อาทิตย์ที่ผ่านมามีข่าวหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับบ้านเราที่น่าจับตามอง ช่วงนี้ต้องช่วยกันจับตามองไอ้นกอินทรีหัวล้านเป็นพิเศษ ว่าจะคายความกระสันแบบไหนออกจากปาก เพราะในการเมืองยังมีการเมืองครอบอยู่อีกชั้นหนึ่ง คือมีการแทรกแซงของต่างชาติ ที่ต้องการเข้ามาสนับสนุนพรรคการเมืองบางพรรคในไทย โดยสามารถสั่งซ้ายหันขวาหัน เพื่อประโยชน์ร่วมกันระหว่างชาติตนกับพรรคการเมืองนั้นๆ
ข่าวที่ว่านั้นคือ เคิร์ท แคมป์เบลล์ ผู้ประสานงานภาคพื้นอินโด-แปซิฟิกของทำเนียบขาว กล่าว ณ สถาบันฮัดสันว่า
“เราจับตาการเลือกตั้งอย่างระมัดระวัง นี่คือขั้นที่ละเอียดอ่อนในแง่ของการจัดตั้งรัฐบาล”
เดี๋ยวนะ นี่ไม่เผือกเรื่องราวในบ้านคนอื่นบ้างได้ไหม แต่จะว่าไป เรื่องเผือกไม่มีใครเกินอเมริกาอีกแล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อผลประโยชน์ของชาติตัวเองเป็นหลักนั่นแหละ
คิดดูแล้วกัน ยังไม่ทันจะได้รัฐบาลใหม่ ลุงแซมเสนอหน้ามาเผือกเสียแล้ว จะว่าไปก็เผือกมาตลอด รวมทั้งก่อนเลือกตั้งด้วย ที่เล่นบทเจ๊ดันบางพรรคที่ตัวเองหนุนก้นให้เป็นรัฐบาลเงา พิทักษ์ผลประโยชน์ให้อเมริกา บทนี้อเมริกาเล่นมาตลอดกับทุกชาติที่ต้องการเข้าแทรกแซงครอบงำ
อเมริกากำลังหาทางยกระดับความสัมพันธ์กับพันธมิตรและคู่หูทั่วเอเชีย ในความพยายามตีโต้กลับความเคลื่อนไหวแผ่ขยายอิทธิพลของจีน แคมป์เบลล์บอกว่าวอชิงตันต้องการค้ำยันความสัมพันธ์ทวิภาคีที่แข็งแกร่งกับไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรสนธิสัญญาที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ พอจะหาประโยชน์ก็โอบบ่าเรียกว่าเพื่อนรักเก่าแก่ขึ้นมาทันที
“ผมคิดว่าปฏิเสธไม่ได้ว่าการเมืองของไทยยังไม่เสถียรและซับซ้อน ผมคิดว่าเป้าหมายของเราจะเป็นการสนับสนุนรัฐบาลประชาธิปไตยที่มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพในไทย จากนั้นจะทำงานร่วมกับพวกเขา”
เห็นประโยคข้างบนหรือยัง ชัดยิ่งกว่าชัด “เป้าหมายของเราจะเป็นการสนับสนุนรัฐบาลประชาธิปไตยที่มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพในไทย จากนั้นจะทำงานร่วมกับพวกเขา” บรรทัดนี้ต้องขีดเส้นใต้เน้นตัวหนาเลยนะ
ก่อนที่เอกอัครราชทูตอเมริกาคนล่าสุด คือ โรเบิร์ตเอฟ.โกเดค จะเข้ามารับตำแหน่ง รายนี้เคยแถลงต่อกรรมาธิการต่างประเทศของวุฒิสภาสหรัฐฯ เมื่อ 13 ก.ค.ปี 2565 มาแนวสายเหยี่ยวเต็มที่ ขนาดตัวยังมาไม่ถึง แต่จมูกยื่นทะลุไทยมาเรียบร้อยแล้ว เพราะประกาศจะให้ไทยปรับปรุงสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
การที่อเมริกาเข้ามาบงการเบื้องหลังพรรคการเมืองบางพรรค มีจุดมุ่งหมายแฝง ทั้งหมดนี้เพื่อให้ทำตามนโยบายที่ตนต้องการ เช่น ดึงให้เข้าร่วมเป็นพวก หรือใช้เป็นฐานในการทำสงคราม เพื่อเอาไว้คานอำนาจกับชาติที่ไม่ชอบหน้า ไม่ใช่เราแค่ชาติเดียวที่อเมริกาเข้าไปเสือก ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนคือ ความสัมพันธ์ระหว่างยูเครนและประเทศนาโต้ โดยมีพี่เบิ้มอเมริกาคอยกำกับอยู่ข้างหลังนั่นไง
ไอ้คำสวยหรูอย่างประชาธิปไตยหรือสิทธิมนุษยชนเหล่านั้น ลุงแซมใช้เป็นเครื่องมือในการกดดันประเทศเล็กๆ ที่แข็งข้อไม่ยอมก้มลงจูบตีนแต่โดยดี สิทธิมนุษยชนที่ท่านว่าก็เพื่อเอาไว้บีบคอบังคับให้ชาติอื่นทำตามที่อเมริกาต้องการ เพื่อผลประโยน์ของอเมริกาเท่านั้นแหละ
อย่าคิดว่าอเมริกาไม่เคยจมูกยื่นยาวแทรกแซงชาติอื่น หันไปดูเพื่อนบ้านเรานี่เลย ยุคสงครามเย็น อเมริกาแทรกแซงการเมืองในกัมพูชา ปี 2514 สนับสนุนให้นายพลลอนนอลโค่นล้มรัฐบาลสมเด็จนโรดมสีหนุ ยังไม่หมดเท่านี้ อเมริกาแทรกแซงเวเนซุเอล่า จนเกิดวิกฤตมาจนปัจจุบัน
เมื่อ 12 ปีก่อน ตะวันออกกลางเกิดการประท้วงครั้งยิ่งใหญ่เรียกว่า “อาหรับสปริง” อเมริกาชูธงประชาธิปไตย เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองหลายประเทศอาหรับ เช่น อียิปต์ ลิเบีย ซีเรีย จนเกิดสงครามภายในลิเบียและซีเรีย ใครล่ะที่รับกรรม ประชาชนของประเทศเหล่านั้นนั่นเอง
ตามรายงานของ Dov Levin จากมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon ในระหว่างปี 2489 ถึงปี 2543 สหรัฐฯได้มีการแทรกแซงการเลือกตั้งของประเทศอื่นถึง 81 ครั้ง นั่นยังไง อย่าไร้เดียงสาเพราะคำหวานที่อเมริกาเรียกเราว่า “มหามิตร” เลย หวานยาพิษชัดๆ
ที่ผ่านมาสหรัฐฯได้ให้เงินสนับสนุนองค์กรเอกชนที่เคลื่อนไหวในประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการเดินงานมวลชนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์บางอย่าง โดยให้เงินสนับสนุนผ่านองค์กร 3 แห่ง คือ 1.กองทุนเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (America’s
National Endowment for Democracy : NED) 2.มูลนิธิโอเพน โซไซตี้ (Open Society Foundation : OSF) 3.องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ หรือ USAID
มาดูกันว่าไอ้ 3 องค์กรที่ว่านี่แจกเงินให้หน่วยงานไหนบ้าง อ่านระหว่างบรรทัดแล้วจะเห็นชัดเจนว่าอเมริกาถือหางพรรคการเมืองแบบไหน
กองทุนเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (America’s National Endowment for Democracy : NED) หรือเรียกกันว่าองค์กรนี้เป็นซีไอเอภาคประชาชน สนับสนุนเงินแก่เว็บไซต์ประชาไท มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (TVS.) มูลนิธิเพื่อการศึกษาและสื่อภาคประชาชนอีสาน (The Isaan Record) สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน-HRLA มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) ฮิวแมนไรท์วอทช์
มูลนิธิโอเพน โซไซตี้ (Open Society Foundation : OSF) ของ จอร์จ โซรอส สนับสนุนเงินให้เว็บไซต์ประชาไท เครือข่ายพลเมืองเน็ต (Thai Netizen Network) มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (Cross Cultural Foundation) สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) และโครงการอินเตอร์เนตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw)
องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ หรือ USAID เงินกองทุนบางส่วนใช้เพื่อสนับสนุนองค์กรที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพของสถาบันกษัตริย์ของไทย เช่น เว็บไซต์ประชาไท ทั้งนี้ จากข้อมูลยังพบว่ากองทุนของสหรัฐนั้นสนับสนุนการโจมตีสถาบันกษัตริย์ทางอ้อม โดยสนับสนุนเงินทุนให้แก่กลุ่มที่สู้คดี ม.112 ซึ่งเงินที่กลุ่มนี้ใช้ประกันตัวก็มาจากกองทุนของสหรัฐนั่นเอง เริ่มมองเห็นภาพแล้วใช่ไหมล่ะ
ทำไมอเมริกาถึงพยายามจะครอบงำแทรกแซงบ้านเราให้ได้ เรื่องนี้มีที่มาที่ไป อเมริกาพยายามขยายอำนาจนอกชาติทุ่มเงินก้อนหนึ่งผ่านองค์กรที่ว่า เข้ามาชักใยกลุ่มสามนิ้ว กลุ่มเอ็นจีโอ กลุ่มนักวิชาการ และกลุ่มสื่อ ซ่องสุม หลอมแนวคิดแนวทาง แล้วกระจายกันเดินทั้งใต้ดินบนดินและในอากาศ ผ่านสื่อรูปแบบต่างๆ ปั่นกระแส โน้มน้าว ชักจูงมวลชน ทุกรูปแบบ เพื่อส่งให้พรรคการเมืองบางพรรคได้อำนาจครองสภาผ่านการเลือกตั้ง
จุดหมายคือการให้พรรคการเมืองที่อเมริกาเลือกเข้าไปเป็น “ตัวแทนอำนาจนอกชาติ” อยู่ใต้การควบคุมของอเมริกา ทำหน้าที่ “ในสภา-ในรัฐบาล” เพื่อเปิดประตูให้อเมริกาเข้ามาใช้ประเทศเป็นฐานปฏิบัติการทางทหาร เพื่อยันอำนาจกับจีน ดังนั้นความพยายามที่จะตั้งฐานทัพในประเทศไทยจึงไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อแต่อย่างใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี