คนมีรสนิยมดี จะมีเหตุมีผลในการเลือกเสพงานศิลปะ และสามารถเลือกสิ่งดีๆ ให้ตัวเองได้อย่างลงตัว ส่วนงานศิลปะที่ดีก็มีพลังในการช่วยหลอมรวมประชาชนให้สามารถรวมกลุ่มแสดงพลังเพื่อช่วยให้วิกฤตต่างๆ ของบ้านเมืองผ่านพ้นไปได้
ไลฟ์ วาไรตี สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย ชวนคุณไปสนทนาเรื่องงานศิลปะกับสังคม กับ คุณไพโรจน์ ธีระประภา เจ้าของร้าน เดอะ ชนบท บาย สยามรวย
l เรียนถามว่างานศิลป์ของคุณไพโรจน์จัดอยู่ในงานศิลป์แขนงไหนครับ
นายไพโรจน์ : ผมเริ่มงานจากการเป็น graphic designer ให้บริษัทโฆษณาครับ ก็ได้ความรู้มาจากการร่ำเรียนด้าน visual communication design จากมหาวิทยาลัยศิลปากร เมื่อเรียนจบก็ไปทำงานในบริษัทโฆษณา เนื่องจากเคยทำงานด้านนี้มาก่อนก็เลยทำงานที่ผมถนัดเรื่อยมา งาน graphic design ในสื่อโฆษณามีมานานแล้ว โดยเฉพาะบนหีบห่อหรือกล่องบรรจุผลิตภัณฑ์ เช่น ตราสินค้า เป็นต้น เมื่อวันหนึ่งผมอิ่มตัวกับงานประจำ ผมก็มองเห็นว่ามันยังมีสื่ออีกชนิดหนึ่งที่ใช้ graphic design มานำเสนอได้ คือ เสื้อ T-Shirt ซึ่งนับเป็นสื่อโฆษณาชนิดหนึ่งที่เคลื่อนไหวไป-มาได้ เพราะมีผู้สวมใส่ ผมก็จึงใช้ความรู้เดิมมาประยุกต์กับงานที่ผมทำในปัจจุบัน
l หลายคนบอกว่างานโฆษณามีความสนุก มีความท้าทายมาก คุณไพโรจน์อยู่ในแวดวงนี้ แล้วทำไมถึงไม่ทำงานนี้ต่อไปครับ
นายไพโรจน์ : คนนอกวงการก็จะมองว่างานโฆษณาสนุกท้าทาย แต่คนในวงการอาจมองคนละมุม ส่วนผมนั้น มีความรู้สึกว่าในการทำงานแต่ละชิ้นเพื่อสนองความต้องการของลูกค้า ผมต้องรอโจทย์จากลูกค้าก่อน ผมอยากได้โจทย์สนุกๆ แต่ส่วนมากโจทย์สนุกมากๆ ก็ไม่มาถึงเรา เพราะว่าเรายังเป็น junior งานสนุกๆ ก็มักจะไปที่ senior พอผมทำงานจนเป็น senior เข้าจริงๆ ก็มองว่างานที่ได้รับมาก็ยังไม่สนุก ไม่ตอบความต้องการตัวเองเท่าที่อยากให้เป็น ผมก็เลยบอกตัวเองว่า ถ้าเช่นนั้น เราคิดโจทย์ให้ตัวเองเลยดีกว่า คิดเอง ทำเอง ผลิตเอง น่าจะดีที่สุด ก็เลยมาทำงานในปัจจุบันนี้ครับ
l ผมสังเกตงานบนเสื้อที่คุณผลิตแล้วเห็นว่าบ่งบอกชัดเจนด้วยคำง่ายๆ อ่านแล้วเข้าใจได้โดยไม่ต้องตีความให้ยุ่งยาก เช่น อยู่ข้างประเทศไทย พี่น้องจงแซ่ซ้องชาติไทย รักเมืองไทยชูชาติไทย เป็นต้น แล้วยังมีงานอื่นๆ เช่น ในดวงใจนิรันดร์ หรือเลขเก้าไทยรวมถึงตัวอักษรไทย ก. ไก่ ถึง ฮ. นกฮูกวางบนตัวเสื้อแต่คนที่รู้จักร้านเดอะ ชนบท บาย สยามรวย ของคุณไพโรจน์ มักบอกตรงกันว่างานร้านนี้บ่งบอกความรักชาติไทยชัดเจน มีอะไรจะอธิบายเพิ่มเติมไหมครับ
นายไพโรจน์ : ก็จริงนะครับ มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมมองว่ามันเป็นสิทธิการแสดงออกของเรา และคนที่มองแบบเรา เราทำในสิ่งที่เป็นเรื่องดี เป็นด้านบวก มันเป็นหน้าที่สำคัญอย่างหนึ่งของคนไทยที่ต้องรักชาติไทย ชูชาติไทย เราก็ต้องช่วยกันทำให้ชาติบ้านเมืองของเราเจริญต่อไป พัฒนาต่อไป นี่คือหน้าที่ปกติของประชาชนไทยทุกคน ใช่ไหมครับ เราเป็นคนไทย ไม่รักชาติไทย แล้วจะรักอะไรหรือครับ ส่วนเรื่องคำว่าในดวงใจนิรันดร์นั้น ก็เพราะผมมองว่าคนไทยจำนวนมากคิดถึงในหลวง รัชกาลที่ 9 ด้วยความจงรักภักดี ก็จึงทำเสื้อแบบนี้ขึ้นมา เพื่อให้คนที่ระลึกถึงพระองค์ท่านได้สวมใส่
l มีบางคนตีความว่างานศิลป์ของคุณเป็นงานที่มีนัยการเมือง
นายไพโรจน์ : เหรอครับ (หัวเราะ) จริงๆ ผมทำงานประมาณนี้มาหลายปีแล้ว แต่มาระยะหลังๆ นี้ ผมมองว่ามันมีผู้ต้องการประกาศให้สังคมรู้ว่า เขามีจุดยืนอย่างไร เพราะดูเหมือนว่าสังคมพยายามผลักให้คนบางคนไปอยู่ในฝั่งตรงข้ามกับตนเอง ผมมองว่าเราเป็นคนไทย เราไม่มีฝักไม่มีฝ่ายอะไรทั้งนั้น เราเป็นคนไทย เราก็อยู่ข้างประเทศไทย เรารักเมืองไทย เราชูชาติไทย เราคิดแบบนั้น เราก็นำเสนอแบบนั้น แล้วก็มีคนคิดเหมือนเรา เขาก็มาสนับสนุนเรา ก็เท่านั้นเองงานที่ผมทำออกมานั้นเรียกว่าเป็นการตอบสนองความต้องการของคนที่ต้องการบอกสังคมว่า เรารักประเทศไทย ในฐานะที่ผมมีความรู้ด้าน graphic design ก็มองว่าเวลาที่สังคมดูเหมือนจะเกิดวิกฤตบางอย่าง เราก็ต้องการสัญญะบางอย่างเพื่อบอกกับสังคมให้รู้ว่าฉันและคนในกลุ่มของฉันมีความคิดแบบนี้ ดังนั้นเมื่อใช้รูปแบบ graphic เพื่อแสดงออกทางสัญญะแล้ว มันอาจจะตรงใจคนที่คิดแบบเดียวกัน คนที่ชอบตรงกันก็บอกว่า ใช่เลย มันคือการบ่งบอกตัวตนของฉัน นี่คือความสำคัญอย่างหนึ่งของ graphic ที่เมื่อใช้ให้ถูกช่วงเวลา มันก็มีพลังมากพอสมควร เมื่อมันลงตัวและเหมาะสมกับช่วงเวลา มันก็มีพลังมาก ก่อนที่เราจะทำเองนั้น เราก็มองว่าคนอื่นทำงานแบบนี้ในรูปแบบใด แต่ดูแล้วมันไม่ตรงใจเรา ไม่โดนใจเราเราก็เลยทำเอง พอทำขึ้นมาแล้วมีคนเห็นแล้วชอบก็อยากได้ แรกๆ ก็ทำแจกกันฟรีๆ ไม่ได้ขาย เพราะคนต้องการไม่มากนัก แต่เมื่อคนต้องการมากๆ ก็ต้องผลิตมากขึ้น ก็ต้องสั่งเสื้อจากโรงงาน ต้องมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น ก็จึงต้องทำมาค้าขายในที่สุด
l การผลิตเสื้อแต่ละครั้ง กำหนดจากอะไรครับ ดูจากจำนวนผู้สั่งจองไม่ครับ
นายไพโรจน์ : ตอบตรงๆ ว่าผมทำเพราะอยากทำดังนั้นเราจึงไม่ได้กำหนดว่าต้องทำทั้งหมดกี่ตัว ผมทำเสื้อขึ้นมาก่อน แล้วก็ส่งข่าวถึงกันในวงคนรู้จัก ถ้ามีเสียงตอบรับมากๆ ก็ทำเสื้อเพิ่ม เราเป็นพวกมีเงินน้อย ไม่ได้คิดทำธุรกิจใหญ่โต ผมทำงานตามที่ผมถนัด และงานของผมก็ทำเพื่อแสดงเจตจำนงชัดเจน เมื่อทำแล้วมีผู้สนใจ ก็ทำเพิ่ม แจกจ่ายจำหน่ายไปยังกลุ่มคนที่เห็นด้วยกับเรา ถ้าของหมดแล้วยังมีผู้ต้องการเพิ่ม เราก็ผลิตเพิ่ม เราไม่ได้ทำออกมาเป็นร้อยๆ พันๆ ตัว เพราะเราทำเพื่อตอบสนองความต้องการคนในกลุ่มเป็นสำคัญ ใครอยากได้เพิ่ม เราก็ผลิตเพิ่มได้ เพราะเรามีแบบมี block ต้นแบบอยู่แล้ว การผลิตใหม่จึงไม่ใช่เรื่องยาก
l งานศิลปะที่ลงตัวคืออะไร และงานศิลปะช่วยคลี่คลายวิกฤตการณ์ต่างๆ ของสังคมได้อย่างไรบ้างครับ บางคนบอกว่างานศิลปะไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับการเมือง งานศิลปะต้องตัดขาดจากการเมืองจริงๆ หรือ คุณไพโรจน์มีความเห็นอย่างไรครับ
นายไพโรจน์ : มุมมองเรื่องนี้เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลครับ มันสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของบุคคลได้ด้วย คนที่รู้จักคิด รู้จักเลือก แยกแยะได้ คนกลุ่มนี้จะมีสุนทรียะ มีรสนิยม เพราะว่าเขารู้จักคิด รู้จักแยกแยะ และมีเหตุมีผล เขาจึงสามารถเลือกสิ่งดีๆ มีรสนิยมได้ตรงกันข้ามกับคนที่ไร้รสนิยม แยกแยะสิ่งต่างๆ ไม่ได้ คนแบบนี้ไม่น่าจะมีสุนทรียะด้านศิลปะ คนแบบนี้หาสุนทรียะได้ค่อนข้างยาก เราอาจสังเกตคนมีรสนิยมกับคนไร้รสนิยมได้ง่ายๆ โดยดูจากเวลาเขาเหล่านั้นเลือกซื้อของสักชิ้น บางคนเลือกของได้ภายในเวลาไม่นานนัก แล้วได้ของที่ดูดี สวยงาม มีรสนิยม แต่บางคนเลือกนานหลายชั่วโมงก็ตัดสินใจไม่ได้ ไม่รู้จะเลือกอะไร เลือกจนวุ่นวายไปทั้งร้าน แล้วสุดท้ายตัดสินใจไม่ได้ แบบนี้คือการบอกให้เห็นถึงคนมีหลักการในการเลือกกับคนไร้หลักการในการเลือก คนมีรสนิยมดีจะเลือกของต่างๆ ได้ค่อนข้างง่าย เพราะเขาแยกแยะเป็น รู้ว่าอะไรสวยงาม คนกลุ่มนี้มีเหตุผล รู้จักใช้ความคิดพิจารณา และตอบตัวเองได้ว่าต้องการอะไร คนที่มีสุนทรียะมักจะเลือกของที่เหมาะสมกับตัวเองได้ดี ไม่ต้องทำตามคนอื่นตลอดเวลา ไม่ต้องใช้ของราคาแพงมากๆ แต่สามารถเลือกของได้เหมาะสมกับตนเองทั้งด้านการใช้งาน และราคาที่ต้องจ่าย บางคนแต่งตัวเรียบๆ ง่ายๆ แต่ดูดีมีสไตล์เข้ากับตัวเอง ดีกว่าบางคนที่แต่งตัวด้วย brand name ทั้งตัว แต่หาจุดเด่นให้การแต่งกายของตัวเองไม่ได้ เรื่องนี้สามารถโยงไปถึงงานศิลป์กับการเมืองได้ เพราะงานศิลป์ที่ดีช่วยให้ปัญหาต่างๆ ของสังคม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเมือง ปัญหาสังคม มีทางออกได้อย่างงดงาม ลงตัว ไม่ต้องเกิดความสูญเสียอย่างร้ายแรง ผมมองว่าจุดเด่นที่สุดของงานศิลป์คือต้องมีความพอดี ต้องรู้จักบันยะบันยัง ต้องมีองค์ประกอบศิลป์ที่ลงตัว อยากจะเน้นให้ตรงไหนเด่น ก็เน้นที่จุดนั้น ส่วนอื่นๆ ก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ อย่าให้เกิดการแย่งกันเด่นบนพื้นที่จำกัด อย่างเช่นสมัยที่ผมทำงานโฆษณา ลูกค้าบางรายมักจะชอบขอให้ขยายโลโก้ให้ใหญ่ขึ้น แล้วก็ให้ขยายถ้วยรางวัลที่ได้ให้ใหญ่มากกว่าเดิมอีก แล้วก็ยังขอให้ขยาย headline ชื่อสินค้าให้ใหญ่ขึ้น สรุปว่าทั้งพื้นที่โฆษณาชิ้นนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวรกๆ ไม่มีอะไรเด่นสักอย่าง ไม่เหลือพื้นที่ว่าง หรือ space ให้หายใจเลย แน่นไปหมด ผมมองว่าการแต่งตัวของคนเราก็ต้องมี space บ้าง ต้องเน้นองค์ประกอบด้วย ไม่ใช่วางอะไรต่อมิอะไรไว้เต็มไปหมดจนหาที่ว่างไม่เจอ ไม่มีสัดส่วนของงานศิลป์ที่ลงตัว แบบนี้มันก็รก ดูแล้วไม่เจริญหูเจริญตา หาความโดดเด่นไม่ได้ การแต่งตัวของคนเราก็เหมือนกัน ตัวเราคือ lay out เราต้องทำให้ตัวของเรามี space ด้วย ไม่ใช่โปะหรือพอกอะไรลงไปบนตัวจนหาที่ว่างไม่พบ หากเราแต่งตัวเป็นและดูดีด้วย เราต้องวาง lay out ให้พอเหมาะ ต้องมี space เช่น จะเน้นที่ส่วนไหนของร่างกายก็เน้นเพียงตรงนั้น อย่าพอกลงไปเยอะแยะ หาเครื่องประดับดีๆ สวยๆ สักอันหนึ่งประดับบนเสื้อผ้าให้พอเหมาะ เท่านี้ก็เด่นแล้วครับ
l ถูกลอกเลียนงานบ่อยไหมครับ
นายไพโรจน์ : ก็มีบ้าง และก็บ่อยๆ ครับ (หัวเราะ) งานศิลป์ทุกชิ้นมีลิขสิทธิ์โดยสมบูรณ์เมื่อผลิตออกมาแล้วเราไปจดแจ้งลิขสิทธิ์ครับ
l อย่างคำว่าอยู่ข้างประเทศไทยนี้ หากมีผู้นำคำนี้ไปใช้ ถือว่าลอกเลียนละเมิดลิขสิทธิ์คุณไพโรจน์ไหมครับ
นายไพโรจน์ : หากนำไปเฉพาะคำพูดก็ไม่สู้กระไรนักแต่หากนำไปทั้งคำพูดและรูปแบบที่ผมผลิต ก็ถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์ครับ งานผมทุกชิ้นเกิดจากการวาดด้วยมือของผม จึงเป็นลิขสิทธิ์ของผมโดยสมบูรณ์ งานอาร์ตเมื่อสำเร็จแล้วลิขสิทธิ์ก็จะตามมาโดยปริยายตามหลักของกฎหมาย
l ในร้านนี้ยังมีงานศิลป์อื่นๆ นอกจากงาน graphic งานเหล่านี้คุณไพโรจน์ทำด้วยหรือครับ
นายไพโรจน์ : ผมจะเน้นเฉพาะงาน graphic design แต่ถ้าเป็นงานอื่นๆ ในร้าน เป็นผลงานของภรรยาผมครับ เราเรียนด้านศิลปะมาด้วยกันทั้งคู่ เราก็ทำงานตามที่ตนเองถนัด อย่างเช่นกระเป๋าผ้าใบนี้ภรรยาผมเน้นเรื่องสัดส่วน หรือ proportion เป็นสำคัญ สัดส่วนที่ลงตัวของงานศิลป์ทำให้งานมีความโดดเด่นมากขึ้น ดีกว่างานที่ออกมาแล้วเหมือนๆ กันไปทั้งหมดการออกแบบงานศิลป์ต้องให้ความสำคัญกับ proportionด้วย เพราะช่วยทำให้งานมีความเด่นเป็นพิเศษ และน่าสนใจมากขึ้น
l ขอกลับไปชวนคุยเรื่องคำที่คุณไพโรจน์ใช้ติดบนเสื้อ เช่นคำว่าอยู่ข้างประเทศไทย ลึกๆ แล้วต้องการบอกอะไรกับสังคมครับ
นายไพโรจน์ : ผมว่าคำนี้มันเป็นคำกลางๆ มันบอกชัดๆ ว่า เราอยู่ข้างประเทศไทยของเรา เราเลือกอยู่ข้างบ้านเมืองไทยของเรา เราเป็นคนไทย เราก็ต้องอยู่ข้างประเทศไทย ไม่เข้าข้างไหนทั้งนั้น ใครเข้าข้างประเทศไทย เราก็อยู่เป็นพวกเดียวกัน ผมทำ graphic นี้เพราะต้องการลดความอึดอัดที่คนบางกลุ่มมักบอกว่าตนเองเป็นข้างโน้นข้างนี้ แต่ผมมองว่าผมอยู่ข้างประเทศไทยเท่านั้น คนที่คิดเหมือนผมก็ตรงใจกับคำนี้ ก็ช่วยกันสนับสนุนงานต่อไป
l มีหลายคนสวมเสื้อของคุณไพโรจน์ แล้วเดินทางไปต่างประเทศ แล้วถ่ายรูปลงเฟซบุ๊คว่าอยู่ที่อังกฤษ อิตาลี เยอรมนี จีน ญึ่ปุ่น และที่อื่นๆ เห็นแล้วดีใจไหมครับ
นายไพโรจน์ : ก็ดีใจนะครับ ที่เห็นเสื้อของเราที่มีภาษาไทย มีธงชาติไทยไปปรากฏอยู่ในที่ต่างๆ ทั่วโลกต้องบอกว่าตัวอักษรภาษาไทยมีความเท่นะครับคนต่างชาติจำนวนมากชอบเพราะมีเอกลักษณ์ชัดเจน คนต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวหลายคนเข้ามาที่ร้านผมแล้วเลือกแบบแล้วให้ผมสกรีนให้เดี๋ยวนั้น แล้วก็สวมเลย เขาบอกว่าชอบเอกลักษณ์ของตัวอักษรไทย แล้วเนื้อผ้าที่ใช้ผลิตเสื้อยืดก็เน้นผ้าที่ไม่ฟอกไม่ย้อมไม่กัดสี คือใช้สีของฝ้ายโดยธรรมชาติ เป็นการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปด้วย สมัยเมื่อปี 2537 นั้น ผมหาเนื้อผ้าที่เป็นฝ้ายธรรมชาติ ไม่มีการฟอกสีได้ยากมาก เพราะในยุคนั้นโรงงานผลิตผ้าในบ้านเมืองของเรายังไม่ค่อยคุ้นเคยกับผ้าที่ไม่ฟอกสี แต่ปัจจุบัน หาผ้าชนิดนี้ง่ายมาก ทุกโรงงานผลิตได้ทั้งหมด ซึ่งก็เท่ากับช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน
l คำถามปิดท้ายครับ งานศิลป์ช่วยลดหรือแก้ปัญหาของสังคม หรือวิกฤตการณ์สังคมได้อย่างไรบ้างครับ
นายไพโรจน์ : คำถามยากนะครับ (หัวเราะ) ตอบชัดๆ คือ เท่าที่ผ่านมานั้น ถ้าเราย้อนดูประวัติศาสตร์ในยุคต่างๆ ของแต่ละประเทศ ในช่วงเวลาที่เขาเกิดวิกฤตการเมือง หรือวิกฤตสังคม เขาจะใช้รูปแบบหนึ่งในการสื่อสารกับคนในประเทศโดยผ่านศิลปะแขนงต่างๆ เพราะงานศิลป์สามารถเข้าถึงจิตใจของผู้คนได้จำนวนมากในเวลาอันจำกัด จึงเปรียบเสมือนอาวุธที่ทรงพลัง สามารถหลอมรวมผู้คนเข้าด้วยกันได้ดี ศิลปะที่ว่านั้นอาจเป็นบทเพลง บทกวี ภาพวาดที่สะท้อนปัญหาสังคมและปัญหาการเมือง งานศิลปะจึงเป็นสื่อกลางตัวหนึ่งที่สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้คนในสังคม เมื่อผู้คนสะเทือนใจในสิ่งทุกคนหรือคนส่วนใหญ่เห็นตรงกันก็ช่วยทำให้เกิดพลังได้อย่างมาก งานศิลป์ที่มีคุณภาพช่วยทำให้ผู้คนสามารถรวมตัวกันได้ เมื่อผู้คนรวมตัวกันแล้ว ก็เกิดพลังนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นได้นี่คือคุณวิเศษประการหนึ่งของงานศิลปะ
คุณสามารถรับชมรายการไลฟ์ วาไรตี รายการที่ให้ทั้งสาระและความรู้ ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 14.05-14.30 น. ทางโทรทัศน์ NBT ช่องหมายเลข 2 และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTube ไลฟ์ วาไรตี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี