กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยโรคเรื้อนซึ่งเคยเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย ปัจจุบันสามารถกำจัดให้ลดลงได้ด้วยความ
ร่วมมือของทุกภาคส่วน โดยใน ปี 2564 ที่ผ่านมานั้น พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 62 ราย ส่วนมากอยู่ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถึงแม้ว่าแนวโน้มผู้ป่วยรายใหม่จะลดลงตามลำดับ แต่สัดส่วนความพิการของผู้ป่วยไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง สะท้อนให้เห็นถึงการเข้ารับการรักษาที่ล่าช้า
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เนื่องใน “วันราชประชาสมาสัย” 16 มกราคมของทุกปีซึ่งเป็นวันน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และสืบสานพระราชปณิธาน “การกำจัดโรคเรื้อน” ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรที่ทรงก่อตั้งสถาบันราชประชาสมาสัยเพื่อผลิตบุคลากรและค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับโรคเรื้อน กระทรวงสาธารณสุขได้จัดให้มีสัปดาห์รณรงค์ค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ทั่วประเทศระหว่างวันที่ 16-22 มกราคม 2566 และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคเรื้อน ให้ประชาชนสามารถสังเกตอาการของตนเองและคนใกล้ชิด ให้เข้ามารับการตรวจรักษาอย่างรวดเร็วเพื่อลดความพิการที่อาจเกิดขึ้นได้
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ กล่าวต่อว่ากิจกรรมรณรงค์วันราชประชาสมาสัย ในปี 2566 มุ่งเน้นสร้างความตระหนักรู้ที่ถูกต้องและเร่งรัดการค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ในชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีรายงานผู้ป่วยปี 2566 นี้จะเร่งดำเนินการในพื้นที่ 29 จังหวัด รวม 73 อำเภอ ทั้งนี้ มูลนิธิราชประชาสมาสัยในพระบรมราชูปถัมภ์จะให้การสนับสนุนค่าตอบแทนการค้นพบผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ โดยจะสนับสนุนให้แก่ ผู้ที่มารับการตรวจรักษาด้วยตนเอง อสม.หรือประชาชนที่พาผู้ป่วยมารับการตรวจรักษา จำนวน 1,000 บาท ต่อผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย และให้การสนับสนุนแก่ผู้ป่วยรายใหม่รายละ 2,000 บาท
นายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า หากประชาชนสังเกตเห็นผิวหนังเป็นวงด่างสีขาวซีดจางหรือเป็นผื่นแดง
ตุ่มแดงไม่คัน มีอาการชาบริเวณดังกล่าวนานเกิน 3 เดือน ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย
“แม้ปัจจุบันโรคเรื้อนจะไม่มีวัคซีนหรือยาป้องกันโรค แต่มียารักษาโรคที่ได้ผลดี “เริ่มรักษาได้เร็วเท่าไร ความเสี่ยงเรื่องความพิการก็ยิ่งลดลง” จึงขอเชิญชวนประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ ให้ได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องโดยเร็ว เพื่อให้หายเป็นปกติ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี