ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าได้รับความนิยมสูงขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน โดยพฤติกรรมการสูบบุหรี่นั้นเป็นปัจจัยอันตรายที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้บ่อยครั้ง เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคระบบทางเดินหายใจโรคถุงลมโป่งพอง วัณโรคปอด มะเร็งปอด เป็นต้น ล่าสุด Health me, pleaseby BDMS ซึ่งได้เคลียร์ข้อสงสัย ไขทุกคำถามสุขภาพในตอนของวันศุกร์ที่ 28 เม.ย.นี้ในรายการเที่ยงทันข่าว เวลา 11.00-12.45 น.ทางพีพีทีวี เอชดีช่อง 36 จึงได้หยิบยกประเด็นเรื่องการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเสี่ยงโรคหัวใจน้อยกว่าสูบบุหรี่ธรรมดานั้น มีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
นพ.ชาติทนง ยอดวุฒิ อายุรแพทย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ เผยว่าผลกระทบที่ส่งผลต่อสุขภาพ ณ เวลานี้ไม่ได้มีเพียงแค่ฝุ่นละออง PM2.5 เท่านั้น แต่ภัยจากควันจากบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้านั้น เป็นตัวจุดชนวนสร้างสารอนุมูลอิสระ (Free Radical) ซึ่งมีผลต่อสุขภาพเราได้ด้วยเช่นเดียวโดยจะก่อให้เกิดโรคเรื้อรังได้เช่นกันหากมีการสะสมในปริมาณสารมากและเป็นระยะเวลานาน ซึ่งจะทำให้ป่วยเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจหรือแม้กระทั่งโรคทางเดินหายใจและปอด สารอนุมูลอิสระที่เกิดจากการเผาไหม้ของเหลวในบุหรี่ไฟฟ้าจะดูดซึมเข้าไปกระตุ้นให้หลอดเลือดเกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่ยืดหยุ่น เปราะบาง อันจะก่อให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือดจนเกิดเป็นลิ่มเลือดเข้าไปอุดตันหลอดเลือด และอาจส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจตีบได้
ทั้งนี้ นพ.ชาติทนง ได้ออกมาย้ำเตือนภัยของบุหรี่ไฟฟ้า โดยของเหลวอันเป็นสารประกอบต่างๆ ที่พบในบุหรี่ไฟฟ้านั้น แม้จะยังไม่มีสถิติหรืองานวิจัยระบุว่าไอระเหยของบุหรี่ไฟฟ้ามีพิษร้ายแรงเช่นไร แต่ของเหลวที่ถูกเผาไหม้จากบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีขนาดอนุภาคที่เล็กกว่าบุหรี่ธรรมดา จะสามารถแทรกซึมเข้าไปในปอดส่วนลึกได้และรวดเร็ว เนื่องจากไอระเหยเหล่านั้นมีอนุภาคที่เล็กจึงง่ายต่อการดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็วถ้าต้องการหลีกเลี่ยงโรคหัวใจ ก็ควรงดหรือหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า เพราะอย่างน้อยก็จะตัดปัจจัยเสี่ยงต่อการทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้ จากสถิติพบว่า 1 ใน 3 ของผู้ที่เสียชีวิตจากโรคหัวใจนั้นมาจากบุหรี่
ปัจจุบันเทคโนโลยีในวงการแพทย์ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากอดีต โดยมีวัฒนาการที่ก้าวไปไกลมากขึ้น รวมถึงมีเทคโนโลยีที่แม่นยำ อาทิ การตรวจสมรรถภาพการทำงานของหัวใจโดยการวิ่งบนสายพาน(Exercise Stress Test) การตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยคลื่นความถี่สูง (Echocardiogram) หรือการตรวจวัดระดับแคลเซียมบริเวณผนังหลอดเลือดหัวใจ (CT Coronary Calcium Score) การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม การทำงานของไต ระดับไขมันคอเลสเตอรอล ระดับไขมันความหนาแน่นสูง-ต่ำ และระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดทำให้เราทราบถึงความเสี่ยงและแนวโน้มที่อาจจะทำให้เกิดโรคหัวใจในอนาคต ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยในสุขภาพจึงควรตรวจเช็คหัวใจกับแพทย์เป็นประจำทุกปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี