เมื่อเอ่ยถึงเชฟผู้เข้าแข่งขันรายการทำขนม คงไม่มีใครเหมาะกับฉายา “เจ้าชายขนมหวาน” ไปมากกว่า เชฟจี-โชติพัฒน์ ใหลสุวรรณ์ แบรนด์แอมบาสซาเดอร์เชฟ ของเดบิค (Debic Brand Ambassador) ซึ่งปัจจุบันเป็นเชฟเจ้าของร้าน Geelicious Bakehouse เชฟจี คือ ผู้คร่ำหวอดในด้านขนมมามากกว่า 10 ปี โดยหลังจบการศึกษาด้าน Pastry โดยตรงจาก ฟิลาเดเฟีย สหรัฐอเมริกา และทำงานเป็น Executive Pastry Chef ในโรงแรมระดับ 5 ดาวพ่วงตำแหน่งผู้พิชิต เชฟกระทะเหล็กขนมหวานประเทศไทย และดีกรีผู้เข้าแข่งขัน 8 คนสุดท้าย ของรายการ ศึกค้นหาเชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย (The Next Iron Chef -Thailand) ซีซั่นที่ 2
เชฟจี-โชติพัฒน์ ใหลสุวรรณ์
สิ่งสำคัญสำหรับเชฟขนมหวาน เชฟจี-โชติพัฒน์ ใหลสุวรรณ์ กล่าวว่า รสชาติและคุณภาพ น่าจะเป็นสิ่งที่เชฟทุกสาขาให้ความสำคัญ ดังนั้น การเลือกวัตถุดิบในการทำขนมให้ตอบโจทย์ทั้งสองอย่างจึงเป็นสิ่งสำคัญ
เมื่อถามถึงหลักการในการเลือกวัตถุดิบ เชฟขนมหวานมืออาชีพ เน้นว่า การเลือกวัตถุดิบที่ดีนอกจากการเลือกแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือ รสชาติและคุณค่าทางโภชนาการแล้ว วัตถุดิบนั้นๆ ต้องตรงกับคุณสมบัติหรือความต้องการในการใช้งานด้วย เช่น วิปปิ้งครีม นอกจากรสชาติและกลิ่นที่ต้องให้ความหอมมัน แบบ dairy product แท้ ก็ต้องสามารถตีให้ขึ้นง่าย ให้เนื้อสัมผัสที่ต้องการ เป็นต้น วัตถุดิบที่ดีจะช่วยให้สามารถทำขนมออกมาได้ตรงตามสูตร
“บางครั้งการใช้วัตถุดิบที่มีมาตรฐานไม่ดีพอ หรือ ลดต้นทุน สำหรับมืออาชีพแล้ว นอกจากทำให้สูญเสียความมั่นใจแล้ว ยังอาจสูญเสียลูกค้าได้ ความเสถียร ได้มาตรฐานของวัตถุดิบนั้นจึงเป็นปัจจัยหลักในการเลือก และที่ผมเลือก endorse ให้กับเดบิค เพราะเป็นแบรนด์ที่มีมาอย่างยาวนานมากกว่า 100 ปีได้รับการยอมรับในหมู่เชฟมืออาชีพทั่วโลก บวกกับรสชาติที่เข้มข้น มีความเป็น dairy product แท้ เต็มรสชาติ”
กับเทรนด์ขนมหวานในเมืองไทย เชฟจี มองว่า เป็นขนมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกาหลี เค้กที่ดีไซน์มินิมัล เรียบๆ แต่ว่ารสชาติดีกำลังเป็นที่นิยม อีกหนึ่งสิ่งที่ผมสังเกต เห็นความแตกต่างระหว่างผู้บริโภคชาวไทยกับต่างชาติ คือ การนิยมรับประทานขนมที่หวานน้อย เนื่องจากไม่ได้รับประทานจริงจังตบท้ายมื้อแบบเวสเทิร์น ทั้งขนาด (portion) ในการรับประทานและรสชาติจึงแตกต่าง คนไทยจะนิยมอะไรที่ค่อนข้างเบา ให้รสชาติหวานละมุน ไม่หนัก ให้ความรู้สึกสดชื่น นิยมรับประทานกับเครื่องดื่ม อารมณ์ afternoon tea
“ปัจจุบันคนไทยมีเชฟเก่งๆ มากมาย ที่มีรูปแบบการทำขนมจากต้นตำรับ ไม่ว่าจะอิตาลี หรือ ฝรั่งเศส มีเทคนิคมากมาย สิ่งที่อยากเห็นคือการเพิ่มอัตลักษณ์ ตัวตนที่ทำให้คนทั่วโลกรู้ว่านี่คือขนมหวานสไตล์ประเทศไทย อย่างเชฟกระทะเหล็กระดับโลก ที่เป็นชาวเม็กซิกัน เขาก็จะมีลายเซ็นที่ดูออกว่าเป็นคนเม็กซิกันทำ หรือ อย่างเชฟขนมของเกาหลีและญี่ปุ่น ก็จะมีลักษณะร่วมเฉพาะที่ทำให้ดูออกว่าเป็นชาติใด อยากเห็นตรงจุดนี้มากขึ้นในอนาคต”
ทั้งนี้ การได้เดินทางไปที่ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ช่วยให้เชฟจีได้อัปเดตเทรนด์โลก เทคนิคใหม่ๆ พบแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เมนูใหม่ รวมไปถึงการทำงานร่วมกับเชฟคนอื่น ทำเมนูพิเศษ collaboration เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และไอเดีย ท้ายสุดเชฟจี ฝากเคล็ดลับการทำขนมสำหรับมือสมัครเล่นให้ได้ผลลัพธ์ตามสูตรว่า “จริงๆ แล้วสูตรส่วนใหญ่มักจะมีแนะนำวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ อยากให้ทุกคนลองเริ่มจากการลองทำตามคำแนะนำดูแล้วดูว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไร เป็นไปตามที่สูตรแนะนำไหม หลังจากนั้นค่อยลองปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามรสชาติและเนื้อสัมผัสที่อยากได้”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี