เวลาเราเห็นเด็กๆ ในถิ่นกันดาร เราก็นึกอยากช่วยให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยต้องนำการศึกษาที่มีคุณภาพเข้าไปให้เขา (พลอากาศตรี นพ.คำพร
ชาญวิเศษ ผู้บริหารโรงพยาบาลบีแคร์ ดอนเมือง)
ปัญหาของครูที่นี่คือ ไม่เข้าใจภาษาถิ่นของเด็กทำให้การสื่อสารมีอุปสรรคบ้าง แต่ยังดีที่เด็กเรียนรู้ได้เร็ว จึงทำให้สื่อสารกันได้ดีขึ้น (ดาบตำรวจ (หญิง)มาลินณา สังข์แก้ว ครูใหญ่ โรงเรียน ตชด.บ้านถ้ำหินอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี)
ผมอยากเป็นหมอ จะได้กลับมาช่วยรักษาพ่อแม่ญาติพี่น้อง และคนในหมู่บ้านครับ
(ด.ช.ธงชัย แดง นักเรียน โรงเรียน ตชด. บ้านถ้ำหิน)
ไลฟ์ วาไรตี สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย พาคุณๆ ไปเลี้ยงอาหารกลางวัน แจกสิ่งของต่างๆ อาทิ รองเท้านักเรียนให้เด็กทุกคน รวมถึงอุปกรณ์การเรียน เครื่องกีฬา และของเล่น ของกิน ของใช้ เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ และสนทนากับตัวแทนผู้ใหญ่ใจดีที่ร่วมโครงการ รวมถึงสนทนากับคุณครูและนักเรียนโรงเรียน ตชด.บ้านถ้ำหินด้วย
พลอากาศตรี นายแพทย์คำพร ชาญวิเศษผู้บริหารโรงพยาบาลบีแคร์ ดอนเมือง
เรียนถามคุณหมอว่า การมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ คุณหมอสังเกตเห็นอะไรจากเด็กๆ ที่อยู่ในเขตค่อนข้างทุรกันดารบ้างครับ
พล.อ.ต.นพ.คำพร : สิ่งที่สังเกตเห็นอันดับแรกคือ เด็กๆ ที่นี่มีสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่ค่อนข้างดี ดูได้จากพฤติกรรมภายนอก เช่น เด็กๆ มีความร่าเริง ยิ้มแย้มและเมื่อได้พูดคุยด้วย เด็กๆ ก็สามารถตอบโต้ได้อย่างน่าพอใจ ไม่มีอาการหวาดกลัว และประหม่า เมื่อพบกับคนแปลกหน้าจากต่างถิ่น นี่ถือได้ว่าเด็กๆ มีสุขภาพกายและจิตที่ดีในขั้นที่ยอมรับได้ วันนี้คณะของเราได้มาทำอาหารกลางวันเลี้ยงเด็ก โดยมีคุณหมอและพยาบาล รวมถึงเพื่อนๆ ในกลุ่มจากหลากหลายอาชีพ เมื่อเราได้เห็นเด็กกินอาหารอย่างมีความสุข เราก็ยินดีมาก แล้วทุกคนก็คิดถึงลูกๆ หลานๆ ที่บ้านของเรา โดยคุยกันว่า ลูกหลานของเรานับว่าโชคดีกว่าเด็กๆ เหล่านี้มาก เพราะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีกว่า พร้อมกว่า สมบูรณ์กว่า มีความสะดวกสบายมากกว่าเด็กเหล่านี้ ในใจของพวกเราก็อยากทำให้เด็กๆ เหล่านี้มีอนาคตที่ดีขึ้น อยากเห็นพวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ โดยสิ่งสำคัญที่เราอยากให้พวกเขาได้รับเป็นอันดับแรกคือ อาหารที่มีคุณภาพพร้อมๆ กับการศึกษาที่มีคุณภาพ เพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญในชีวิตของเขา การมาของพวกเราในวันนี้ทำให้เราได้พบเห็นความเป็นอยู่เบื้องต้นของเด็กๆ ซึ่งต้องบอกว่าเด็กๆ มีความเป็นอยู่ดีกว่าภาพเดิมที่เราจินตนาการไว้มากเพราะสภาพโรงเรียนดีมาก และหน้าตาของเด็กๆ ก็บ่งบอกได้ว่าพวกเขามีความสุขค่อนข้างมาก เราไม่พบเด็กที่มีร่างกายพิการทุพพลภาพ หรือขาดสารอาหาร นับว่าเป็นเรื่องดีมากสำหรับเด็กๆ ซึ่งเทียบกับเด็กในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดารแห่งอื่นๆ แล้ว ต้องยอมรับว่าเด็กที่นี่มีคุณภาพชีวิตดีกว่ามาก ส่วนเรื่องการนำสิ่งของต่างๆ มาบริจาคให้ทั้งเด็กและคุณครูนั้น เป็นเพียงการแสดงน้ำใจจากพวกเรา เราต้องการแบ่งปันความสุขให้เด็กๆ ตามกำลังความสามารถของเรา แต่ที่พวกเราดีใจมากคือการได้ทำอาหารปรุงสุกสดๆ ใหม่ๆ สะอาด ให้เด็กได้รับประทาน กลุ่มของเราพยายามเลือกสรรวัตถุดิบคุณภาพดีมาทำอาหารให้เด็กๆ ได้รับประทาน แล้วเมื่อเห็นเขารับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อย มีความสุข ยิ้มแย้ม เราก็มีความสุขใจด้วยครับ และจะพยายามทำกิจกรรมเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคตให้กับโรงเรียนในเขตทุรกันดารอื่นๆ อีกครับ
ภาพจริงที่คุณหมอพบเจอเมื่อได้พูดคุยกับเด็กๆ ที่นี่ คุณหมอพบว่าเด็กๆ มีปัญหาอะไรบ้างไหมครับ
พล.อ.ต.นพ.คำพร : โดยสภาพรวมๆ ผมเห็นว่าเด็กมีสุขภาพจิตและร่างกายอยู่ในขั้นดีน่าพอใจ จากการพูดคุยกับเด็กบางคนก็สื่อสารด้วยภาษาไทยได้ค่อนข้างดีมาก แม้บางคนอาจจะมีสำเนียงพื้นถิ่นค่อนข้างมาก ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตะเข็บชายแดน แต่ที่สัมผัสได้ชัดคือ เด็กๆ ทุกคนมีสัมมาคารวะ ยกมือไหว้และก้มหัวเวลารับของจากผู้ใหญ่ ก้มหลังก้มหัวเมื่อเดินผ่านผู้ใหญ่ แม้หลายคนจะมีชื่อเป็นกะเหรี่ยงแต่ก็สามารถเข้าใจขนบธรรมเนียมของไทยได้ดีมาก น่าประทับใจมาก ผมชมเชยคุณครูและผู้ปกครองที่สอนเด็กได้ดีเช่นนี้ ส่วนเรื่องการศึกษานั้น ผมเห็นโดยเบื้องต้นว่า เด็กๆ พูดภาษาไทยได้ค่อนข้างดี แต่ยังไม่ได้ทดสอบเรื่องการเขียน การอ่านภาษาไทย ข้อสังเกตอีกประการคือ เด็กๆ ที่นี่ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานดีในระดับน่าพอใจ และเป็นเรื่องดีที่ทางการไทยให้การศึกษากับเด็กทุกคนโดยไม่เลือกปฏิบัติว่าเด็กมีเอกสารราชการประจำตัวหรือไม่ เพราะการศึกษาไม่สามารถรอได้ เราต้องให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาก่อนเป็นอันดับแรก เพราะเด็กๆ เหล่านี้จะต้องเติบโตขึ้นทุกวัน และต้องเป็นประชากรที่มีคุณภาพของไทยและของโลกด้วย เมื่อเขาได้รับการศึกษาที่ดีพอ เขาจะสามารถพัฒนาตัวเองได้ดีในอนาคต จะเป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศไทยและสังคมโลก ผมพอจะมองเห็นถึงความเหลื่อมล้ำบางอย่างของเด็กที่นี่กับเด็กในเมืองใหญ่ๆ บ้าง แต่ก็นับว่าไม่มากจนเกินไป เราต้องค่อยๆ แก้ปัญหานี้ไปเรื่อยๆ ที่ละขั้นตอน แต่ตอนนี้ต้องให้การศึกษาที่ดีกับเขาก่อน อีกเรื่องหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นถือเด็กทุกคนที่นี่เล่นกันได้อย่างสนุกสนาน ไม่มีการแบ่งว่าเป็นเด็กไทยหรือเด็กกะเหรี่ยง ทุกคนเข้ากันได้อย่างดี กลมกลืนกันดีมาก
คุณหมอสังเกตไหมครับว่า เด็กระดับอนุบาลที่นี่มีจำนวนค่อนข้างมาก คือ 60-70 คน นับว่ามากกว่าโรงเรียนในเมืองหลายแห่งด้วยซ้ำไป
พล.อ.ต.นพ.คำพร : จริงครับ ผมสังเกตเห็นเหมือนกัน แสดงว่าปัญหาเด็กมีจำนวนน้อยในพื้นที่นี่ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงมากนักเมื่อเทียบกับสังคมเมืองใหญ่ๆ การที่เด็กๆ อายุ 5-6 ขวบ เข้ามาเรียนอนุบาลเป็นจำนวนมาก ก็นับเป็นเรื่องดี แสดงว่าผู้ปกครองเด็กเห็นถึงความสำคัญของการศึกษา จึงส่งลูกหลานมาเรียนกันมากมายและเข้าใจว่าชื่อเสียงของโรงเรียนแห่งนี้ทำให้ผู้ปกครองนักเรียนไว้วางใจ นับเป็นเรื่องดีครับ ผมดีใจที่มีเด็กนักเรียนมากๆ อยู่ในโรงเรียน เพราะดีกว่าเด็กไม่ได้รับการศึกษาการอยู่ในระบบการศึกษาจะช่วยให้เขามีกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ตามมา ทั้งเรื่องความรู้และการใช้ชีวิตรวมกันเด็กอื่นๆเท่าที่ผมพอจะทราบคือเด็กๆ เหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่กับปู่ย่าตายายมากกว่าอยู่กับพ่อแม่ เพราะพ่อแม่ต้องเข้าไปทำงานในเมืองหรือต่างถิ่น แต่ก็ยังดีที่ปู่ยาตายายนำเด็กมาเข้าโรงเรียน
สุดท้ายคุณหมอจะฝากอะไรถึงผู้คนในสังคมไทยเกี่ยวกับการช่วยเหลือแบ่งปันให้กับเด็กๆ ในท้องที่ห่างไกลทุรกันดารบ้างครับ
พล.อ.ต.นพ.คำพร : ผมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่มีจิตใจดีและมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มาโดยตลอด ยิ่งได้รู้ว่าที่ไหนขาดแคลน ก็มักจะให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดีและยังมีคนอีกมากมายในสังคมไทยที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือ แต่เรามีแนวคิดว่าการช่วยเหลือที่เรามอบให้สังคมนั้น ให้เพื่อให้ผู้รับการช่วยเหลือสามารถนำไปประคับประคองชีวิตในยามที่เดือดร้อนเพื่อให้ผ่านความทุกข์ร้อนไปได้ แล้วจากนั้นก็สามารถทำให้ตนเองสามารถยืนบนลำแข้งของตนเองได้ จนเมื่อวันหนึ่งที่เขามีความพร้อมในชีวิตแล้ว เขาก็จะทำหน้าที่เป็นผู้แบ่งปันและเป็นผู้ให้กับคนอื่นๆ ต่อไปได้ ผมเชื่อว่าคนในสังคมไทยที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะช่วยเหลือผู้อื่นได้ ยังมีอีกจำนวนไม่น้อย และคนเหล่านั้นก็ยินดีช่วยเหลือแบ่งปันให้ผู้อื่นด้วยความเต็มใจ เพราะอยากเห็นเพื่อนร่วมสังคมมีชีวิตที่ดีขึ้น ผมเชื่อด้วยว่าสังคมไทยของเรายังมีคนที่พร้อมจะแบ่งปันและจุนเจือเพื่อนร่วมสังคม เพราะต้องการให้เพื่อนร่วมสังคมมีความสุขมากขึ้น เรามาช่วยกันคนละไม้ละมือตามกำลังความสามารถครับ
ดาบตำรวจ (หญิง) มาลินณา สังข์แก้ว ครูใหญ่โรงเรียน ตชด.บ้านถ้ำหิน
เรียนถามคุณครูว่า นักเรียนส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา ใช่ไหมครับ แล้วเด็กส่วนใหญ่มีปัญหาเอกสารราชการหรือไม่ครับ หากมีปัญหาเอกสาร เราแก้อย่างไรครับ
ด.ต. (หญิง) มาลินณา : ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์เป็นเด็กจากตะเข็บชายแดนค่ะ บางคนไม่มีเอกสารราชการประจำตัว เพราะพ่อแม่ไม่ได้แจ้งเกิดตามระบบ บางคนพ่อแม่เป็นกะเหรี่ยง แต่บางคนเกิดบนแผ่นดินไทย ดังนั้นคนที่เกิดบนแผ่นดินไทยก็มีสัญชาติไทยโดยกฎหมาย เมื่อแจ้งเกิดได้ตามระบบ ถามว่ามีปัญหาบ้างไหม ก็ตอบว่ามีบ้าง แต่เราก็ต้องทำให้เด็กทุกคนได้เรียนหนังสือก่อน ส่วนเรื่องเอกสารราชการก็ค่อยๆ แก้กันไปตามขั้นตอน โดยรัฐบาลก็พยายามแก้ปัญหานี้ด้วยการออกรหัสประจำตัวให้เด็กๆ ที่มีปัญหาเรื่องเอกสารราชการ เพื่อให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และได้รับอาหารกลางวัน และได้รับอุปกรณ์การเรียนครบทุกคน สำหรับตัวดิฉันในฐานะครูก็ต้องทำให้เด็กได้เรียนหนังสือก่อน ส่วนปัญหาต่างๆ ก็แก้กันไป
นักเรียนที่นี่ส่วนใหญ่มีบ้านอยู่ห่างจากโรงเรียนมากไหมครับ ห่างไกลที่สุดกี่กิโลเมตรครับ
ด.ต. (หญิง) มาลินณา : ส่วนใหญ่อยู่ห่างจากโรงเรียนพอประมาณ คือ 3-5 กิโลเมตร แต่บางคนก็อยู่ไกลถึง 10 กิโลเมตร เพราะฉะนั้นเวลามาโรงเรียนจึงต้องมีผู้ปกครองนำเด็กขึ้นรถยนต์บ้าง รถจักรยานยนต์พ่วงข้างบ้างมาส่งและมารับกลับบ้าน แต่ก็มีเด็กนักเรียนบางกลุ่มที่อาศัยอยู่ในสถานที่พักของโบสถ์คริสต์ที่อยู่ไม่ห่างจากโรงเรียนมากนัก เพราะบ้านจริงๆ ของพวกเขาอยู่บนดอยสูงริมตะเข็บชายแดน จึงต้องมาอาศัยอยู่ในเขตตัวอำเภอสวนผึ้ง ดังนั้นเด็กๆ ในชุมชนเดียวกันก็มักจะมาโรงเรียนด้วยรถยนต์รับส่ง หรือรถจักรยานยนต์พ่วงข้างด้วยกัน โดยมีผู้ปกครองของเด็กเป็นผู้ให้บริการรับส่ง ซึ่งก็มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางพอสมควร
ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา จำนวนนักเรียนมีมากขึ้นหรือน้อยลงอย่างไรบ้างครับ
ด.ต. (หญิง) มาลินณา : จำนวนไม่ค่อยแตกต่างกันมากนักค่ะ คือเฉลี่ย 200 คน ล่าสุดมีจำนวน 221 คนก็อย่างที่เรียนให้ทราบคือเด็กส่วนใหญ่มาจากตะเข็บชายแดน แต่ก็มีเด็กจากหมู่บ้านรอบๆ โรงเรียนเข้ามาเรียนด้วยค่ะ
มีคุณครูทั้งหมดกี่คนครับ
ด.ต. (หญิง) มาลินณา : มีครูและเจ้าหน้าที่รวม 12 คน เป็นครู ตชด. 8 คน และเจ้าหน้าที่อัตราจ้าง4 คน โดยสองคนเป็นครูพี่เลี้ยงเด็กระดับอนุบาล ครูพี่เลี้ยงเด็กอนุบาลมีความสามารถพิเศษคือสื่อสารด้วยภาษาถิ่นกับเด็กๆ ได้ค่อนข้างดี เพราะเด็กอนุบาลนั้น เมื่อเข้ามาเรียนใหม่ๆ จะใช้ภาษาไทยไม่ได้ ต้องมาปรับการใช้ภาษาอยู่ระยะหนึ่ง ซึ่งครูพี่เลี้ยงมีส่วนช่วยในการปรับได้ดีมาก จนทำให้เด็กๆ เรียนรู้การใช้ภาษาไทยได้ค่อนข้างรวดเร็ว
เด็กนักเรียนส่วนมากใช้ภาษาไทยผสมกับภาษาพื้นถิ่นใช่ไหมครับ
ด.ต. (หญิง) มาลินณา : ใช่ค่ะ เวลาเรียนหนังสือในห้องเรียน เด็กๆ จะใช้ภาษาไทย แต่เวลาเด็กๆ เล่นกันในช่วงพัก เขาจะใช้ภาษาถิ่นผสมกับภาษาไทย หรือเวลาเขาพูดกับครูและเพื่อนที่เป็นเด็กไทย เขาก็ใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร แต่เวลาเขาอยู่กันเอง เขาก็ใช้ภาษาถิ่น
อุปสรรคสำคัญในการสอนหนังสือเด็กที่มีพื้นเพมาจากตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา ในสายตาของคุณครูคืออะไรครับ
ด.ต. (หญิง) มาลินณา : อุปสรรคคือการที่ครูไม่เข้าใจภาษาถิ่นของเด็ก ทำให้บางครั้งสื่อสารกับเด็กได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ครูก็พยายามจะศึกษาภาษาถิ่นของเด็กๆ มากขึ้นนะคะ แต่เด็กๆ ก็น่ารัก เพราะพยายามศึกษาภาษาไทย แม้จะมีปัญหาบ้างในการออกเสียงภาษาไทย และการสะกดตัวเขียนภาษาไทย เนื่องจากเด็กบางคนนั้น ในภาษาถิ่นของเขาไม่มีตัวสะกด ดังนั้นเวลาเขาออกเสียงแบบภาษาถิ่นจึงต่างกับภาษาไทยพอประมาณ เราก็ต้องพยายามฝึกให้เขาอ่านออกเสียง และเขียนตัวสะกด
ให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทย แรกๆ นั้นเด็กที่มาจากตะเข็บชายแดนอาจจะพูดภาษาไทยตามรูปแบบภาษาถิ่น เช่น การมาโรงเรียนด้วยการเดินมา เขาจะบอกว่าเขามากับขา คือเขาเดินมาโรงเรียน แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เราฝึกสอนเขาสักพักหนึ่ง อาจจะหนึ่งเทอมหรือสองเทอม เด็กก็ปรับตัวได้ดี แต่ปัญหาเรื่องตัวสะกดในภาษาไทยยังต้องเข้มงวดกันอีกพอสมควร เช่น เวลาเด็กสะกดคำว่า ขอขอบคุณครับ เขาจะสะกดตามเสียงอ่าน คือขอขอคุณครับ เนื่องจากเขาไม่มีตัวสะกดบางเสียงในภาษาถิ่น
อัตราการเรียนต่อเมื่อจบประถมปีที่ 6 มีสูงไหมครับ และเรียนจนจบระดับมัธยมปลายไหมครับ
ด.ต. (หญิง) มาลินณา : เรียนต่อครบ 100 เปอร์เซ็นต์ค่ะ โดยส่วนใหญ่เรียนต่อในโรงเรียนมัธยมอำเภอสวนผึ้ง แต่บางคนเมื่อเรียนไปได้ระยะหนึ่งก็อาจจะออกกลางคัน เนื่องจากมีปัญหาบางประการ เช่น ค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษา และค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่มากขึ้น ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองไม่สามารถรับภาระได้ จึงต้องออกจากการศึกษา บางครอบครัวมีลูกในวัยเรียน 3 คน ซึ่งเป็นภาระที่หนักมากสำหรับครอบครัวที่ฐานะไม่ค่อยดีมากนัก เมื่อผู้ปกครองมีเงินไม่เพียงพอก็ทำให้ต้องลาออกจากการศึกษาซึ่งผิดกับการเรียนในโรงเรียน ตชด. เนื่องจากนักเรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียน ยกเว้นค่าใช้จ่ายสำหรับเดินทางไปกลับโรงเรียน และค่าใช้จ่ายส่วนตัวเท่านั้น แต่เมื่อไปเรียนต่อระดับมัธยมต้น เด็กๆ ต้องมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น ก็ทำให้บางคนไม่สามารถเรียนต่อจนจบได้ บางคนมีอายุมากกว่าเด็กที่เรียนตามเกณฑ์ปกติ ก็อาจมีปัญหาการปรับตัวในสังคมโรงเรียนบ้าง หากปรับตัวไม่ได้ก็ลาออก เมื่อเรารู้ว่าเขาลาออก ก็ต้องไปตามตัวเขาให้กลับมาเรียนในโครงการพิเศษ เช่น โครงการพระดาบส เพื่อฝึกให้เขามีอาชีพติดตัวต่อไป หรือเพื่อให้เขาไปเรียนต่อในโรงเรียน กศน. (การศึกษาผู้ใหญ่)
เด็กชายธงชัย แดง นักเรียนชั้นประถมศึกษา 5 โรงเรียน ตชด. บ้านถ้ำหิน
น้องธงชัยชอบเรียนวิชาอะไรมากที่สุดครับ
ด.ช.ธงชัย : ชอบวิชาภาษาไทยมากครับ
ชอบเรียนภาษาไทย เพราะอะไรครับ
ด.ช.ธงชัย : อ่านง่านและเขียนง่ายครับ
นอกจากวิชาภาษาไทยแล้ว ชอบวิชาอะไรอีกบ้างครับ ชอบเพราะอะไรครับ
ด.ช.ธงชัย : วิชาสังคมศึกษาครับ ชอบวิชาสังคมฯเพราะเรียนแล้วทำให้รู้จักสังคมในแง่มุมต่างๆ ได้กว้างขวางขึ้น รู้ว่าโลกเรามีลักษณะสังคมแตกต่างกันอย่างไร ปกครองด้วยระบบอะไรบ้าง มีความเป็นอยู่ต่างกันอย่างไร และมีประเทศต่างๆ อะไรบ้างครับ
เก่งมากครับ บ้านของน้องอยู่ไกลจากโรงเรียนกี่กิโลเมตรครับ มาโรงเรียนด้วยวิธีไหนครับ
ด.ช.ธงชัย : 7 กิโลเมตรครับ มาโรงเรียนด้วยรถจักรยานยนต์ครับ ผมพาน้องๆ มาด้วยครับ
เวลาน้องธงชัยอยู่บ้าน ใช้ภาษาอะไรพูดคุยกับคนที่บ้านครับ
ด.ช.ธงชัย : ภาษากะเหรี่ยงครับ แต่ก็มีการใช้ภาษาไทยผสมด้วยครับ หากพูดกับคนเฒ่าในหมู่บ้านก็ใช้ภาษากะเหรี่ยง แต่หากพูดคุยกับเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันหรือกับผู้ใหญ่ที่อายุไม่มากนัก ก็ใช้ภาษาไทยผสมภาษากะเหรี่ยงครับ
คิดว่าภาษาไทยยากไหมครับ
ด.ช.ธงชัย : ไม่ยากครับ แต่ก็มีบางคำยากนิดหน่อยครับ (หัวเราะ)
น้องธงชัย อยากทำอาชีพอะไรเมื่อเรียนจบแล้วครับ
ด.ช.ธงชัย : อยากเป็นหมอครับ
เพราะอะไรจึงอยากเป็นหมอครับ
ด.ช.ธงชัย : เพราะต้องการกลับมารักษาปู่ยาตายายพ่อแม่และญาติๆ รวมถึงคนในแถวๆ บ้านของผมครับ และเพื่อจะได้รักษาโรคให้ประชาชนด้วยครับ
น่ารักมาก ขอให้กำลังใจนะครับ ขอให้ตั้งใจเรียนหนังสือด้วยครับ จะได้เป็นคุณหมอได้ตามที่ตั้งใจไว้แล้วน้องธงชัยต้องการบอกอะไรกับลุงๆ ป้าๆ ที่นำสิ่งของมาบริจาคในวันนี้บ้างครับ
ด.ช.ธงชัย : อยากขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกคนครับ ขอบพระคุณที่เมตตาพวกผมและเพื่อนๆ ผมดีใจมากที่ลุงๆ ป้าๆ ทั้งหลายนำอาหารอร่อยๆ มาให้พวกผมรับประทาน และมีของต่างๆ มามอบให้ ขอบพระคุณสำหรับรองเท้านักเรียนที่นำมามอบให้ และขอบพระคุณที่นำสิ่งของมากมายมามอบให้ครับ ผมไม่มีสิ่งใดจะมอบให้ลุงๆ ป้าๆ ผู้ใจดี แต่มีเพียงบัตรอวยพรปีใหม่ที่พวกผมตั้งใจทำให้กับทุกคนครับ และพวกผมให้สัญญาว่าจะตั้งใจเรียนหนังสือ และจะเป็นคนดีของสังคมครับ ขอบพระคุณทุกท่านที่มีเมตตาต่อพวกผมครับ
คุณจะได้ชมรายการไลฟ์ วาไรตี รายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความรู้ ออกอากาศทุกวันเสาร์เวลา 14.05-14.30 น. ทางโทรทัศน์ NBT กดหมายเลข 2และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTube ไลฟ์ วาไรตี