เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัทบีทีเอส และบริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สุรพงษ์ ปิยะโชติ นายกองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดกาญจนบุรี จัดพิธีส่งมอบ “โรงงานกระดาษไทยกาญจนบุรี”ณ จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี ร.ท.ทศพลไชยโกมินทร์ ผวจ.กาญจนบุรี, คณะผู้บริหารกลุ่มบริษัทบีทีเอส และ บริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์จำกัด (มหาชน) อาทิ สุรพงษ์ เลาหะอัญญา,คง ชิ เคือง, ชัยวัฒน์ อัศวินทรางกูร, สรญา เสฐียรโกเศศ และคณะผู้บริหารจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี อาทิ อรรถวิท รักจำรูญ, พิสิษฐ์ กาญจนภิญพงศ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี, จรันต์ ยิ่งภิญโญ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี, อนันท์ ดิษฐศิริ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมในงาน ซึ่งโครงการนี้ บริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ในเครือกลุ่มบริษัทบีทีเอสได้ดำเนินการเข้าซื้อโรงงานกระดาษไทยกาญจนบุรี และมอบให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรีใช้เป็นสาธารณประโยชน์และพิพิธภัณฑ์เพื่อประชาชน รวมถึงเป็นอาคารอนุรักษ์เพื่อสังคมของจังหวัด ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม
การดำเนินงานในครั้งนี้ เนื่องจากกลุ่มบริษัทบีทีเอสได้ตระหนักถึงความสำคัญของคุณค่าทางประวัติศาสตร์และมรดกทางวัฒนธรรม จึงต้องการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม อาคารโบราณสถานต่างๆ ไว้เพื่อสืบสานและส่งต่อเป็นมรดกวัฒนธรรมของชาติไทยไปยังคนรุ่นหลัง อีกทั้งก่อนหน้านี้ ได้ใช้งบประมาณ 5,000 ล้านบาท ในการเข้าบูรณะอาคารที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ถึง 3 แห่ง ได้แก่ “โครงการศุลกสถาน (โรงภาษีร้อยชักสาม)”ซึ่งเป็นอาคารที่มีอายุกว่า 130 ปี ได้ทำการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารโบราณสถาน เพื่อเป็นโรงแรมระดับไม่ต่ำกว่า 5 ดาว ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่อยู่คู่กับชุมชนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามาอย่างยาวนาน รวมถึงได้ใช้งบประมาณดังกล่าว เข้าลงทุน“โรงแรม ยูเชียงใหม่” ซึ่งได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่น 2552 จากสมาคมสถาปนิกสยามฯ โดยได้ทำการคงโครงสร้างอาคารจวนผู้ว่าการเชียงใหม่หลังเก่าไว้ภายในโรงแรม และทำการปรับปรุงเป็นเรสซิเดนซ์ เลานจ์ คงไว้ซึ่งความงดงามของศิลปวัฒนธรรมชาวล้านนา แต่เพิ่มการตกแต่งภายในที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังได้ลงทุนซื้ออาคารสถาปัตยกรรมSino-Portuguese “คฤหาสน์พระอร่ามสาครเขตร” อาคารโบราณสไตล์ชิโน-โปรตุกีส อายุกว่า 100 ปี ย่านใจกลางเมืองเก่าจังหวัดภูเก็ต เพื่ออนุรักษ์อาคารโบราณสถานตามเจตนารมณ์ที่ได้ตั้งปณิธานไว้ นอกเหนือจากการเป็นองค์กรที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจในด้านต่างๆ ผ่านการดำเนินการในกลุ่มธุรกิจ Move Mix และ Match แล้ว กลุ่มบริษัทบีทีเอสยังเล็งเห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรมประเทศไทย อีกด้วย
โรงงานกระดาษไทยเป็นสถาปัตยกรรมสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2481 โดยวิศวกรและนายช่างจากประเทศเยอรมนีและเป็นสถาปัตยกรรมขนาดมหึมาท่ามกลางโบราณสถานกำแพงเมืองเก่า ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี พ.ศ.2475 คณะราษฎรต้องการให้ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรอุตสาหกรรมจึงสร้างโรงงานกระดาษนี้ขึ้นเป็นแห่งที่ 2 ต่อเนื่องจากที่สามเสนในกรุงเทพมหานครแต่เป็นแห่งแรกที่มีการผลิตครบวงจรและใหญ่ที่สุดในเอเชีย ณ ขณะนั้น นอกจากนี้ ยังเป็นสถานที่ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปโบราณที่หาชมได้ยากที่ใครต่างขนานนามให้เป็น “มิวเซียมอุตสาหกรรมแห่งแรกของไทยและเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงสังคมจากเกษตรกรรมเป็นอุตสาหกรรมของกาญจนบุรี” เป็นแหล่งชุมชนที่มีเรื่องราวและอิทธิพลต่อสังคมในเมืองกาญจนบุรี ณ สมัยนั้นซึ่งปัจจุบันสภาพทุกอย่างของโรงงานยังคงเหมือนเดิม ทั้งตัวโครงสร้างปล่องควัน เครื่องกำเนิดไฟฟ้าและเครื่องจักรผลิตกระดาษซึ่งเหลือเป็นชิ้นสุดท้ายของโลกที่ประเทศไทยอีกด้วย