วันศุกร์ ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
‘โรคประสาทหูเสื่อม’ ภัยร้ายที่มาพร้อมเสียงดัง เสี่ยงสูญเสียการได้ยินก่อนวัย

‘โรคประสาทหูเสื่อม’ ภัยร้ายที่มาพร้อมเสียงดัง เสี่ยงสูญเสียการได้ยินก่อนวัย

วันอังคาร ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2566, 07.00 น.
Tag : โรคประสาทหูเสื่อม
  •  

ทุกวันนี้เราหันไปทางไหนก็เจอแต่คนใส่หูฟัง บางคนใส่นานติดต่อกันหลายชั่วโมงต่อวัน บางคนใส่แล้วเปิดเสียงดังจนคนข้างๆ ได้ยิน รู้ตัวอีกทีก็รู้สึกว่าการได้ยินผิดปกติไม่ชัดเหมือนเดิม ซึ่งอาจเป็นอาการของ “โรคประสาทหูเสื่อม” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “ภาวะหูตึง” ที่ปกติมักจะพบได้ในผู้สูงอายุ แต่ปัจจุบันกลับพบเจอได้มากขึ้นในกลุ่มคนที่ยังอายุไม่มากนัก

ผศ.พญ.กวินญรัตน์ จิตรอรุณฑ์ โสต ศอ นาสิก (Otolaryngology) นาสิกวิทยาและโรคภูมิแพ้ ศูนย์หู คอ จมูก โรงพยาบาลวิมุต ให้ข้อมูลว่า โรคประสาทหูเสื่อม คือภาวะการสูญเสียการได้ยินเนื่องจากเซลล์ประสาทหูเสื่อมสภาพ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อายุที่มากขึ้น การได้ยินเสียงดังบ่อยๆ การอักเสบหรือติดเชื้อ เป็นต้น โดยเฉพาะช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป
ร่างกายจะสร้างเซลล์ประสาทการได้ยินขึ้นมาทดแทนเซลล์ที่ตายได้ไม่เท่าตอนอายุน้อย ทำให้การได้ยินเสื่อมลง เรียกว่าอาการประสาทหูเสื่อมตามธรรมชาติ อีกทั้งถ้ามีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ร่วมด้วย อาทิ กรรมพันธุ์ โรคเบาหวาน หรือโรคทางระบบประสาทอื่นๆ ก็ยิ่งกระตุ้นให้การได้ยินเสื่อมเร็วขึ้นได้เช่นกัน


ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติม คือ การใส่หูฟัง เพราะมีผลทำให้การได้ยินลดลงพอสมควร โดยเฉพาะหูฟังประเภทที่ใส่เข้าไปในรูหู พอเปิดเสียงดังมากๆ จะมีความดันเข้าไปในหู ทำให้เซลล์ประสาทหูทำงานหนัก ส่งผลให้สูญเสียการได้ยินก่อนวัยอันควร วิธีการสังเกตว่าเราเริ่มมีอาการประสาทหูเสื่อมหรือยังนั้นทำได้ง่ายๆ โดยอาการที่เห็นได้ชัด คือ เปิดทีวีหรือลำโพงเสียงดังจนรบกวนคนอื่น ไม่ได้ยินเสียงคนข้างๆ พูด ในบางคนอาจมีปัญหาเสียงรบกวนในหู อาทิ เสียงวี๊ๆ เหมือนเสียงลม หรือเสียงซ่าๆ คล้ายเสียงทีวีเสีย ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบมาพบแพทย์

โรคประสาทหูเสื่อม โดยทั่วไปจะค่อยๆ สูญเสียการได้ยิน ซึ่งมักเป็นไปตามวัย แต่มีอีกโรคหนึ่งที่มีผลกระทบต่อการได้ยินแบบฉับพลัน คือ โรคหูตึงเฉียบพลัน ที่เกิดได้ในทุกช่วงวัย บางคนมีอาการตื่นมาตอนเช้าหูอื้อไปหนึ่งข้าง หรืออยู่ดีๆ ก็เวียนหัวและหูไม่ได้ยินขึ้นมา ซึ่งส่วนใหญ่เกิดโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่อาจมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ ประสาทหูบาดเจ็บจากการได้ยินเสียงดัง (Acoustic Trauma) อุบัติเหตุ เนื้องอกบริเวณฐานสมอง หรือโรคอื่นๆ ที่มีผลต่อระบบประสาท

อย่างไรก็ตาม โรคประสาทหูเสื่อมเฉียบพลัน ยิ่งมารักษาเร็วก็ยิ่งมีโอกาสหายสูง ซึ่งสามารถรักษาได้หลายวิธี ได้แก่ การให้สเตียรอยด์แบบรับประทาน (high dose steroids) เป็นเวลา 5-7 วัน การฉีดสเตียรอยด์เข้าไปในหูชั้นกลางผ่านเยื่อแก้วหู (intratympnanic steroid injection) เพื่อช่วยลดการอักเสบของประสาทหู นอกจากนี้ ในปัจจุบันมีวิธีที่เรียกว่า Hyperbaric Oxygen Therapy ที่จะใช้ออกซิเจนความดันสูงช่วยในการรักษา จะช่วยเพิ่มโอกาสที่การได้ยินจะกลับมาดีขึ้น

โรคประสาทหูเสื่อม ถือว่าเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้กลับมาเป็นปกติได้ เพราะการฟื้นฟูประสาทการได้ยินนั้นทำได้ยาก จึงทำได้เพียงประคับประคองไม่ให้เสื่อมเร็ว เช่น หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่เสียงดัง หากเป็นโรคเบาหวานหรือโรคทางระบบประสาทอื่นๆ ก็ยิ่งต้องควบคุมอาการให้ดีเพื่อไม่ให้ไปกระตุ้นอาการประสาทหูเสื่อม อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโรคนี้จะไม่สามารถรักษาได้ แต่คนที่สูญเสียการได้ยินมากๆ ก็สามารถใส่เครื่องช่วยฟังได้เช่นกัน ซึ่งในปัจจุบันมีการพัฒนาจนมีขนาดกะทัดรัด และสามารถปรับระดับการได้ยินให้เหมาะสมกับแต่ละคน

“โรคประสาทหูเสื่อม ถือเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติเมื่ออายุมากขึ้น แต่เมื่อในปัจจุบันเราเจอกับเสียงดังบ่อยขึ้นกว่าเดิมทั้งในและนอกบ้าน การเสื่อมของหูก่อนวัยอันควรอาจเกิดขึ้นกับหลายๆ คนได้ เราจึงควรป้องกันหูของเรา ด้วยการหลีกเลี่ยงเสียงดังที่ไม่จำเป็น เพื่อให้หูของเราได้ยินชัดตามวัยและไม่สูญเสียการได้ยินก่อนวัยอันควร” ผศ.พญ.กวินญรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย

ผู้ที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคประสาทหูเสื่อม สามารถมาขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ โรงพยาบาลวิมุต ชั้น 5 ศูนย์หู คอ จมูก หรือโทร.นัดหมาย 02-0790050 เวลา 08.00-20.00 น. หรือใช้บริการ Telemedicine ปรึกษาแพทย์ออนไลน์ผ่าน ViMUT Application คลิก https://bit.ly/372qexX

ผศ.พญ.กวินญรัตน์ จิตรอรุณฑ์
ผศ.พญ.กวินญรัตน์ จิตรอรุณฑ์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

เกาะติด'ชั้น 14' 'ทนายนกเขา'ซัด รบ.มีส่วนร่วม เหตุเพิกเฉยคดี

เปิด 5 มาตรการ'ฮุนเซน'เอาคืน ไม่ง้อไทย หลังไม่ยอมเปิดด่านให้

เพื่อความมั่นคง! 'กัมพูชา'งดออกอากาศหนัง-ละครไทยเริ่มตั้งแต่วันนี้

ศักดิ์ศรีนะ! 'กันจอมพลัง'ฝากถึงนายกฯกัมพูชา โอเคหรือที่ลูกหลานมาขอทานในไทย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved