต่ละบุคคลที่ต้องตั้งใจปฏิบัติงานด้วยความจงรักภักดีต่อแผ่นดินและผู้มีพระคุณ การต่อสู้ของทศกัณฐ์และพระราม (อวตารของพระนารายณ์) ย้ำให้มั่นใจว่าผู้มีจิตใจชั่วร้ายแม้จะมีอิทธิฤทธิ์มากมายปานใด ก็ไม่สามารถดำรงตนไปได้นาน ฝ่ายผู้ยึดมั่นในธรรมะ แม้จะเผชิญอุปสรรคใดๆ ก็จะชนะฝ่ายอธรรมเสมอซึ่งการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน “สัตยาพาลี” จัดแสดงขึ้นในระหว่างวันที่ 6 พฤศจิกายน-วันที่ 8 ธันวา คม 2568 ณ หอ ประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เปิดจำหน่ายบัตรแล้ววันนี้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ www.thaiticketmajor.com โทร. 0-2262-3456 บัตรราคา 2,000 บาท, 1,800 บาท, 1,000 บาท, 800 บาทและ 600 บาท (รอบนักเรียน ราคา 200 บาท)

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top