เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลก สำหรับประเทศไทยเองก็เช่นกัน เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังถูกนำมาใช้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างกว้างขวาง
ข้อมูลจาก ภูกิจ ดิศทรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทเรียล สมาร์ท จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2024แนวโน้มเทคโนโลยีดิจิทัลที่คาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อประเทศไทย ได้แก่
● Digital Transformation การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล หมายถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในทุกมิติขององค์กร ทั้งในด้านการดำเนินงาน การจัดการ และการให้บริการ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจและองค์กร
● Artificial Intelligence (AI) ปัญญาประดิษฐ์ หมายถึงเทคโนโลยีที่เลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์ สามารถใช้เพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ทำงานอัตโนมัติ และสร้างสรรค์ผลงาน และนวัตกรรมใหม่ๆ
● 5G เครือข่าย ช่วยให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลรูปแบบายสื่อสารไร้สายความเร็วสูงใหม่ๆ
Digital Transformation ก้าวสำคัญสู่อนาคต
Digital Transformation เป็นเทรนด์สำคัญที่กำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลก ในประเทศไทยเองก็มีการส่งเสริมให้องค์กรต่าง ๆ เร่งดำเนินการ Digital Transformation เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลก
สำหรับในปี 2024 คาดว่า Digital Transformation จะยังคงเป็นเทรนด์สำคัญในไทย โดยองค์กรต่างๆ จะให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้มากขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ตัวอย่างการนำ Digital Transformation มาใช้ในไทย ได้แก่
● ภาคธุรกิจ : การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในกระบวนการผลิต การบริหารจัดการ Supply Chain และการให้บริการลูกค้า เช่น การนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการตรวจจับสินค้าเสื่อมสภาพ การนำระบบคลาวด์มาใช้ในการจัดการข้อมูล และการนำโซเชียลมีเดียมาใช้ในการสื่อสารกับลูกค้า
● ภาครัฐ : การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการให้บริการประชาชน เช่น การนำแอปพลิเคชั่นมาใช้ในการให้บริการประชาชน การนำบิ๊กดาต้ามาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล และการนำหุ่นยนต์มาใช้ในการให้บริการต่างๆ
AI เทคโนโลยีแห่งอนาคต
AI เป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพที่จะพลิกโฉมและปฏิวัติทุกวงการ ตั้งแต่เมื่อ 1 ปีที่แล้วที่บริษัท OpenAI ได้เปิดตัว ChatGPT ทำให้โลกได้รู้จัก AI และ Generative AI อย่างแพร่หลาย และทุกๆ บริษัทด้านเทคโนโลยีตื่นตัวเรื่อง AI กันมากขึ้น ในประเทศไทยเองก็มีการนำ AI มาใช้ในหลากหลายภาคส่วน เช่น
● ภาคอุตสาหกรรม : การนำ AI มาใช้ในกระบวนการผลิต การตรวจสอบคุณภาพ และการจัดการ Supply Chain เช่น การนำ AI มาใช้ในการควบคุมเครื่องจักรอัตโนมัติ การนำ AI มาใช้ในการตรวจจับสินค้าเสื่อมสภาพ และการนำ AI มาใช้ในการจัดเส้นทางขนส่ง
● ภาคบริการ : การนำ AI มาใช้ในการให้บริการลูกค้า การวิเคราะห์ข้อมูล และการขายสินค้า เช่น การนำ AI มาใช้ในตอบคำถามลูกค้า การนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า และการนำ AI มาใช้ในแนะนำสินค้า รวมถึงการสร้างสรรค์ Content รูปแบบใหม่ๆ ที่ใช้ทรัพยากรน้อยลง
● ภาคสาธารณสุข : การนำ AI มาใช้ในการตรวจวินิจฉัยโรค การรักษาพยาบาล และการพัฒนายารักษาโรค เช่น การนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ การนำ AI มาใช้ในการรักษาโรคทางพันธุกรรม และการนำ AI มาใช้ในการพัฒนายารักษาโรคมะเร็ง เป็นต้น
5G เครือข่ายแห่งอนาคต
5G เป็นเครือข่ายสื่อสารไร้สายความเร็วสูง ช่วยให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ5G รองรับการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลรูปแบบใหม่ๆ เช่น
● เทคโนโลยี AR/VR : เทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นโลกเสมือนจริง สามารถใช้ในการเรียนรู้ การฝึกอบรม และการทำงาน
● เทคโนโลยี IoT : เทคโนโลยีที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน สามารถนำมาใช้ในการบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะ การเกษตรอัจฉริยะ และอุตสาหกรรมอัจฉริยะ
● เทคโนโลยี Cloud Computing : เทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลและทรัพยากรคอมพิวเตอร์ได้จากทุกที่ในโลก สามารถใช้ในการจัดเก็บข้อมูล ประมวลผลข้อมูล และให้บริการต่าง ๆ
ปัจจุบันในประเทศไทยเองมีเครือข่าย 5G ครอบคลุมมากกว่า 80% แล้วทั่วประเทศ สมมุติว่าคนไทย 10 คน จะมี 8 คน อยู่ในเครือข่ายที่รองรับ 5G แต่จะมีคนใช้งานจริงอยู่แค่ 2 คนเท่านั้น แต่ภายในปี 2025 คนไทยจะใช้งาน 5G มากขึ้นถึง 50% ด้วยกัน อ้างอิงโดยคุณนวชัย เกียรติก่อเกื้อ หัวหน้าส่วนงานการตลาดลูกค้าองค์กรและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม บริษัท AIS
โดยสรุป Digital Transformation, AI, และ 5G เป็นเทรนด์เทคโนโลยีที่มีความสำคัญต่อประเทศไทยในปี 2024 องค์กรต่างๆ ควรให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เร็วมากขึ้นในทุกวันนี้
ทั้งนี้ ภาครัฐควรส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ได้อย่างเท่าเทียม และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลในประเทศไทย สำหรับบริษัท เรียล สมาร์ท จำกัด เองก็เล็งเห็นถึงกระแสของการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีของประเทศไทยที่กำลังก้าวไปอย่างรวดเร็ว บริษัทฯได้เข้าช่วยให้บริการด้านการจัดการ Big Data และ Digital Transformation ให้กับบริษัทหรือองค์กรต่างๆ รวมถึงการใช้ AI เข้าพัฒนาต่อยอดหรือส่งเสริมด้านการดำเนินธุรกิจและการตลาดให้กับลูกค้าสามารถเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.realsmart.co.th
สำหรับเทศกาลปีใหม่นี้ อาจารย์ คำพันธุ์ราชดา ผู้อำนวยการ วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ พัทยา เปิดเผยว่าวิทยาลัยเทคโนโลยี พระมหาไถ่ พัทยา สถานศึกษาเพื่อคนพิการ ชวนทำบุญรับเทศกาลปีใหม่กับ โครงการ “น้องอิ่มท้อง พี่อิ่มบุญ สุขคูณสอง” เพื่อให้น้องนักศึกษาผู้พิการได้ท้องอิ่ม ได้มีการศึกษาพร้อมฝึกทักษะวิชาชีพ สามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืนโดยไม่เป็นภาระต่อสังคม ดังนั้น จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธา สถานประกอบการร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) เพื่อต่อลมหายใจให้คนพิการ ด้วยการมอบทุนอาหาร ทุนการศึกษา สิ่งของเครื่องใช้แก่น้องๆ นักศึกษาคนพิการที่อยู่ในความดูแลของวิทยาลัยฯ กว่า 160 คน ให้ได้อิ่มท้องครบ 3 มื้อ เริ่มต้นเพียงมื้อละ 5,000-20,000 บาท นับเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ในสิ่งดีๆ ด้วยการทำบุญช่วยเหลือผู้พิการ สามารถบริจาคได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ออมทรัพย์เลขที่บัญชี 3424736274นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า หรือ โทร.038-196494
ผศ. (พิเศษ) ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี