อดิเรก คำน้อย และผลงาน

ผ่านไปด้วยดี สำหรับการประกวด สุดยอดนักออกแบบผ้าไทย จากรายการแฟชั่นเรียลิตี้ “ทอฟ้าผ้าไทย” ซีซั่น 2 เวทีค้นหาสุดยอดนักออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้าจากผ้าไทย โดยความร่วมมือจาก กระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ช่อง 9 อสมท และบริษัท ธัมส์ อัพ มีเดีย จำกัด ซึ่งนักออกแบบหนุ่มหน้าใส อดิเรก คำน้อย นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาออกแบบแฟชั่น คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ก็สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ พร้อมเงินรางวัลมูลค่า 200,000 บาท และได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ไปครอง จากผู้เข้าแข่งขัน 10 คน ในรอบแรก กระทั่งเหลือ 3 คนสุดท้าย ในรอบชิงชนะเลิศ กับโจทย์สุดท้าย คือ คอลเลคชั่น “ผ้าไทยสู่อาเซียน” ซึ่งผู้เข้าแข่งขันต้องออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าสำหรับสุภาพบุรุษจำนวน 2 ชุด และสุภาพสตรีจำนวน 5 ชุด รวมทั้งหมด 7 ชุดด้วยกัน

เจนิสตาร์  รักษ์สิริโสภา ผู้จัดรายการ ทอฟ้าผ้าไทย กล่าวว่า “สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ต้องบอกว่าพอเห็นผลงานของเขาแล้วรู้เลยว่ามีลายเซ็น รู้ทันทีว่าเป็นผลงานของใคร ซึ่งเขาสามารถทำผ้าไทยให้ดูทันสมัย และตอบโจทย์คอนเซ็ปต์ของรายการทอฟ้าผ้าไทย The Modern legacy ที่สำคัญคอลเลคชั่นที่เขานำเสนอก็มีเสื้อผ้าที่สามารถใส่ได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย ทั้งวัยรุ่น ผู้ใหญ่ ผู้ชายและผู้หญิง และตอบโจทย์ในการออกแบบผ้าไทยโดยทำให้ผ้าไทยไม่ดูแก่ ไม่เชย และสามารถ สวมใส่ได้ในชีวิตจริง และในฐานะ ผู้จัดรายการ ทอฟ้าผ้าไทย กล่าวถึงความภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นรวมทั้งปลุกกระแสให้คนรุ่นใหม่เห็นความสำคัญและรับรู้ถึงคุณค่าของผ้าไทยกันเพิ่มมากขึ้น

ผู้จัดงานและคณะกรรมการ ปิยวรา ทีขะระ เนตรน้อย, อรนภา กฤษฎี, เจนิสตาร์ รักษ์สิริโสภา, ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่, กุลวิทย์ เลาสุขศรี และ สุทธิรัตน์ แก้วอาภรณ์

อดิเรก คำน้อย หรือ อาร์ม ผู้ชนะเลิศการออกแบบ กล่าวว่า คอลเลคชั่น The reflection of Thai identity นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมที่งดงามตามวัดวาอารามต่างๆ นำมาตัดทอนเป็นผลงานสร้างสรรค์ที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน ชุดที่ปรากฏ ไม่ว่าจะเป็นกระจกที่ประดับชุดก็นำแนวคิดมาจากกระจกที่ประดับตามวิหาร หรือประติมากรรมนูนต่ำและนูนสูงที่เห็นตามเจดีย์ หรือบริเวณฐานองค์พระประธาน ตลอดจนสีสันที่ใช้เน้นสีเงิน สีทองซึ่งเป็นสีหลักๆ ที่มักพบเห็นได้ในวัด รวมทั้งเครื่องประดับชุดต่างๆ ก็ได้ไอเดียมาจากตัวพระ ตัวนางจากจิตรกรรมฝาผนังภายในวัดเช่นกัน

อยากฝากถึงคนรุ่นใหม่ที่เป็นผู้เสพแฟชั่นว่า อยากให้ลองทำความรู้จักกับผ้าไทย เพื่อจะได้รู้ว่าผ้าไทยมิใช่สวมใส่ได้เฉพาะเวลาไปวัด หรือใส่เฉพาะในวันสำคัญที่เป็นทางการเท่านั้น แต่สามารถออกแบบให้เข้ากับยุคสมัยสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน ที่สำคัญผ้าไทยบางชนิดก็มีความสวยงามและทรงคุณค่ามากจริงๆ

สำหรับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ณัฐพล แซ่จิว ส่วนรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ภาณุพงษ์ อินทะมน