หนึ่งในแบรนด์เสื้อผ้าที่สาวๆ นักช้อปออนไลน์รู้จักกันดี คงต้องมีชื่อของ “LOOKBOOKLOOKBOOK” ติดอยู่ในอันดับต้นๆ นอกจากจะโดดเด่นเรื่องสไตล์การออกแบบที่มี
เอกลักษณ์สดใสแบบหญิงสาวที่มีบุคลิกซุกซน ขี้เล่น และสนุกสนานกับการแต่งตัว โดนใจสายแฟชั่นแล้ว ยังเป็นหนึ่งในแบรนด์เสื้อผ้า Ready to wear ยอดนิยมที่ประสบความสำเร็จสูงมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในแคมเปญ 11.11 ล่าสุดของ ลาซาด้า ที่กวาดยอดขายหลักล้านบาทภายใน 1 วัน จนทำให้หลายคนอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า สูตรสำเร็จอะไรที่ช่วยให้ “LOOKBOOKLOOKBOOK” โลดแล่นในวงการแฟชั่นและครองใจนักช้อปชาวไทยมานานถึง 12 ปี และยังมีแนวโน้มเติบโตสดใสอย่างต่อเนื่อง
ย้อนไปเมื่อ 12 ปีที่แล้ว จีน-วนิชชา ตรีทิพย์สถิตย์, อิงค์-อิงครัต อุนนกิตติ และ กลุ่มเพื่อนสาวผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ ในขณะนั้นยังเป็นนักศึกษาชั้นปี 4 ที่ชื่นชอบการแต่งตัวตามเทรนด์แฟชั่น และปิ๊งไอเดียที่จะลองขายเสื้อผ้าสนุกๆ เป็นงานอดิเรก ก่อนจะขยับขยายเป็นธุรกิจจริงจังมากขึ้น โดยคอลเลคชั่นแรกเป็นการขายผ่านเว็บบอร์ด และในปีที่เริ่มทำธุรกิจนั้นเอง LOOKBOOKLOOKBOOK ได้ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเป็นช่องทางสื่อสารกับลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เริ่มต้นจากกลุ่มเพื่อนวัยใกล้เคียงกันที่ชื่นชอบการแต่งตัวเหมือนๆ กัน และมีแชร์แบรนด์ LOOKBOOKLOOKBOOK ไปยังกลุ่มอื่นๆ ทำให้มีการขยายกลุ่มลูกค้าอย่างรวดเร็ว วิธีการขายนั้นเริ่มจากขายของผ่านเพจบนโซเชียลมีเดียเพื่อบอกลูกค้าถึงรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับสินค้า และรับออเดอร์ทางอีเมลเป็นหลัก เพราะสมัยนั้นตลาดสินค้าออนไลน์ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก และนั่นคือช่วงที่แบรนด์เริ่มตั้งไข่และเริ่มต้นสื่อสารกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์เป็นรายแรกๆ
หลังจากเริ่มขายไปได้ไม่นาน ปรากฏว่า คอลเลคชั่นแรกของแบรนด์ ได้กระแสตอบรับที่ดีเกินคาด เมื่อมาถึงคอลเลคชั่นที่ 3 ในปีแรกก็เช่นกัน พลังของกระแสปากต่อปาก ส่งผลให้เสื้อผ้าของแบรนด์เป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการมาก ภายใน 1 นาทีแรกที่เปิดจอง มีคนส่งอีเมลมากกว่าร้อยเมล และไม่ว่าแบรนด์จะไป Pop up ที่ไหน ก็มีคนมารอคิว บางคนมารอตั้งแต่ 6 โมงเช้า เพื่อให้ทันเปิดขายตอน 10 โมง ซึ่งเป็นความประทับใจมาจนถึงทุกวันนี้
สำหรับการเลือกสไตล์เสื้อผ้าที่จะมาวางขายนั้น 3 สาว LOOKBOOKLOOKBOOK เล่าให้ฟังว่า เพลเยอร์หรือผู้เล่นในตลาดเสื้อผ้าออนไลน์เมื่อ 12 ปีที่แล้วไม่ได้มีเยอะเมื่อเทียบกับในปัจจุบัน แหล่งช้อปปิ้งใหญ่ๆ ที่คนไปหาซื้อเสื้อผ้ากันจึงมักจะเป็นจตุจักร แพลทินัม หรือไม่ก็ในห้าง จึงทำให้แบรนด์มองเห็นช่องทางในตลาดที่สามารถทำธุรกิจต่อยอดได้ เลยตัดสินใจเข้าไปเซต position ตรงจุดนี้ เพื่อช่วยให้ผู้ซื้อมีทางเลือกในการหาซื้อเสื้อผ้าที่หลากหลายและสะดวกสบายมากขึ้นนอกเหนือจากการไปเดินห้างหรือสถานที่อื่นๆ โดยตั้งราคาไว้ที่หลักร้อยปลายๆ ถึงหนึ่งพันกว่าบาท และแบรนด์มั่นใจว่า สินค้ามีคุณภาพที่ดีกับลูกค้า
“การที่แบรนด์ครองใจลูกค้ามายาวนาน ทั้งลูกค้าเก่าที่เติบโตมาพร้อมกัน และลูกค้าใหม่ที่ยังเป็นนักศึกษา รวมถึงกลุ่ม First jobber หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่วัยทำงานได้นั้น คือการเข้าใจและคำนึงถึงสิ่งที่ลูกค้าต้องการเสมอ โดยนึกอยู่เสมอว่าเปรียบเสมือนว่าตัวเราเป็นลูกค้าเอง ซึ่งจะทำให้เราสามารถเข้าถึงความต้องการของลูกค้าและนำเสนอสินค้าที่พวกเขาจะเลือกสวมใส่ได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ เรามีความใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ตั้งแต่การผลิตเสื้อผ้า การโปรโมทแบรนด์ การนำเสนอคอนเซ็ปต์ของแต่ละคอลเลคชั่น การให้ความใส่ใจตั้งแต่การดีไซน์ จนรวมไปถึงบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ทีมงานของเราก็ไม่เคยมองข้าม รวมไปถึงการตอบคำถามลูกค้าของแอดมิน การจัดส่งที่ตรงต่อเวลา การบรรจุสินค้าให้เรียบร้อยสวยงาม พร้อมรับฟังฟีดแบ๊กลูกค้า เพื่อนำมาพัฒนาสินค้าและบริการให้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการทำหน้าที่เป็นไกด์ที่ช่วยแนะนำสไตล์การแต่งตัวให้ลูกค้า ทั้งหมดนี้ทำให้คุณภาพร้านอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยมจนสามารถซื้อใจและทำให้ลูกค้าประทับใจ และยังมีลูกค้าหลายคนที่บอกว่า LOOKBOOKLOOKBOOK ทำให้พวกเขากล้าแต่งตัวมากขึ้น รู้สึกสนุกและเพลิดเพลินไปกับการแต่งตัว ลุกขึ้นมาดูแลตัวเองและเสริมลุคสวยสุดปังด้วยการใส่ชุดของร้าน กลายเป็นแรงบันดาลใจดีๆ ที่ส่งต่อให้ลูกค้าในทุกครั้งที่สวมใส่เสื้อผ้าของแบรนด์”
สำหรับกลยุทธ์การขายเพื่อต่อยอดการเข้าถึงลูกค้าในวงกว้าง 3 สาว LOOKBOOKLOOKBOOK เผยว่า ร้านเลือกขายเสื้อผ้ากับลาซาด้าเพียงเจ้าเดียวมากว่า 4 ปีแล้ว เนื่องจากร้านต้องการให้ลูกค้าจดจำช่องทางการขายโดยง่าย และมองว่าคุณภาพมาตรฐานของแพลตฟอร์มลาซาด้าตอบโจทย์แบรนด์ได้อย่างตรงจุด โดยพิจารณาถึงศักยภาพในการเติบโตของแพลตฟอร์มควบคู่ไปด้วยกัน และทางลาซาด้าเองก็มีความพร้อมในการสนับสนุนร้านค้า (Seller) อย่างรอบด้าน โดยเฉพาะเครื่องมือวิเคราะห์ทางธุรกิจ อย่าง Business Advisor ที่ช่วยวิเคราะห์ได้ว่า ช่วงไหนลูกค้า Add to cart เยอะ ช่วงไหนคนเข้ามาดูสินค้าเยอะ และดูสินค้าชิ้นไหนบ้าง ทำให้ร้านสามารถคาดการณ์และจัดเตรียมสต๊อกสินค้าเพื่อตอบรับกับความต้องการของลูกค้าได้
การจัดแคมเปญและโปรโมชั่นต่างๆ ร่วมกับลาซาด้า อาทิ แคมเปญ Double Digit ที่จัดขึ้นแทบจะทุกเดือนยังเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์ที่ช่วยให้ร้านค้าเพิ่มความนิยมและดึงดูดลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะแคมเปญ 11.11 ที่ถือเป็นแคมเปญบุกเบิกก่อนที่จะมีแคมเปญ Double Digit ในเดือนอื่นๆ ตามมา ช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับร้านค้า ขณะที่ลูกค้าเองก็รู้สึกพึงพอใจและสนุกสนานกับการช้อปมากขึ้นกับโปรโมชั่นที่น่าสนใจและสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย เรียกได้ว่า เป็นการได้ประโยชน์แบบ win-win ทั้งสองฝ่าย
“เมื่อร้านต้องการความช่วยเหลือหรือคำแนะนำในการขายทางร้านสามารถสอบถามลาซาด้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยลาซาด้ามีความใส่ใจร้านค้าเป็นอย่างดีในทุกขั้นตอน โดยมีการพูดคุยสอบถามถึงฟีดแบ๊กของแคมเปญครั้งที่ผ่านมาว่า ผลตอบรับเป็นอย่างไร และอยากให้ทางแพลตฟอร์มช่วยปรับปรุงจุดใดบ้าง เพื่อให้ทั้งร้านค้าและลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุดจากการช้อปปิ้งสินค้าบนแพลตฟอร์ม สำหรับผู้ที่กำลังมองหาลู่ทางการขายสินค้าบนช่องทางออนไลน์กับลาซาด้า ขอให้เรียนรู้และศึกษาวิธีการใช้เครื่องมือทางธุรกิจ และทดลองเข้าร่วมในแคมเปญต่างๆ ที่ลาซาด้าจัดขึ้น รับรองได้ว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายและช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จักได้มากขึ้น พร้อมเติบโตไปด้วยกันได้อย่างแน่นอน”
เปิดร้านกับ Lazada ได้ง่ายๆ เพียงคลิก https://lzd.co/3hXJnqj โดยเงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทฯ กำหนด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.lazada.co.th และสามารถช้อปเสื้อผ้าสุดคิ้วท์จาก LOOKBOOKLOOKBOOK ได้ที่ https://lzd.co/3gyrSwo
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี