ปิดเทอมใหญ่นี้ คุณพ่อคุณแม่คงกำลังเฝ้ารอที่จะได้เห็นลูก ๆ ออกจากห้อง ออกจากบ้าน มาวิ่งเล่นออกกำลังกายกันอย่างสนุกสนานกลางแจ้งในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรเฝ้าระวัง เพราะสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่จะเจอ นอกจากการสร้างเสริมสุขภาพ หรือได้เหงื่อจากการออกกำลังกายธรรมดา ๆ แล้ว อาจจะทำให้ลูกคุณไม่สบายถึงขั้นเป็น"ฮีทสโตรก" (Heat stroke) หรือ "โรคลมแดด" ได้โดยเฉพาะยิ่งเป็นเด็กเล็กที่ยังเพลิดเพลินกับความสนุกสนานไม่ทันสังเกต หรือไม่เข้าใจอาการที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ก็อาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ไม่ต่างจากผู้ใหญ่
คำแนะนำดีๆในการป้องกัน ฮีทสโตรกในช่วงหน้าร้อนนี้
ฮีทสโตรก (Heat Stroke) หรือโรคลมแดด เป็นภาวะวิกฤตที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัวหรือควบคุมระดับความร้อนภายในร่างกายได้ ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะ หน้ามืด เพ้อ ชัก ไม่รู้สึกตัว หายใจเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ช็อก หากปล่อยทิ้งไว้ให้มีอาการหรือไม่สามารถระบายความร้อนออกได้มากกว่า 2 ชั่วโมง อาจส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อหัวใจ สมอง ไต และกล้ามเนื้อ ซึ่งหากได้รับการรักษาที่ล่าช้า ก็มีอันตรายถึงชีวิตได้!
ผศ.พญ.ชิดชนก เธียรผาติ กุมารแพทย์เฉพาะทางด้านระบบประสาท รพ.พญาไท 2แนะนำว่า เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เราจะสังเกตพบว่า เด็กมีอาการฮีทสโตรก ซึ่งถึงตอนนั้นบางรายอาจจะมีอาการอยู่ในช่วงวิกฤตแล้ว ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง รวมถึงผู้ที่ดูแลกิจกรรมให้กับเด็ก ๆ ควรเฝ้าสังเกตหรือป้องกันดังต่อไปนี้
1.เด็กมีการอ่อนเพลียระหว่างทำกิจกรรมหรือไม่ แม้ว่าจะเป็นกิจกรรมที่ทำอยู่ภายในอาคารหรือในร่ม แต่ถ้าอากาศมีความอบอ้าวจนถึงร้อน และกิจกรรมนั้นทำให้เสียเหงื่อมาก โอกาสที่จะให้เกิดอาการ
2.อาการที่พบ สิ่งแรกที่เราจะพบกับเด็กที่เป็นฮีทสโตรกคือมีอาการตัวแดงเหมือนเป็นไข้ แต่ในขณะเดียวกันเมื่อสัมผัสตัวเด็กกลับพบว่า ตัวเด็กตัวเย็น
3.บางคน มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ในบางรายที่พอสื่อสารได้ จะสื่อสารแบบสับสน กระวนกระวายเหมือนคนไม่ได้สติ มีอาการกล้ามเนื้อเป็นตะคริว หลังจากนั้นอุณหภูมิในร่างกายจะสูง ซึ่งอาจจะสูงถึง 41 องศาเซลเซียส ผิวจะแห้ง ชีพจรจะเต้นถี่ แรง และหมดสติในที่สุด
เมื่อเจอ ฮีทสโตรกคุณพ่อคุณแม่ควรตั้งสติเริ่มการปฐมพยาบาลขั้นต้นซึ่งสำคัญเป็นอย่างมากเพื่อลดอุณหภูมิที่สูง
1. ให้นำตัวเด็กเข้าพื้นที่ร่ม อากาศเย็น หรือเข้าห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ หรือที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
2. จัดท่า ให้เด็กนอนอยู่ราบ และยกเท้าสูงกว่าศีรษะเล็กน้อยเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
3.ปลดเสื้อผ้าเพื่อช่วยในการระบายความร้อน
4.หากเด็กยังมีสติ ให้จิบน้ำเรื่อย ๆ แต่ไม่ควรให้ดื่มเป็นปริมาณเยอะ ๆ ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตามตัว และประคบ
ตามซอกตัว เพื่อช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายให้เร็วขึ้น ไม่ควรใช้น้ำแข็งหรือน้ำเย็นจัดราดตัว เพราะอาจจะทำให้เกิดตะคริวมากขึ้น
การป้องกันลดเจอร้อน ลดฮีทสโตรกได้หลีกเลี่ยงจัดกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่มีแดดจัดหรือช่วงที่มีอากาศร้อน รวมถึงในพื้นที่หรือสถานที่ร้อนอบอ้าว เป็นการลดโอกาสในการเกิดฮีทสโตรกได้ดีที่สุด เน้นเสื้อผ้าที่สวมใส่ระบายความร้อนได้ดี โปร่งสบาย สวมหมวกช่วยหากมีความจำเป็นต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง เตรียมน้ำดื่มและให้เด็กๆ ได้ดื่มน้ำให้เพียงพอก็จะช่วยได้มากทีเดียวนอกจากนี้เด็ก ๆ ที่ภาวะโรคอ้วน มีน้ำหนักตัวมาก หรือเด็กที่มีโรคประจำตัว ผู้จัดกิจกรรมควรพิจารณาการให้เด็กงดเข้าร่วมกิจกรรม เพราะเด็กที่ป่วยบางโรคหรือการใช้ยาบางชนิดเป็นปัจจัยในการให้เกิดฮีทสโตรกได้ง่ายกว่าเด็กปรกติ
“ฮีทสโตรก” เป็นได้ทุกเพศทุกวัย แต่สำหรับเด็ก ๆ แล้ว ความสนุกสนานหรือการเพลิดเพลินกับกิจกรรมกับเพื่อน ๆ และความไร้เดียงสา อาจนำมาซึ่งอาการป่วยของเขาได้ พ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือคนที่จัดกิจกรรม ต้องตระหนักเห็นในเรื่องนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด หรือเฝ้าสังเกตความผิดปรกติที่เกิดในเด็ก ๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมนั้นเพื่อลดความรุนแรงของโรคที่เกิดขึ้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์สุขภาพเด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลพญาไท 2 อาคาร B ชั้น 2โทร. 02-617-2444 ต่อ 3219, 3220 หรือ Phyathai Call Center 1772
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี