หากมีอาการปวดเกร็งท้องหรือท้องเสีย เป็นๆ หายๆ ควรระวังเพราะเป็นสัญญาณว่าอาจเสี่ยงเป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รับการรักษาจนเกิดการอักเสบมากขึ้น อาจนำไปสู่การเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
แพทย์หญิงศศิพิมพ์ จามิกร อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินอาหาร โรงพยาบาลเวชธานี อธิบายว่า โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory Bowel Disease หรือ IBD) เป็นกลุ่มโรคที่มีอาการอักเสบของทางเดินอาหาร ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีสาเหตุการเกิดที่แน่ชัด แต่อาจมีหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่ ปัจจัยด้านพันธุกรรม ซึ่งมักพบในยุโรปและอเมริกามากกว่าแถบเอเชีย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบโรคนี้มากขึ้นในประเทศไทย เราจึงควรให้ความสำคัญ, มีการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายที่ผิดปกติจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง, ปัจจัยอื่นๆ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง และความเครียด
โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง แบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1.โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ (Ulcerative Colitis : UC) อาการจะเกิดที่บริเวณลำไส้ใหญ่เป็นหลัก อาจอักเสบจนเป็นแผลและลุกลามเฉพาะเนื้อเยื่อชั้นตื้นๆ ผู้ป่วยมักมีอาการท้องเสีย
เรื้อรัง ท้องเสียเป็นๆ หายๆ ถ่ายมีมูกปนเลือด มีการปวดท้อง รวมถึงอาจมีอาการข้ออักเสบหรือมีไข้ร่วมด้วย 2.โรคโครห์น (Crohn’s disease : CD) อาการสามารถเกิดขึ้นในกับระบบทางเดินอาหารส่วนใดก็ได้ ตั้งแต่ช่องปากหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ผู้ป่วยอาจมีอาการที่หลากหลาย เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย ถ่ายปนมูกหรือเลือดสด มีไข้ น้ำหนักลง ภาวะซีดหรือโลหิตจางร่วมด้วย
วิธีตรวจวินิจฉัยโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังที่มีประสิทธิภาพและแม่นยำ คือการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ เพื่อตรวจดูผนังลำไส้ ช่วยให้แพทย์เห็นแผลภายในลำไส้ได้อย่างชัดเจน และสามารถนำชิ้นเนื้อบริเวณที่มีการอักเสบมาตรวจทางพยาธิ เพื่อคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย
ปัจจุบันโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง เริ่มรักษาด้วยการรับประทานยา ซึ่งการเลือกชนิดยาแพทย์จะพิจารณาจากความรุนแรงและตำแหน่งของการอักเสบ หลังได้รับยาแล้วผู้ป่วยควรรับประทานอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรหยุดยาเองแม้อาการจะดีขึ้น โดยทั่วไปมักมีอาการดีขึ้นภายใน 2 – 4 สัปดาห์ นอกจากนี้ ผู้ป่วยจำเป็นต้องดูแลโภชนาการของตัวเอง โดยแนะนำให้รับประทานให้ครบ 5 หมู่ สัดส่วนต่อมื้อน้อยลง ดื่มน้ำให้เพียงพอหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง แอลกอฮอล์ และกาเฟอีน
อย่างไรก็ตาม โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็วและถูกต้อง โรคจะสงบและผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ขณะเดียวกันหากไม่รับการรักษาและปล่อยให้ลำไส้อักเสบเรื้อรังไปเรื่อยๆ อาจทำให้ร่างกายสูญเสียสารอาหารที่จำเป็น และเกลือแร่ รวมถึงอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เพราะอาจทำให้โรคกำเริบได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี