เป็นนักธุรกิจหญิงและคุณแม่ลูก 3 อีกคนที่บริหารจัดการชีวิตทั้งในบ้านและนอกบ้านได้อย่างมีระบบ และยังแบ่งเวลามาทำงานทางด้านนิติบัญญัติ ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ชลธิชา ชินะศิริกุล กรรมการบริหาร บริษัท เค ซี แลนด์ จำกัด บนเก้าอี้ผู้บริหารบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งบทบาทของแม่และภรรยาที่ต้องบริหารจัดการทางการเงินเพื่อความมั่นคงของครอบครัว เธอมีมุมมองที่น่าสนใจ
ชลธิชา ชินะศิริกุล จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ระหว่างเรียนมหาวิทยาลัย เธอมีแววของความเป็นนักธุรกิจ จากการซื้อ-ขายสินค้าแบรนด์เนมมือสอง นอกจากทำให้เธอมีรายได้เสริมแล้ว ยังทำให้เธอได้เรียนรู้การทำธุรกิจจากประสบการณ์ตรง เมื่อเรียนจบได้ทำงานที่ บริษัท ไมเนอร์ คอเปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดูแลแบรนด์เสื้อผ้า GAP ในตำแหน่ง Product Buyer และเมื่อมีชีวิตครอบครัวพร้อมกับดูแลลูกๆ อีก 3 คน ทำให้ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ และเข้าสู่วงการอสังหาริมทรัพย์ เป็นผู้บริหาร บริษัท เค ซี แลนด์ จำกัด บริหารจัดการอพาร์ทเมนท์ให้เช่าขนาดใหญ่ ทาวน์เฮาส์ พื้นที่ตลาดตามมุมเมือง และยังทำธุรกิจซื้อ-ขายสินค้าแบรนด์เนมมือสอง เป็นงานอดิเรก
“การทำงานเป็นพนักงานบริษัท เป็นช่วงที่เราได้เรียนรู้การทำธุรกิจ อาจจะไม่ครบทั้งระบบ แต่ด้านการตลาด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญ เราได้คลุกคลีมาตลอด พอจังหวะชีวิตเปลี่ยน มีครอบครัว ต้องทำหน้าที่ภรรยาและแม่ ซึ่งต้องการเวลาเช่นเดียวกัน ทำให้ตัดสินใจมาทำธุรกิจของตัวเอง เพราะเราสามารถจัดสรรเวลาได้ ดิฉันคิดว่าผู้หญิงทำงานทุกคนมีความสามารถพิเศษในการเป็นภรรยาและแม่นะคะ แต่เราต้องรู้วิธีจัดการให้มันสมดุล พอเข้าบ้านดิฉันจะวางงานลง และให้ความสำคัญกับทุกคนในบ้าน ลูกๆ ต้องการเวลาจากเรา เหมือนกับที่ธุรกิจก็ต้องการเวลาจากเราเช่นกัน”
ภายใต้ใบหน้าที่สวยงามและดูหวานละมุน แทบไม่น่าเชื่อว่า ชลธิชา ในวัย 42 ปี กำลังทำหน้าที่คุณแม่ของลูกๆ ถึง 3 คน และอยู่ในวัยที่กำลังเติบโต เธอมองว่า การบริหารทางการเงิน เป็นสิ่งที่ทุกครอบครัวต้องให้ความสำคัญ เพราะมันหมายถึง อนาคตที่มั่นคงของทุกครอบครัว สำหรับเธอแล้วไม่ได้มองว่า การทำธุรกิจจะได้ผลกำไรมากน้อยแต่ไหน แต่อยู่ที่ว่า มีเงินเหลือเก็บสำหรับครอบครัวหรือไม่?
“ทุกธุรกิจ ก็ต้องการผลกำไร และนำผลกำไรนั้นไปลงทุนต่อ แต่สำหรับดิฉันจะแบ่งเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กัน คือ ส่วนการลงทุน และการเก็บออม ไม่ใช่นำไปลงทุนหมด เพื่อหวังผลกำไรที่สูงขึ้น แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น เราจะอยู่ในภาวะเสี่ยงจนถึงขั้นล้มละลายได้ การตัดสินใจทางการเงินที่เกินตัว อาจจะทำให้เราอยู่ในความเครียดระยะยาว ดิฉันจะคอยเตือนตัวเองให้รอบคอบทางการเงินมากที่สุด แบบค่อยเป็นค่อยไป เมื่อมั่นใจแล้วจึงลงทุน”
แม้จะค่อนข้างระมัดระวังเรื่องการลงทุน แต่เธอก็ไม่ได้ตระหนี่จนไม่ออกไปใช้ชีวิต เพราะประสบการณ์นอกบ้านเป็นส่วนสำคัญที่เธอต้องการให้ลูกๆ ได้เรียนรู้ ถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจดีๆ ให้กับลูกๆ เมื่อเติบโตขึ้น ที่สำคัญคือ อย่าหยุดเรียนรู้เรื่องการเงินอย่างสม่ำเสมอ เพราะจะช่วยให้เราได้เปรียบในด้านบริหารการเงิน
“การวางแผนทางการเงินที่ดี ไม่ใช่การตระหนี่เกินไปจนทำให้ชีวิตขาดความสุข การวางแผนการเงินควรมีพื้นที่สำหรับซื้อความสุขให้กับตัวเองและทุกคนในครอบครัวด้วย หรือให้รางวัลกับตัวเองบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การทานอาหาร การไปดูคอนเสิร์ต เป็นครั้งคราวเพื่อสร้างสมดุลให้กับชีวิต เพราะถ้ามีเงินอย่างเดียวแต่ชีวิตห่อเหี่ยว นั่นก็ไม่ใช่การวางแผนการเงินที่ถูกต้อง การได้พาลูกๆ ออกนอกบ้าน หรือไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง ก็เพื่อให้เขาได้เรียนรู้โลกข้างนอก ได้เข้าใจว่าการทำงานหนักของพ่อและแม่ ก็เพื่อความสุขของลูก
อีกอย่างคือ โลกของการเงินมีความซับซ้อน แต่เงินเป็นสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิต เราอาจไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง แต่การจะรักษาสถานะทางการเงินที่มั่นคงในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เราจำเป็นต้องเปิดรับความรู้เรื่องเงินอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณได้เปรียบในการบริหารเงินและทำให้เงินงอกเงย”
เมื่อจัดการชีวิตได้สมดุลแล้ว ชลธิชา มองถึงโอกาสที่ทำประโยชน์เพื่อสังคม และเมื่อโอกาสนั้นมาถึงเธอรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับความไว้วางใจให้รับตำแหน่งทางนิติบัญญัติ ที่ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะเลขานุการประจำคณะกรรมาธิการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา ระหว่างปี 2563-264 และเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา
“เป็นช่วงการทำงานเพื่อประชาชนและสังคมที่ดิฉันภูมิใจมาก เราได้รับรู้ถึงปัญหาของประชาชน และรวบรวมเพื่อนำเสนอแนวทางแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป เป็นงานที่มีคุณค่ากับชีวิต และคิดว่าตัวเองโชคดีที่ได้มาถึงจุดนี้ อยากให้ผู้หญิงทุกคนภูมิใจในตัวเอง เรียนรู้ที่จะใช้ความเป็นผู้หญิงเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับครอบครัวและโลกใบนี้” ชลธิชา กล่าวทิ้งท้าย
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี