วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
แนวหน้า Talk : ‘เทพไท เสนพงศ์’  บทเพลง‘คุกมีไว้ขังคนจน’  เสียงตัดพ้อถึง‘นักโทษเทวดา’

แนวหน้า Talk : ‘เทพไท เสนพงศ์’ บทเพลง‘คุกมีไว้ขังคนจน’ เสียงตัดพ้อถึง‘นักโทษเทวดา’

วันศุกร์ ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566, 06.00 น.
Tag : แนวหน้า Talk
  •  

“ผมเป็นนักโทษทั่วไป เป็นชายไทยที่อยู่ในเรือนจำเป็น น.ช.ต้องทนทุกข์ระกำ เป็นนักโทษต้องยอมรับชะตากรรม อยู่ในเรือนจำ ไม่มีสิทธิ์พิเศษอะไร, ไม่ได้เป็นนักโทษเทวดา ใช้เงินตรา อำนาจฟาดหัวใคร เจ็บไข้ได้ป่วย ก็ต้องทนต่อไป ถูกขังคุก อย่างอเนจอนาถใจจะใช้สิทธิ์ออกไป โรงพยาบาลไม่มี, เขามีคุกเอาไว้ขังคนจน พวกอิทธิพล คนรวยล้นระดับเศรษฐี ถูกจับขังคุก ไม่เคยเห็นจะมี สังคมไทยมักจะเป็นเช่นนี้ คนจนถูกย่ำยี ไร้ศักดิ์ศรี ไร้ความเป็นธรรม, น่าเห็นใจ นักโทษไทยที่ถูกจองจำทนทุกข์ระกำ อยู่ในเรือนจำ อีกตั้งยาวไกล พักโทษไม่ได้ ลดโทษไม่ได้ ก็ต้องทำใจ เพราะสังคมไทย สองมาตรฐาน มาตั้งนานนม”

บทเพลง “คุกมีไว้ขังคนจน” จากปลายปากกาของ เทพไท เสนพงศ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตัดพ้อความ “2 มาตรฐาน” ในสังคมไทย แม้กระทั่งการทำผิดต้องโทษจำคุก คนรวย-ผู้มีอำนาจอิทธิพลยังมีสิทธิพิเศษต่างๆ มากกว่าคนจนหรือคนทั่วไป ซึ่ง เทพไท ก็เป็นคนหนึ่งที่มีโอกาสได้เข้าไปใช้ชีวิตในฐานะ “นักโทษ” เนื่องจากศาลตัดสินจำคุก 2 ปี คดีทุจริตการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ปี 2557 ก่อนได้รับการพักโทษเมื่ออยู่ในเรือนจำไปแล้วเป็นเวลา 16 เดือน


14 พ.ย. 2566 หรือ 8 วันหลังจากที่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เทพไท ได้มาเปิดใจกับรายการ “แนวหน้าTalk” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ซึ่งอดีตนักการเมืองผู้นี้ เล่าว่า บทเพลงคุกมีไว้ขังคนจนแต่งขึ้นในช่วงที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2566โดยอดีตนายกฯ ทักษิณ ต้องรับโทษตามที่ศาลมีคำพิพากษาจำคุกในคดีต่างๆรวมกัน 8 ปี ก่อนที่ต่อมาจะได้รับพระราชทานอภัยโทษ ลดโทษจำคุกลงเหลือ 1 ปี

ซึ่งแม้ในตอนแรก อดีตนายกฯ ทักษิณ จะบอกว่าพร้อมกลับมารับโทษในคดีที่ศาลมีคำพิพากษาแล้ว แต่เมื่อมาจริงกลับอยู่ในเรือนจำเพียงไม่ถึง 12 ชั่วโมงแล้วก็ไปอยู่โรงพยาบาล เรื่องนี้นักโทษในเรือนจำก็รับรู้ แล้วก็รู้สึกว่า ทำไม ทักษิณเอาเปรียบขนาดนี้ เพราะบางคนติดคุกกัน 10 ปี 20 ปี ส่วนทักษิณขนาดเหลือโทษจำคุกเพียง 1 ปีก็ยังไม่ยอมเข้าเรือนจำ นักโทษคนอื่นๆ เขาก็มีความรู้สึกเหมือนกัน

“เพื่อนนักโทษก็บอก สส. ช่วยแต่งเพลงให้หน่อย แต่งเพลงเกี่ยวกับทักษิณนี่แหละ เราคนจนๆ ก็ต้องมาติดคุก แล้วเขาเป็นคนรวยคนมีอำนาจ ก็โอเค! อย่างนั้นแต่งให้ผมก็แต่งให้เขา ก็เป็นตัวแทนความรู้สึกของนักโทษทั่วประเทศ แล้วก็แต่ง เวลาเขียนก็สัก 1-2 ชั่วโมง เขาเรียกพอมันมีอารมณ์มามันก็ไหล แล้วก็เสร็จ หลังจากนั้นก็มาเกลาดัดแปลงนิดๆ หน่อยๆ ตกแต่งหน่อย เหมือนเราปั้นรูปปั้นเข้าๆ แล้วก็มาตกแต่งให้มันละเอียด” เทพไท กล่าว

เทพไท เล่าต่อไปว่า หลังได้เนื้อเพลงก็ส่งออกมาให้ภายนอก คือ “อาจารย์ณกรณ์-ณกรณ์ ชูรักษ์” ทำดนตรีเตรียมไว้ก่อน ซึ่งตนเองทราบวันที่จะได้ออกจากเรือนจำแล้ว รู้ว่าเมื่อใดจะรับโทษถึง 2 ใน 3 ซึ่งเมื่อออกจากเรือนจำก็ขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่คุมประพฤติที่กรุงเทพฯ เดินทางไป
ห้องอัดที่ จ.นนทบุรี เพื่อบันทึกเสียง โดยปัจจุบันยอดคนฟังน่าจะมากอยู่ รวมถึงกลุ่ม คปท. ก็เอาเพลงนี้ไปเปิดตอนจัดกิจกรรมที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ ทักษิณ ไปพักรักษาตัวนอกจากนั้น เทพไท อนุญาตให้ทุกคนนำเพลงไปร้องในแนวทางของตนเองได้

“อดีต สส. เมืองคอน” ยังได้เล่าถึงชีวิตในเรือนจำ ซึ่ง “สำหรับคนติดคุก จะมีความรู้สึกว่าทำไมแต่ละวันดูช้าเหลือเกิน” อย่างตนเองอยู่ในเรือนจำ 16 เดือน คนภายนอกอาจมองว่าไม่นาน แต่นักโทษจะนอนนับวัน-นับคืน โดยผู้ต้องขังจะมีเสื้อผ้า 2 สี คือ 1.สีน้ำตาล หรือเรียกกันภายในเรือนจำว่า “ชุดลูกวัว” เป็นผู้ต้องขังที่คดียังไม่สิ้นสุด ยังต้องเดินทางไปขึ้นศาลเป็นระยะๆ กับ 2.สีฟ้า-น้ำเงิน เป็นนักโทษเด็ดขาดที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว “นักโทษมักจะดัดแปลงเสื้อผ้าให้พอดีตัว” เพราะเสื้อผ้าที่เรือนจำแจกจะเป็นแบบ “ฟรีไซส์ (Free Size)” ตัวใหญ่ใส่แล้วหลวม

ในวันที่ เทพไท มาออกรายการ แนวหน้าTalk ได้สวมเสื้อสีน้ำเงิน แบบเดียวกับที่ใส่ในเรือนจำ บนหน้าอกเสื้อมีตัวเลข “6-0765” หมายถึงตนเองเริ่มติดคุกเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2565 โดยตัวเลขชุดนี้เป็นการจำลองให้เหมือนกับ “เลขล็อกเกอร์เก็บของ” เช่น เสื้อผ้า ซึ่งแต่ละคนจะมีคนละไม่เกิน 3 ชุด อุปกรณ์สำหรับอาบน้ำ (ขัน สบู่ ยาสระผม) หรือของใช้ส่วนตัวทั่วๆ ไป เพราะหากไม่มีเลขล็อกเกอร์ อาจเกิดการหยิบสิ่งของที่หน้าตาเหมือนกันหมดสลับกันระหว่างผู้ต้องขังด้วยกันได้ โดยเลขตัวแรกหมาย ถึงแดน (ซึ่งจริงๆ เทพไทติดอยู่แดน 3) ส่วนเลขชุดหลังคือเลขล็อกเกอร์

“เข้าเรือนจำต้องถูกตัดผมให้สั้นตั้งแต่วันแรก” เป็นทรงขาว 3 ด้าน ส่วนด้านบนไว้ยาวได้ไม่เกิน 5 เซนติเมตร ซึ่งจะต้องไว้ผมแบบนี้ไปจนกระทั่งเหลืออีก 1 เดือนสุดท้ายก่อนพ้นโทษ จึงได้รับการอนุโลมไม่ต้องตัดผมอีก อย่างตนเอง ทราบว่าจะได้พักโทษและออกจากเรือนจำวันที่ 6 พ.ย. 2566 เพียงแต่ยังขอตัดผมด้านข้างออกเหมือนเดิมเพราะรู้สึกสบายดี “อยู่ในคุกน้ำหนักลดไป 10 กว่ากิโลกรัม” และลดได้ในเวลาเพียง 3 เดือน ต่างจากตอนอยู่ข้างนอก แพทย์ขอให้ลดน้ำหนัก 3 กิโลกรัม ต้องใช้เวลาถึง 2 ปี

“ผมนอนหลับ ทานได้ตามอัตภาพแต่ก็ทานน้อย ได้ออกกำลังกายด้วยจากที่ไม่เคยออกเลย ในช่วงที่เข้าไปแล้วผมว่าปัจจัยที่ทำให้น้ำหนักลดมากที่สุดคือเรื่องการกินอาหาร คือผมไม่กินมื้อเย็น เขามีให้ แต่มื้อเย็นของเขา(เรือนจำ) คือบ่ายสอง คือ 3 โมงครึ่งก็ต้องขึ้นเรือนนอน ตื่นเช้า 6 โมง คือไขประตูปล่อย ก็เหมือนกับเป็ดไล่ทุ่ง นับยอดเสร็จก็เดินตามหลังมา แต่ละห้องก็แล้วแต่ห้องเล็ก-ห้องใหญ่ แต่ประมาณห้องละ 30-40 คน ตอนนี้ไม่ค่อยเบียดเสียด เมื่อก่อนเบียดเสียดมากกว่านี้ ตอนหลังนักโทษเขาระบายออก ก็นอนติดกันแต่ไม่ถึงกับซ้อนกัน” เทพไท กล่าว

ในการนอนของนักโทษ แต่ละคนจะได้รับ “ผ้า 3 ผืน”ผ้าผืนแรกไว้ใช้เป็นผ้าปูที่นอน ผืนที่สองไว้ทำหมอนหนุน และผืนที่สามสำหรับเป็นผ้าห่ม ซึ่งต้องใช้ตลอดไม่ว่าฤดูร้อนหรือฤดูหนาว ขณะที่ในเรือนนอนจะมีพัดลม “ใครจะติดอยู่แดนไหนขึ้นอยู่กับอัตราโทษที่ได้รับ” โดย เทพไท กล่าวว่า ตนเองอยู่แดน 3 ซึ่งเป็นแดนสำหรับผู้ต้องขังแรกรับ (มาใหม่)ผู้ต้องขังเตรียมปล่อย (ใกล้ถึงกำหนดพ้นโทษ) และผู้ต้องขังที่ถูกจำคุกในอัตราโทษไม่สูง โดยตนเองได้รับมอบหมายให้เป็นวิทยากรในการอบรมเรื่องต่างๆ ตามกิจกรรมที่จัดขึ้นภายในเรือนจำ

กิจวัตรประจำวันหลังออกมานอกเรือนนอนในตอนเช้า เมื่อรับประทานอาหารเช้าเสร็จแต่ละคนก็แยกย้ายไปทำกิจกรรมต่างๆ จนถึงเวลาพักเที่ยง แล้วจะมีอาหาร 2 มื้อ คือมื้อเที่ยงเวลาเที่ยงวัน และมื้อเย็น เวลา 14.00 น. ก่อนจะต้องกลับเข้าเรือนนอนในเวลา 15.30 น. ซึ่งตนเองและนักโทษอีกหลายคน เลือกที่จะรับประทานเฉพาะมื้อเวลา 14.00 น. เท่านั้น ส่วนอาหารก็มีตามอัตภาพ เพราะเป็นนักโทษกระทำผิด
คงไม่ได้กินอาหารที่ดีนัก แต่นักโทษจะมีวิธีปรุงให้รสชาติอร่อยขึ้น อย่างไรก็ตาม ตอนที่อยู่ในเรือนจำได้กินข้าวขาว ไม่ใช่ข้าวแดงอย่างที่เคยทราบมาในอดีต

“ดนตรี” เป็นความบันเทิงที่สำคัญสำหรับ “ชาวคุก” เทพไท เล่าว่า มีนักดนตรีหลายคนติดคุกในคดียาเสพติดจึงสามารถหาคนมารวมกันให้ครบวงได้ โดยหนึ่งในบทเพลงที่ตนเองแต่งคือ “พบรักในเรือนจำ” แต่งขึ้นเพราะจะนำไปแสดงดนตรีในแดนผู้ต้องขังหญิง (แดน 8) และเมื่อไปแสดงก็ทำให้ผู้ชมได้สนุกสนานกัน ซึ่งการแต่งเพลงเป็นสิ่งแรกๆ ที่ทำตั้งแต่เข้าไปใช้ชีวิตในเรือนจำ โดยมีสมุดโน้ตติดตัว 1 เล่ม

เพลงแรกที่แต่งคือ “เสียงจากเรือนจำ” ได้แรงบันดาลใจจากเพลง “หลับเถิดเรียมจ๋า” จากนั้นในช่วงที่กำลังปรับตัวให้เข้ากับเวลานอน ซึ่ง เทพไท เล่าว่า ตนเองมักจะตื่นกลางดึกเวลาตีสองเสมอ เลยใช้ช่วงกลางดึกที่ตื่นนั้นแต่งเพลง เกิดเป็นเพลงที่ 2 คือ “เศร้าใจในกรงขัง” จากนั้นก็ตามมาอีกหลายเพลงตามโอกาสต่างๆ เช่น เคยมีเพื่อนนักโทษด้วยกันถูกภรรยาทิ้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่คนติดคุกมักจะเจอ วันแรกๆ มาเยี่ยมและสัญญาว่าจะรอ แต่นานวันก็ค่อยๆ ห่างและหายไป จึงมาขอให้แต่งเพลงที่บอกเล่าเรื่องราวนี้บ้าง โดยปัจจุบันนักโทษคนนี้ก็ยังคงอยู่ในเรือนจำ

“คุณหนีตั้ง 15 ปี แล้ววันนี้คุณเหลือแค่ปีเดียว คุณจะนอนโรงพยาบาลก็ได้ แต่ไปนอนโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก็ไม่มีใครว่านะ ก็มีหลายคนเขาไปนอนโรงพยาบาลราชทัณฑ์ตั้งเยอะแยะ VIP นะ เขาก็รู้แต่ไม่ว่ากันแต่นี่คุณมานอนห้อง VIP โรงพยาบาลตำรวจ มันทิ่มแทงหัวใจนักโทษ 4 แสนคน แล้วนักโทษ 1 คน ยังมีญาติพี่น้องอย่างน้อย 2-3 คน อย่างน้อยถ้า 3 คน ก็ 1.2 ล้านคน คนรู้สึกเจ็บปวด

คุณทักษิณไม่คิดหรือ ถ้ามามอบตัวก็น่าจะทำใจได้แล้วว่ารับสภาพ จากเมื่อก่อนไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว แล้ววันนี้โทษเหลือ 1 ปี แล้วคุณจะมาอยู่สัก 2 ใน 3 แบบกติกาทั่วไป อยู่แป๊บเดียวก็ได้ออกแล้ว และเป็นแบบอย่างกับสังคม แต่นี่คุณปฏิเสธทุกอย่างเลย คุณจัดฉากทุกอย่าง ผมว่ามันจะเสียไปถึงกระบวนการยุติธรรม เสียไปถึงรัฐบาลที่บังคับใช้กฎหมาย เสียไปถึงคุณเศรษฐา (ทวีสิน) ในฐานะที่เขาเป็นนายกฯ และเป็นนายกฯ พรรคของคุณทักษิณ ถ้าคุณทักษิณฟังผมอยู่ น่าจะตัดใจนะ กลับเรือนจำเถอะ” เทพไท กล่าวอีกครั้งถึงที่มาของเพลงคุกมีไว้ขังคนจน

“การมีญาติสนิทมิตรสหายมาเยี่ยม” ก็ถือเป็นอีกสิ่งที่เป็น “กำลังใจ” ในการใช้ชีวิตต่อไปให้ได้สำหรับคนที่ต้องอยู่ในเรือนจำ โดย เทพไท เล่าว่า วิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งก็เป็นอดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ ไปเยี่ยมตั้งแต่วันแรกๆ ต่อมาคือ ชวน หลีกภัย
อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเมื่อไปเยี่ยมก็ได้แนะนำให้ออกกำลังกายและอ่านหนังสือ นอกจากนั้นก็มีนักการเมือง ปชป. ไปอีกหลายคน ซึ่งกรณีของตนได้รับการอนุโลม เพราะตามระเบียบแล้วจะไม่ค่อยอนุญาตให้คนที่ไม่ใช่สมาชิกในครอบครัวเข้าเยี่ยม

จากโทษเต็มคือจำคุก 2 ปี หรือ 24 เดือน เทพไทได้รับการปล่อยตัวตามมาตรการพักโทษ หลังติดคุกแล้ว2 ใน 3 คือ 16 เดือน แต่การปล่อยตัวจะมีเงื่อนไข เช่น ไม่ไปเที่ยวสถานบันเทิง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ออกนอกพื้นที่ที่กำหนด ซึ่งก็คือเขตจังหวัด อาทิ เทพไท อยู่ในกรุงเทพฯ เมื่อจะไปร้องบันทึกเสียงเพลงที่แต่งไว้ ณ ห้องบันทึกเสียงใน จ.นนทบุรี ก็ต้องขออนุญาต ส่วนที่เห็นในข่าวว่ามีการวิ่งแก้บน ก็มาจากที่พูดเล่นๆ กับเพื่อนในเรือนจำว่าถ้าได้ออกจากคุกจะวิ่งกลับบ้าน เพราะปกติก็ออกกำลังกายด้วยการวิ่งรอบสนามกีฬาเล็กๆ ในเรือนจำอยู่แล้ว

“ความคิดที่เปลี่ยนไปหลังออกจากเรือนจำ” เทพไท กล่าวว่า การถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี ก็ต้องเปลี่ยนบทบาทจาก สส. มาใช้ชีวิตในฐานะประชาชนพลเมืองคนหนึ่ง ที่สามารถแสดงความเห็นทางการเมืองได้ แต่ไม่สามารถร่วมกิจกรรมหรือรับตำแหน่งทางการเมือง รวมถึงหันกลับมาใช้ชีวิตกับครอบครัวมากขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ในฐานะนักการเมืองต้องออกงานสังคมบ่อยครั้ง

“จนถึงบัดนี้ลูกผมอายุยี่สิบกว่า ผมไม่เคยมีงานวันเด็ก ไม่เคยมีวันขึ้นปีใหม่กับลูกเลย วันสำคัญไม่เคยอยู่กับครอบครัว เพราะงานของชาวบ้าน ลอยกระทงต้องไปเปิดงานให้ชาวบ้าน ไม่ได้ลอยกับลูกกับครอบครัว วันเด็กลูกก็ไปของลูก พ่อก็ไปเปิดงาน ลูกก็เข้าใจเพราะบังเอิญว่าบ้านภรรยาผมคุณตาเขาก็เป็นนักการเมือง เขาก็เข้าใจว่านักการเมืองควรจะต้องทำอะไรบ้าง แต่เรารู้ตัวเองวันสำคัญเราอยู่กับชาวบ้าน ครอบครัวของคนอื่น ลูกเราไม่ค่อยได้ดูเลย” เทพไท กล่าว

หมายเหตุ : สามารถติดตามรายการ “แนวหน้า Talk” ดำเนินรายการโดย บุญยอด สุขถิ่นไทย ได้ผ่านทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ช่วงหัวค่ำโดยประมาณ!!!

"คุณหนีตั้ง 15 ปี แล้ววันนี้คุณเหลือแค่ปีเดียว คุณจะนอนโรงพยาบาลก็ได้ แต่ไปนอนโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก็ไม่มีใครว่านะ ก็มีหลายคนเขาไปนอนโรงพยาบาลราชทัณฑ์ตั้งเยอะแยะ VIP นะ เขาก็รู้แต่ไม่ว่ากัน แต่นี่คุณมานอนห้อง VIP โรงพยาบาลตำรวจ มันทิ่มแทงหัวใจนักโทษ 4 แสนคน แล้วนักโทษ 1 คน ยังมีญาติพี่น้องอย่างน้อย 2-3 คน อย่างน้อยถ้า 3 คน ก็ 1.2 ล้านคน คนรู้สึกเจ็บปวด"

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • แนวหน้า Talk : ‘รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร’  ส่งกลับ‘อุยกูร์’ประเด็นร้อน‘ไทย’  ในความขัดแย้งของมหาอำนาจ แนวหน้า Talk : ‘รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร’ ส่งกลับ‘อุยกูร์’ประเด็นร้อน‘ไทย’ ในความขัดแย้งของมหาอำนาจ
  • แนวหน้า Talk : ‘ไพบูลย์ นิติตะวัน’  ‘พลังประชารัฐ’ในบทบาทฝ่ายค้าน  อ่านเกม‘เพื่อไทย’แก้รัฐธรรมนูญ แนวหน้า Talk : ‘ไพบูลย์ นิติตะวัน’ ‘พลังประชารัฐ’ในบทบาทฝ่ายค้าน อ่านเกม‘เพื่อไทย’แก้รัฐธรรมนูญ
  • แนวหน้า Talk : ‘สุทิน วรรณบวร’  การเมืองไทยในสายตาสื่ออาวุโส  ต่างชาติไม่มั่นใจใครนายกฯตัวจริง แนวหน้า Talk : ‘สุทิน วรรณบวร’ การเมืองไทยในสายตาสื่ออาวุโส ต่างชาติไม่มั่นใจใครนายกฯตัวจริง
  • แนวหน้า Talk : ‘วรชัย เหมะ’ มองการเมือง‘หลักการvsสถานการณ์’ และความเป็นไปของ‘คนเสื้อแดง’ แนวหน้า Talk : ‘วรชัย เหมะ’ มองการเมือง‘หลักการvsสถานการณ์’ และความเป็นไปของ‘คนเสื้อแดง’
  • แนวหน้า Talk : ‘ฐิติวัฒน์ ว่องวรรณกุล’  ‘มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยากฯ’  กับภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย แนวหน้า Talk : ‘ฐิติวัฒน์ ว่องวรรณกุล’ ‘มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยากฯ’ กับภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
  • แนวหน้า Talk : ‘ชัชวาล แพทยาไทย’  ทำไม‘ปุ๋ยคนละครึ่ง’ไม่ตอบโจทย์  ‘ต้นทุนผลิต’ทำชาวนาติดวังวน‘จน-หนี้’ แนวหน้า Talk : ‘ชัชวาล แพทยาไทย’ ทำไม‘ปุ๋ยคนละครึ่ง’ไม่ตอบโจทย์ ‘ต้นทุนผลิต’ทำชาวนาติดวังวน‘จน-หนี้’
  •  

Breaking News

ทางออกเดียว! ‘ณัฐพงษ์’นำฝ่ายค้านแถลง ไล่บี้‘แพทองธาร’ยุบสภา คืนอำนาจประชาชน

สะพัด!'รทสช.'ไม่ถอนตัว อ้างคลิปเสียง'แพทองธาร'ถูกแปลงสาร

'จอนนี่มือปราบ'ฟาดแรง!! คนโง่ไม่ควรเป็นผู้นำ แนะให้ 'อุ๊งอิ๊งค์' ลาออกนายกฯ (คลิป)

‘อิ๊งค์’เข้าทำเนียบฯ เรียกผบ.เหล่าทัพเข้าพบ ท่ามกลางปมร้อนคลิปคุย‘ฮุน เซน’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved