พ.ต.หญิง พญ.พรประภา จินดามพร
หน่วยโรคปอดและเวชบำบัดวิกฤต กองอายุรกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย
การนอนกรน เป็นเสียงดังที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของทางเดินหายใจส่วนบนที่มีการตีบแคบลงในขณะหลับ ทางเดินหายใจส่วนบนประกอบด้วยจมูก เพดานอ่อน ลิ้นไก่ คอหอย และกล่องเสียง ซึ่งเป็นบริเวณอ่อนนุ่มที่สามารถยุบตัวลงได้ เมื่อมีการเสียสมดุลระหว่างแรงยุบตัวและแรงถ่างทางเดินหายใจโดยกล้ามเนื้อทางเดินหายใจส่วนบน ส่วนใหญ่เสียงนอนกรนมักเกิดขึ้นขณะหายใจเข้า แต่ก็สามารถพบขณะหายใจออกได้ โดยปัจจัยที่ทำให้ทางเดินหายใจตีบแคบลง ได้แก่ อายุ โครงสร้างหน้า ลักษณะของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันทางเดินหายใจ (โพรงจมูกตัน ต่อมอะดีนอยด์และต่อมทอนซิลโต) น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น การดื่มแอลกอฮอล์และรับประทานยาบางชนิด (ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้ปวดกลุ่มโอปิออยด์ (opioids) และยานอนหลับ) ภาวะตั้งครรภ์ เป็นต้น พบการนอนกรนบ่อยในประชากรทั่วไป ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ อย่างไรก็ตามถ้ามีการนอนกรนเสียงดังเป็นประจำหรือมีอาการอื่นร่วม เช่น มีคนสังเกตว่าหยุดหายใจขณะหลับ หรือภาวะง่วงในเวลากลางวัน จะเป็นสัญญาณให้สงสัยภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น เกิดจากภาวะที่ทางเดินหายใจตีบแคบลงหรือปิดทางเดินหายใจเป็นช่วง ๆ เกิดขึ้นซ้ำ ๆ จนเกิดการหยุดหายใจในขณะนอนหลับ ทำให้เกิดภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำลงและคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการหายใจจนอาจตื่น เพื่อเปิดทางเดินหายใจให้กลับมาปกติ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการหลับ ๆ ตื่น ๆ ตอนกลางคืน กรนเสียงดัง หยุดหายใจขณะนอน ตื่นกลางคืนจากการสำลักอากาศ ปัสสาวะกลางคืน ปวดศีรษะหลังตื่นนอน สมาธิความจำและสมรรถภาพการทำงานถดถอย รวมถึงอาการง่วงผิดปกติตอนกลางวัน พบความชุกของภาวะนี้ร้อยละ 14 ในเพศชาย และร้อยละ 5 ในเพศหญิง สำหรับประเทศไทยพบความชุกของภาวะนี้ร้อยละ 15.4 ในเพศชาย และร้อยละ 6.3 ในเพศหญิง ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหรือโรคในระบบอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดแดงโคโรนารีตีบ ภาวะหัวใจล้มเหลว ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว โรคหลอดเลือดสมอง และภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ภาวะนี้สามารถวินิจฉัยได้จากการตรวจการนอนหลับ (polysomnography) แต่ถ้ามีแค่ภาวะนอนกรนโดยไม่มีปัจจัยเสี่ยงภาวะนี้ สามารถวินิจฉัยได้จากอาการ โดยส่วนใหญ่อาการที่ทำให้มาพบแพทย์นั้นมาจากเสียงนอนกรนที่รบกวนคู่นอนหรือผู้ร่วมห้องเดียวกัน หรืออาการอื่นร่วม สำหรับการรักษาหลักของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ คือ การใช้เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (positive airway pressure) ขณะหลับ ส่วนการรักษาวิธีอื่น ได้แก่ การใส่ทันตอุปกรณ์ (oral appliance) การผ่าตัดทางเดินหายใจส่วนบน หลีกเลี่ยงท่านอนหงาย หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการรับประทานยานอนหลับ เป็นต้น แต่ถ้ามีแค่ภาวะนอนกรนโดยไม่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วม การรักษาอาจจะไม่จำเป็น ยกเว้นเสียงกรนดังจนรบกวนผู้ร่วมห้องนอน ซึ่งการรักษา ได้แก่ การใส่ทันตอุปกรณ์ การผ่าตัดทางเดินหายใจ เป็นต้น และถ้ามีจมูกอักเสบหรือตัน ควรรับการรักษาร่วมด้วย
สรุป การนอนกรน เป็นสัญญาณหนึ่งที่ทำให้สงสัยภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โดยเฉพาะเมื่อนอนกรนเสียงดังประจำ หรือมีอาการอื่นร่วม ได้แก่ ภาวะง่วงนอนกลางวัน หยุดหายใจขณะหลับ เป็นต้น ถ้ามีภาวะดังกล่าว แนะนำให้พบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี