The Port of L'Estaque 1906
ใน Kunsthaus Zurich นอกจากมีงานแนว Fauvism ของ Henri Matisse แล้วที่นี่ยังมีงานของ Georges Braque ศิลปินฝรั่งเศสที่สร้างสรรค์ผลงานแนวนี้อีกคนด้วย
เขาเกิดวันที่ 13 พฤษภาคม 1882 ใน Argenteuil ชานกรุงปารีส และเติบโตที่ Le Havre ซึ่งอยู่ในแคว้นนอร์มังดีทางเหนือของฝรั่งเศสโดยได้รับการฝึกฝนให้เป็นช่างทาสีบ้านและตกแต่งเฉกเช่นเดียวกันกับบิดาและปู่ อย่างไรก็ดี เขายังมีโอกาสดีกว่าเพราะได้เข้าเรียนที่ Ecole Superieure d’art et design Le Havre-Rouen และได้มีโอกาสฝึกงานตกแต่งกับนักตกแต่งที่มีชื่อเสียงจนได้รับประกาศนียบัตรในปี 1902หลังจากนั้นเขาเข้าเรียนที่ AcademieHumbert ในกรุงปารีส
เขาเริ่มต้นชีวิตศิลปินด้วยการสร้างงานแนว Impressionism แต่เมื่อเห็นงานแนว Fauvism ก็เริ่มติดใจและเริ่มเข้ากลุ่มกับHenri Matisse และ Andre Derain เพื่อสร้างงานที่เน้นการใช้สีสดใสและแสดงออกตามอารมณ์ อย่างไรก็ดี งานของเขากลับคล้ายคลึงกับงานของ Raoul Dufy และ Othon Friesz ซึ่งเป็นคนที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่เล็กมากกว่า ในเดือนพฤษภาคม 1907เขาก็เริ่มได้รับโอกาสในการจัดแสดงนิทรรศการแนว Fauvism ที่ Salon des Independantsเขาเริ่มพัฒนางานใหม่โดยอาศัยแรงบันดาลใจจาก Paul Cezanne หลังได้ชมนิทรรศการที่จัดแสดงอย่างยิ่งใหญ่ของ Cezanne ในปี 1907 อันเป็นปีที่ Cezanne เสียชีวิต
ระหว่างปี 1908-12 เขาเน้นสร้างงานแนวเรขาคณิต เขาลดโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมให้เหลือเป็นแค่รูปทรงเรขาคณิตประมาณลูกบาศก์ แต่แสดงการแรเงาเพื่อให้ดูแบนราบ หรือสามมิติโดยการแยกภาพเป็นส่วนๆ นับจากปี 1909 เขาเริ่มทำงานใกล้ชิดกับ Pablo Picasso ซึ่งเป็นผู้ที่พัฒนาแนวทางศิลปะแบบ Cubismเหมือนๆ กัน ในเวลาเดียวกันนั้น Picassoก็ได้รับแรงบันดาลใจจาก Gauguin,Cezanne, หน้ากากแอฟริกันและงานประติมากรรมจาก Iberia งานแนว Cubismจึงเป็นผลพวงของการรวมตัวกันของงานของ Picasso และ Braque ซึ่งต่างอาศัยอยู่ใน Montmartre กรุงปารีสด้วยกันทั้งสองต่างสร้างสรรค์งานที่ใช้สีเฉดเดียวกันทั้งภาพร่วมกับเหลี่ยมมุมต่างๆ จนเป็นที่มาของแนวทางศิลปะแบบ Cubism อันโด่งดังในเวลาต่อมา
Cherrance 1928
คำว่า Cubism เป็นคำที่ถูกกล่าวถึงโดย Ernst Gombrich นักประวัติศาสตร์ศิลป์ครั้งแรกในงานนิทรรศการที่ Salon des Inde pendants ในปี 1911 จากการเห็นผลงานของPicasso และ Braque เขาให้คำจำกัดความไว้ว่าเป็นความพยายามของศิลปินในการสร้างผลงานบนผืนผ้าด้วยการขจัดความคลุมเคลือและบังคับให้อ่านภาพได้อย่างเข้าใจเบ็ดเสร็จในแวบแรก แต่ในความเป็นจริงนั้น ภาพแนว Cubism กลับเป็นผลงานที่ยากต่อการเข้าใจ หากไม่มีความคุ้นชินหรือไม่มีชื่อภาพ เนื่องจากผู้ชมต้องเสาะแสวงหาความหมายหรือเนื้อหาจากในผลงานด้วยความยากเย็น
ในปี 1912 ทั้งสองต่างช่วยกันลองแนวทางใหม่ที่เรียกว่า Collage หรือการนำกระดาษมาทาสีผสมกาวแล้วประกอบร่างกันใหม่เป็นผลงานศิลปะ Louis Vaucelles นักวิพากษ์ศิลป์ชาวฝรั่งเศสให้ความเห็นเกี่ยวกับงานของ Braque ไว้ว่าเขาเป็นคนที่มีความกล้าหาญมากในการลดทอนทุกสิ่งทุกอย่างทั้งสถานที่ และหุ่นเพื่อให้กลายเป็นเรขาคณิตแนวเหลี่ยมอย่างเดียว ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เขาได้เข้าทำงานในกองทัพฝรั่งเศส และได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะจนทำให้ตาบอดชั่วคราว หลังหายป่วย เขาหันมาเน้นการสร้างงานแนว Still life มากขึ้นเพราะงานแนวนี้เปิดโอกาสให้ศิลปินได้เห็นมุมมองที่หลากหลายของวัตถุได้มากยิ่งขึ้น เขาเน้นไปเรื่องการใช้สีมากกว่าการแสดงของวัตถุและแตกต่างกับงานของ Picassoนักท่องเที่ยวจะเห็นว่าผลงานของ Braqueหลังปี 1912 มีลักษณะเป็น Cubism อย่างแท้จริง แต่มีอัตลักษณ์และแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับงานของ Picasso สมกับที่ได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาของ Modern Art ของฝรั่งเศส
Still Life with Fruit 1924
The Violinist 1912
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี