วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
เผยผลวิจัยสมุนไพรไทยยับยั้งและป้องกันติดเชื้อโควิด-19 สูงถึง 90%

เผยผลวิจัยสมุนไพรไทยยับยั้งและป้องกันติดเชื้อโควิด-19 สูงถึง 90%

วันจันทร์ ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2566, 06.00 น.
Tag : วิจัยสมุนไพรไทย โควิด-19
  •  

สถาบันเวชศาสตร์สมุฏฐาน เปิดประชุมเชิงวิชาการเรื่อง “การวิจัยและพัฒนาสมุนไพรไทย เพื่อก้าวสู่ระดับนานาชาติ” โดยได้รับเกียรติจากรศ.ดร.ภก.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรของสหประชาชาติ และทีมวิจัยได้นำเสนอผลงานการวิจัยที่สำคัญของตำรับยาสมุนไพร “เคอร่า” จากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการชีวเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของยาเคอร่าในหลายด้าน พบฤทธิ์ในการยับยั้งไวรัสชนิดต่างๆ กว้างขวาง ฤทธิ์ป้องกันไวรัสเข้าสู่เซลล์ ฤทธิ์ต้านการอักเสบ ฤทธิ์ต้านมะเร็ง ฤทธิ์ทำให้เซลล์มะเร็งตาย

ด้านการยับยั้งไวรัส รศ.ดร.เกียรติทวี ชูวงศ์กมล ภาควิชาชีวเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า พบประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อไวรัสโคโรนา (SARS-CoV-2) โดยกลไกการยับยั้งเอนไซม์ขยายตัวไวรัส main protease
ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าฟ้าทะลายโจรถึง 600 เท่า สูงกว่ายา Ritronavir 500 เท่า รวมทั้งยับยั้งกลไกการขยายตัวเชื้อไวรัสโคโรนา ชนิด RdRp ที่มีประสิทธิภาพมากกว่ายา Favipiravir นอกจากนี้ พบฤทธิ์ป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาเข้าสู่เซลล์ โดยพบว่ายาเคอร่าสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อโดยกลไกการป้องกันไวรัสเข้าสู่เซลล์ โดยที่ความเข้มข้น 0.5 mg./ml. สามารถป้องกันไวรัสเข้าสู่เซลล์ได้ถึง 90% ซึ่งมีศักยภาพที่น่าจะทำการศึกษาต่อไป อีกทั้ง ยังพบประสิทธิภาพการยับยั้งไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ุ A ไวรัสไข้เลือดออก ไวรัสเอดส์ HIV ไวรัสเริม ซึ่งเป็นสาเหตุที่สำคัญของมะเร็งปากมดลูก รวมทั้งไวรัสที่ระบาดในสัตว์ คือ FIP ในแมวและไวรัสเอดส์แมว FIV ที่ทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่องเหมือนกับโรคเอดส์ในมนุษย์


นอกจากนี้ ยังพบฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ โดยกลไกการยับยั้งไซโตไคน์ที่ก่อการอักเสบ คือ IL-1b, IL-6 และ
TNF-alpha ซึ่งไซโตไคน์เหล่านี้มีผลทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบในผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เรียกว่า พายุไซโตไคน์ รวมถึงมีผลต่อภาวะการอักเสบในร่างกายของผู้ป่วยหลายโรค เช่น SLE, รูมาตอยด์ ขณะเดียวกันยังพบฤทธิ์การลดความดันโลหิต โดยการยับยั้งเอนไซม์ ACE

ผลวิจัย ยังพบว่า เคอร่า มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง โดยการยับยั้งโปรตีน EGFR ที่เกี่ยวข้องกับส่งเสริมการเจริญเติบโตและแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งทางเดินปัสสาวะ มะเร็งปอด, มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งเต้านม โดยพบว่ายาเคอร่าที่ความเข้มข้น 100 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตรมีประสิทธิภาพการยับยั้งโปรตีน EGFR ได้เทียบเท่ายาErlotinib ซึ่งเป็นยารักษามะเร็งแบบมุ่งเป้าที่ความเข้มข้น1 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร และพบฤทธิ์ในการกระตุ้นโปรตีนชนิด P53 หรือ tumor protein 53 ซึ่งเป็น transcription factor ที่ควบคุมวงรอบของเซลล์ และยังมีหน้าที่ยับยั้งCaspase เนื้องอกด้วย ทำให้ p53 มีความสำคัญในการยับยั้งมะเร็งของสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์

นอกจากนั้น พบฤทธิ์การทำให้เซลล์มะเร็งตายเองแบบ Apoptosis โดยกลไกการกระตุ้นโมเลกุลสวิทช์ที่ชื่อว่า -8 และ Caspase-9 ซึ่งเป็นสวิตช์ระดับโมเลกุลสำหรับการตาย โดยความเข้มข้นที่สามารถทำให้เซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ชนิด HCT116 ตายครึ่งหนึ่งคือ 73 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ซึ่งเป็นค่าความเข้มข้นที่นับว่ามีประสิทธิภาพและน่าสนใจสำหรับการวิจัยพัฒนาเป็นตำรับสมุนไพรสำหรับโรคมะเร็งต่อไป

ขณะที่ ผศ.ดร.สุริยัน สุขติ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์และคณะ เปิดเผยผลวิจัยความปลอดภัยจากการรับประทานยาแคปซูลเคอร่าในอาสาสมัคร พบว่า การรับประทานยาเคอร่า 8 แคปซูลต่อวัน (4,000) มก.ต่อวัน เป็นเวลา 14 วันติดต่อกัน มีความปลอดภัย โดยเมื่อเปรียบเทียบผลการตรวจเลือดการทำงานของตับ ไต ค่าเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว ค่าโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ คือ CRP (C-reactive protein) และค่าการตกตะกอนของเม็ดเลือดแดง

ด้าน ดร.ภก.พยงค์ เทพอักษร และคณะ เปิดเผยถึงผลวิจัยเปรียบเทียบการได้รับยาผู้ติดเชื้อเชื้อโควิด-19 ด้วยสมุนไพรตำรับเคอร่า เปรียบเทียบกับ ฟ้าทะลายโจร และการได้รับวัคซีน กลุ่มตัวอย่าง 2,157 คน แบ่ง 3 กลุ่ม คือ พบว่า
กลุ่มผู้ติดเชื้อที่รับประทานยาฟ้าทะลายโจร และรับวัคซีนมีอัตราการติดเชื้อสูงกว่าผู้ที่รับประทานเคอร่า อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.01)

ขณะที่ นายแพทย์รังสรรค์ บุตรชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประชาธิปัตย์และคณะ เผยถึงกลุ่มตัวอย่างผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มารักษา 230 คน โดยแบ่ง 2 กลุ่ม รับประทานยาเคอร่า และรับประทานยาโมลนูพิราเวียร์ พบว่าทั้งสองกลุ่มมีอาการดีขึ้น สมุนไพรตำรับเคอร่า มีประสิทธิภาพการรักษาไม่แตกต่างกัน รวมถึง ดร.สุวรรณี สร้อยสงค์ และคณะ ศึกษาในกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ติดเชื้อโรค โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า โดยทำการศึกษาย้อนหลัง จากกลุ่มผู้ติดเชื้อเข้าข่ายโรคโควิด-19 ในจังหวัดปทุมธานี ที่ได้รับสมุนไพรตำรับเคอร่า จำนวน 2,510 คน ผลการศึกษาพบว่า ภายหลังจากที่ได้รับสมุนไพรตำรับเคอร่าพบอาการภายใน 7 วัน คิดเป็นร้อยละ 67 โดยในระหว่างการรักษาไม่พบว่ามีอาการลุกลามเพิ่มขึ้น ไม่มีการใช้เครื่องช่วยหายใจ ไม่มีผลข้างเคียงที่สำคัญ ไม่มีการส่งผู้ป่วยต่อ และไม่มีผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 หลังจากได้รับประทานยาสมุนไพรตำรับเคอร่า

ดร.ภัทร์ หนังสือ ประธานสถาบันเวชศาสตร์สมุฏฐาน กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เคอร่า ได้รับการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานอาหารและยา เลขที่ทะเบียน G 40/57 เป็นยาแก้ไข้ แต่ด้วยสรรพคุณที่มากมายเหนือกว่าแค่ยาแก้ไข้ซึ่งได้รับการยืนยันจากแพทย์ผู้ชำนาญการ และผลงานด้านวิจัยที่ได้นำมาบอกกล่าวในงานประชุมวิชาการครั้งนี้ สมุนไพรไทยตำรับเคอร่า จึงเหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศไทยในการพัฒนาเป็นหนึ่งใน SolfPower ที่จะสร้างรายได้และชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ทั้งนี้ ผลการวิจัยทั้งหมดจะได้นำเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรพัฒนา ที่มีสรรพคุณในการรักษาโรคโควิด-19 อันจะเป็นการส่งเสริมการใช้สมุนไพรภายในประเทศให้แพร่หลาย และส่งออกสู่ระดับนานาชาติต่อไป

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ล้มได้ก็ลุกเป็น ‘นิน เพชรพัณณิน’กีฬา การเมือง ชีวิต ความรัก

‘ในหลวง-พระราชินี’เสด็จฯทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วันวิสาขบูชา 2568

สื่อเวียดนามจับตาไทย ผ่อนปรนขายน้ำเมาวันพระใหญ่ได้บางสถานที่ หวังกระตุ้นท่องเที่ยว

'มาดามหยก'ปลื้มปชช.นับหมื่นคน พร้อมใจเดินขึ้นดอยสุเทพฯ ร่วมถวายเครื่องสักการะ และสรงน้ำพระบรมธาตุฯ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved