พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหารกลุ่มเซ็นทรัล นำทีมบริจาคโลหิต
กลุ่มเซ็นทรัล ตระหนักและให้ความสำคัญต่อวิกฤตการณ์ขาดแคลนเลือดเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นตลอดระยะเวลากว่า 37 ปี กลุ่มเซ็นทรัล และบริษัทในเครือ จึงร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย และภาคีเครือข่ายในแต่ละจังหวัด เปิดหน่วยรับบริจาคโลหิตมากกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ ทั้งหน่วยบริการแบบเคลื่อนที่ และหน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ (Fixed Station) อีกทั้งยังจัดทำโครงการเพื่อให้พนักงานและประชาชนมีส่วนร่วมในการทำประโยชน์เพื่อสังคม โดยการบริจาคโลหิตมาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจุดยืนความเป็นผู้นำแห่งการสร้างคุณค่าร่วมกันในสังคมด้วยการเป็นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและศูนย์การค้าแห่งแรกที่ให้การสนับสนุนพื้นที่รับบริจาคโลหิตมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ซึ่งมีการส่งมอบโลหิตไปแล้วรวมกว่า 200 ล้านซีซี ให้กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย, สาธารณสุขจังหวัด, โรงพยาบาลประจำจังหวัด, เหล่ากาชาดจังหวัด และหน่วยงานโรงพยาบาล ที่ร้องขอเร่งด่วน และสำหรับในปี 2566 นี้ กลุ่มเซ็นทรัลตั้งเป้าการรับบริจาคโลหิต 15 ล้านซีซีภายใต้โครงการ “Central ThamGive Blood Give Love-รวมพลังทำดี บริจาคโลหิต” พร้อมขยายวัน-เวลาให้บริการ ตลอดจนเพิ่มจุดบริการหน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่และหน่วยบริการเคลื่อนที่
พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลเล็งเห็นถึงความสำคัญของการบริจาคโลหิตถือเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ เพื่อต่อชีวิตให้กับผู้อื่น โดยการบริจาคเลือดปกติ 1 ครั้ง สามารถช่วยต่อชีวิตให้กับผู้ป่วยได้ถึง 3 คน ซึ่งในช่วงเทศกาลต่างๆ ที่มีอัตราเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุเป็นจำนวนมาก หรือโรคร้ายแรง ปริมาณโลหิตมักขาดแคลนอยู่บ่อยครั้งเราจึงขอเชิญชวนเพื่อนพนักงานและประชาชนทั่วไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อความช่วยเหลือ ต่อลมหายใจของคนไทยทั้งประเทศนับเป็นอีกหนึ่งพันธกิจภายใต้โครงการ “เซ็นทรัล ทำ” ทำด้วยกัน ทำด้วยใจ โครงการเพื่อความยั่งยืนในการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆ โดยได้ร่วมมือกับบริษัทในเครือในการจัดตั้งหน่วยรับบริจาคโลหิตตลอดทั้งปีทั่วประเทศ ซึ่งนับตั้งแต่ริเริ่มโครงการจนถึงปัจจุบันสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยทั่วประเทศได้กว่า 1.5 ล้านคน
และจากการสร้างความสัมพันธ์กับพนักงาน ส่งผลให้ พนักงานอาสากลุ่มเซ็นทรัล ได้สร้างปรากฏการณ์ให้กับการบริจาคโลหิตให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ได้แก่
-การบริจาคสเต็มเซลล์ เพื่อใช้รักษาโรคทางโลหิตให้หายขาดได้ซึ่งการจับคู่สเต็มเซลล์ของผู้บริจาคและผู้รอรับบริจาคที่เข้ากันได้ถือว่ายากมากโดยเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา ได้เกิดคู่แท้สเต็มเซลล์ครั้งแรกของพนักงานอาสากลุ่มเซ็นทรัล จาก ดร.เมธประจักษ์เติมกิจขจรสุข ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารภายในองค์กร บริษัท เซ็นทรัลรีเทลคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หนึ่งในพนักงานกลุ่มเซ็นทรัลผู้ที่บริจาคสเต็มเซลล์ ซึ่งประสบความสำเร็จในการจับคู่ผู้รับบริจาคได้ตรงกัน เป็นที่เคสหายากเพราะมีอัตราส่วนเพียง1 ใน 5 หมื่นคนเท่านั้น
-การบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องและยาวนานของพนักงานอาสากลุ่มเซ็นทรัล โดยได้จัดให้มีพิธีมอบประกาศนียบัตรให้กับพนักงานที่ร่วมกันบริจาคโลหิต โดยคุณสมชาย จงเลขา พนักงานจาก บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน)สามารถสร้างสถิติบริจาคโลหิตต่อเนื่องยาวนานกว่า 200 ครั้ง รวมทั้ง ยังมีพนักงานอาสากว่า 100 คน ที่ร่วมบริจาคโลหิต ไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง
ดังนั้นเนื่องในวันกาชาดสากล (World Red Cross and Red Crescent Day) ประจำปี 2566 กลุ่มเซ็นทรัลขอเชิญชวนเพื่อนพนักงานและประชาชนทุกท่าน รวมพลังร่วมบริจาคโลหิตเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย 15,000,000 ล้านซีซีในปี 2566 ในโครงการ “Central Tham Give Blood Give Love- รวมพลังทำดี บริจาคโลหิต”โดยจะขยายจุดรับบริจาคเคลื่อนที่เพิ่มเป็น 77 จุด ควบคู่ไปกับการรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนทราบถึงจุดรับบริการบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ และความสะดวกสบายในการเดินทางมาบริจาคโลหิตกับหน่วยบริการภายในศูนย์การค้าเครือกลุ่มเซ็นทรัลเพื่อให้มีโลหิตสำรองในคลังเพียงพอสำหรับรองรับการขาดแคลนโลหิตในอนาคตต่อไป
สำหรับผู้ที่สนใจร่วมบริจาคโลหิตไปกับหน่วยบริการเคลื่อนที่ภายในศูนย์การค้าเครือกลุ่มเซ็นทรัล สามารถติดตามข้อมูลตารางหน่วยรับบริจาคได้ที่ Facebook CENTRAL GROUP หรือ Facebook CENTRAL Tham
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี