รัฐสภาอินโดนีเซียผ่านกฎหมายใหม่ เช่น ร่างกฎหมายห้ามบุคคลมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน และนอกสมรส ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี รวมถึงห้ามการอยู่กินฉันสามีภรรยาของคู่รักที่ยังไม่แต่งงาน อาจมีโทษจำคุกสูงสุด 6 เดือน นอกจากนี้ยังผ่านร่างกฎหมายห้ามดูหมิ่นประธานาธิบดีและหน่วยงานของรัฐและการแสดงความเห็นขัดต่ออุดมการณ์ของรัฐ
ประมวลกฎหมายอาญาฉบับใหม่นี้ จะมีผลบังคับใช้ภายในสามปี ต่อทั้งพลเมืองอินโดนีเซีย และชาวต่างชาติในอินโดนีเซีย ตลอดจนนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย
ยาซอนนา เลาลี รัฐมนตรีกระทรวงกฎหมายและสิทธิมนุษยชนประกาศต่อรัฐสภาที่สนับสนุนร่างกฎหมายฉบันนี้ล้นหลามว่า อินโดนีเซียพยายามตอบสนองกับทุกฝ่าย และรับฟังทุกความคิดเห็นแต่ถึงเวลาแล้วที่จะตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์ ถึงการปรับแก้ประมวลกฎหมายอาญา และทิ้งประมวลกฎหมายเดิมยุคอาณานิคมที่ประเทศสืบทอดมา ไว้ข้างหลัง ซึ่งจะส่งผลให้ประมวลกฎหมายเก่าที่เป็นมรดกของเนเธอร์แลนด์.จะไม่มีผลอีกต่อไป
กลุ่มธุรกิจต่างๆ ได้เตือนว่ากฎหมายดังกล่าวอาจทำลายภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว และการลงทุนของอินโดนีเซีย อีกทั้งยังมีความกังวลว่ากฎหมายเหล่านี้อาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQ ด้วย ขณะที่นักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนวิจารณ์ประมวลกฎหมายอาญาฉบับใหม่ว่าเปรียบเสมือนตำรวจศีลธรรมเมื่อวันจันทร์ (5 ธ.ค.) ประชาชนกว่า100 คน ได้ออกมาชุมนุมต่อต้านการผ่านร่างกฎหมายและปรับแก้กฎหมายดังกล่าว โดยชูธงสีเหลือง มีข้อความว่า “คัดค้านการอนุมัติแก้ประมวลกฎหมายอาญา” รวมถึงการแสดงเชิงสัญลักษณ์โปรยกลีบดอกไม้ลงบนแผ่นผ้า เพื่อไว้อาลัยถึงกฎหมายอินโดนีเซีย
ขณะที่ผู้สังเกตการณ์บางคนมองว่า กฎหมายอาญาใหม่นี้ ไม่น่าจะกระทบการท่องเที่ยว เพราะการจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้นั้นต้องมีผู้ร้องเรียนเป็น บุตร บิดามารดา และคู่สมรสของผู้ถูกกล่าวหาเท่านั้น แต่ผู้เชี่ยวชาญจากHuman Rights Watch มองว่าอาจจะมีบางสถานการณ์ที่กฎหมายนี้อาจเป็นปัญหาได้ เช่น หากพลเมืองออสเตรเลีย มีแฟนเป็นคนอินโดนีเซีย แล้วพ่อแม่ หรือพี่น้องของแฟน แจ้งความต่อตำรวจ ก็จะเกิดปัญหาได้
เมื่อปี 2019 ทางการอินโดนีเซียเคยเตรียมผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้มาแล้วครั้งหนึ่งแต่ประชาชนนับหมื่นคนทั่วประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้ มีนักศึกษารวมอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ออกมาชุมนุมต่อต้าน จนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ในกรุงจาการ์ตา
ข่าวการผ่านกฎหมายนี้ของอินโดนีเซีย มีการรายงานอย่างกว้างขวางตามสื่อออสเตรเลีย ในขณะที่การท่องเที่ยวของอินโดนีเซียพึ่งพาตลาดออสเตรเลียอย่างหนักโดยก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19ชาวออสเตรเลียคือนักท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของอินโดนีเซีย และมักจะบินมาที่เกาะบาหลี เนื่องจากบรรยากาศดี อากาศอบอุ่น และสามารถจัดปาร์ตี้ริมชายหาดได้ตลอดทั้งคืน นอกจากนี้ การมาจัดงานแต่งงานที่เกาะบาหลี ยังเป็นเรื่องปกติของชาวออสเตรเลีย ตลอดจน นักเรียนนักศึกษาบินมาเที่ยวเพื่อฉลองเรียนจบการศึกษา
ข้อมูลจากสถาบันอินโดนีเซียเผยว่า ในปี 2019 ก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางมากว่า 1.23ล้านคน จึงทำให้นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียกังวลเป็นอย่างมากกับร่างกฎหมายใหม่นี้ว่าจะส่งผลกระทบอย่างไร อย่างไรก็ตามโฆษกกระทรวงยุติธรรมของอินโดนีเซียระบุว่า ขอให้นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียไม่ต้องเป็นกังวล เนื่องจากความเสี่ยงต่ำ ส่วนใหญ่จะเป็นชาวอินโดนีเซียเองมากกว่าที่ถูกบังคับใช้กฎหมายนี้
หนึ่งในไกด์นำเที่ยวที่อยู่ที่เกาะบาหลีมาตั้งแต่ปี 2017บอกกับสื่อมวลชนว่า กฎหมายใหม่ที่เตรียมบังคับใช้นี้ เป็นการทำลายอินโดนีเซียอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะที่เกาะบาหลีแห่งนี้ เนื่องจากประเทศต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก
แน่นอนว่าไม่ได้กระทบแค่ชาวออสเตรเลีย แต่ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวทั้งหมด ซึ่งบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวชาวแคนาดารายหนึ่งที่ย้ายมาอยู่ที่เกาะบาหลีได้ 18 เดือนแล้ว บอกกับสื่อมวลชนว่า เธอรู้สึกช็อกเมื่อเห็นข่าว และบอกว่านักท่องเที่ยวจะหนีไปที่อื่นแน่นอน ดีกว่าต้องมาเสี่ยงติดคุก เมื่อกฎหมายเริ่มบังคับใช้
ทั้งนี้ จากข้อมูลของ“สตาทิสตา” (Statista) เผยว่าเมื่อปี 2021 มีนักท่องเที่ยวเพียง 51 คนเท่านั้นที่มาเที่ยวที่เกาะบาหลี เนื่องจากโควิด-19 ระบาดแต่ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาสำนักงานสถิติแห่งชาติอินโดนีเซียเผย มีนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 470,000 คน เดินทางเข้ามาในประเทศ เป็นสถิติสูงที่สุดหลังผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021
อย่างไรก็ดี คณะกรรมาธิการตรวจสอบร่างกฎหมายของกระทรวงกฎหมายและสิทธิมนุษยชน ชี้ว่า การปรับแก้กฎหมายครั้งนี้ จะช่วยพิทักษ์สถาบันครอบครัวและความศักดิ์สิทธิ์ของการสมรสของประชาชนในอินโดนีเซีย
โดย ดาโน โทนาลี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี