การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA จัดงาน“65th MEA SPARK the Sustainable Future”เนื่องในโอกาส “วันคล้ายวันสถาปนาการไฟฟ้านครหลวง ครบรอบ 65 ปี” วันที่ 1 สิงหาคม 2566 เปิดบ้านต้อนรับพันธมิตรที่มาร่วมแสดงความยินดี โดยมี วิลาศ เฉลยสัตย์ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง และผู้บริหาร MEAมาต้อนรับผู้มาร่วมงาน ณ อาคารวัฒนวิภาส การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ คลองเตย เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
วิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนา MEA ครบรอบ 65 ปี ในวันที่ 1 สิงหาคม 2566 MEA ได้จัดกิจกรรมภายใต้ชื่อ “65th MEA SPARK the SustainableFuture” จุดประกายอนาคตที่ยั่งยืน โดยเปิดให้ผู้ร่วมงานสามารถร่วมบริจาคเงินให้กับ2 มูลนิธิ คือ สหทัยมูลนิธิ เพื่อป้องกันการเป็นเด็กกำพร้าและส่งเสริมให้เด็กเติบโตในครอบครัวอย่างมีคุณภาพ และมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก เพื่อส่งเสริมพัฒนาเด็กรอบด้านพร้อมผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาเด็กอย่างสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังมีการเสนอผลการดำเนินงานจากการขับเคลื่อนองค์กรโดยยึดหลัก Tripple Go for Goal ใน 3 ด้าน คือ Go Smart,Go Digital และ Go Green ภายใต้วิสัยทัศน์ Energy for city life,Energize smart living ในการขับเคลื่อนพลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร
โดย GO Smart คือ การพัฒนาระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยเสริมความมั่นคงและความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า โดย MEA ดำเนินโครงการด้านGO Smart เช่น โครงการ Smart Metro Gridที่ปัจจุบัน MEA ได้ติดตั้ง Smart Meter รวมจำนวน 33,265 ชุด ทำให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบ Online ช่วยในด้านการบริหารจัดการระบบไฟฟ้า วิเคราะห์จุดเกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้อง ภายในปี 2570 จะติดตั้งรวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 441,400 ชุด รวมถึงยังมีการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาประยุกต์ใช้กับหม้อแปลงจำหน่าย ภายใต้โครงการ TLM (Transformer Load Monitoring) ช่วยในการวางแผนขยายหรือปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้า โดยภายในปี 2570 จะติดตั้งแล้วเสร็จครบทั้งพื้นที่ MEA ที่มีจำนวน 62,400 ชุด
นอกจากนี้ MEA ยังดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน โดยเฉพาะในเส้นทางการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ซึ่งจะมีแผนงานที่สำเร็จเพิ่มมากขึ้นในปี 2566 จะมีเส้นทางที่แล้วเสร็จเพิ่มเติม 29 กิโลเมตร รวมเป็น91 กิโลเมตร ขณะเดียวกัน MEA ยังมีแผนที่จะดำเนินโครงการสายไฟฟ้าใต้ดินให้แล้วเสร็จรวมทั้งสิ้น 236.1 กิโลเมตร ภายในปี 2570และมีแผนที่จะดำเนินการในอนาคตอีก 1,140.8 กิโลเมตร รวมทั้งสิ้นเป็น 1,454.3 กิโลเมตร
ด้าน Go Digital ได้ยกระดับไปสู่การเป็น Fully Digital Service มีการพัฒนาการให้บริการผ่านออนไลน์ต่างๆ เช่น ระบบTracking บริการทางธุรกรรมออนไลน์ของ MEA ผ่าน MEASY มีการพัฒนาบริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์บนเทคโนโลยีบล็อกเชน (eLG on Blockchain) อีกทั้งยังมีการพัฒนาระบบ EV Data Roaming ทำให้MEA EV Application สามารถแชร์ข้อมูลกับผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างๆ ครอบคลุมทั้งในฟังก์ชั่นการค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้า และการจ่ายค่าบริการ
สุดท้าย Go Green นั้น MEA ได้สนับสนุนให้เกิดระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) มีการออกแบบระบบ Smart Charging เพื่อลดปัญหาการเกิด Overloadรวมถึงล่าสุด ได้เปิดตัว MEA EV Super Chargeเครื่องอัดประจุไฟฟ้า 120 kW ที่พร้อมรองรับการเชื่อมต่อกับระบบ Solar PV และ BatteryStorage ณ บริเวณอาคารวัฒนวิภาสการไฟฟ้านครหลวงสำนักงานใหญ่ คลองเตย รองรับผู้ใช้บริการใจกลางเมืองมหานคร ขณะเดียวกันMEA ยังดำเนินโครงการนำเสาไฟฟ้าที่ถูกรื้อถอนจากโครงการสายไฟฟ้าใต้ดินนำมาทำแนวป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง MEA’s Modelในพื้นที่ป้อมพระจุลจอมเกล้าและชายฝั่งย่านบางขุนเทียน พร้อมสนับสนุนการดำเนินการปลูกป่าชายเลนและดูแลบำรุงรักษามาอย่างต่อเนื่อง มีการจัดทำโครงการโซลาร์ภาคประชาชนสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยโครงการยกระดับสถาบันการศึกษาให้เป็นต้นแบบด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมภายใต้โครงการ Energy Mind Award Season 2 รวมถึงมีการดำเนินโครงการ MEA Energy Awards เพื่อส่งเสริมให้อาคารมีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีคุณภาพอากาศภายในอาคารที่ได้มาตรฐาน นับเป็นการร่วมผลักดันให้เกิดความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ตามนโยบายของรัฐบาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี