ผู้บริหารหญิงแกร่ง “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ติดทำเนียบ 50 Over 50 Asia ของ “ฟอร์บส์ เอเชีย” ที่รวบรวมผู้หญิงอายุมากกว่า 50 ปี จากทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์และทรงอิทธิพลต่อแวดวงต่างๆ ซึ่งในปีนี้มีผู้หญิงไทยติดทำเนียบเพียง 4 คน และซีอีโอกลุ่มดุสิตธานี เป็นหนึ่งในนั้น
ขณะที่ก่อนหน้านี้ “ศุภจี” เคยติดทำเนียบผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลในแวดวงธุรกิจ Power Businesswoman 2023 จาก “ฟอร์บส์ ประเทศไทย” มาแล้ว แต่ที่มากกว่านั้น คือ ปี 2024 จะเป็นปีแห่งประวัติศาสตร์ที่จะพลิกโฉม “ดุสิตธานี” ภายใต้การขับเคลื่อนอย่างเต็มพลังของ “ศุภจี” รวมถึงคณะผู้บริหารและพนักงานทุกคน ที่ชวนให้ติดตามทุกย่างก้าว
ศุภจี สุธรรมพันธุ์ เป็นผู้บริหารหญิงระดับแนวหน้าของเมืองไทย ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการเป็น นักแก้ปัญหา ในอดีตเธอคือผู้บริหารที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทไอทียักษ์ใหญ่อย่าง IBM และเป็นคนเอเชียคนแรกที่ได้เป็นผู้ช่วยของประธานบริษัท ประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่ในนิวยอร์ก นอกจากนั้นเธอยังเคยเป็นผู้บริหารที่ทำให้ “ไทยคม” จากที่เคยขาดทุนติดลบกลายเป็นกำไร และเป็นบริษัทให้บริการดาวเทียมอันดับ 1ในเอเชีย-แปซิฟิก
กับบทบาทในการก้าวเข้ามาเป็น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กลุ่มธุรกิจที่มีอายุยาวนานกว่า 70 ปี อย่างดุสิตธานีเธอพาองค์กรระดับประเทศฝ่าวิกฤตมากมาย ทั้งโควิด-19 ทั้งกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่
“ถ้าต้องแก้โจทย์ธุรกิจให้ดูข้างใน คือเทรนด์ธุรกิจที่มันเป็นมา อดีตมันเป็นอย่างไร มีรูปแบบมีโครงสร้างธุรกิจเป็นแบบไหน สแกนข้างในให้หมด บริบทขององค์กรเป็นอย่างไร มีคนมากเกินไปหรือน้อยเกินไปไหม เรามี Mindset ถูกไหมเพราะบางทีทักษะมี แต่ Mindset ไม่ได้ มันก็ไปต่อไม่ได้
ซึ่งทุกวันนี้เทคโนโลยีก็เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องดูให้ครอบคลุมไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือเล็ก ถ้าเราไล่ปัญหาได้เราก็สามารถไปต่อได้ หรือบรรเทาปัญหาลงได้ และต้องดูข้างนอกว่าตลาดที่เราอยู่และตลาดอื่นๆ มันมีโอกาสอะไรที่เราสามารถเอามาใช้ตอบโจทย์ได้ ในทุกวิกฤตมักมีบทเรียนดีๆ ซ่อนอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของธุรกิจ หรือเรื่องของชีวิต มันทำให้เราเห็นว่าชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน
ที่ผ่านมา โควิด-19 มันเหมือนเป็นการตอกย้ำและสอนเราในเรื่องของการบริหารความเสี่ยง เราต้องมีการบริหารชีวิตที่เหมาะสม ความสมดุลคือ หัวใจของการเดินไปข้างหน้า
ขณะเดียวกันก็ต้องมีสติที่มาคู่กับปัญญา เพราะว่าในอนาคตความรู้ที่มีเรามีบทเรียนที่เราเคยทำสำเร็จมา อนาคตมันอาจจะไม่ได้สำเร็จด้วย เพราะฉะนั้น เราก็ต้องขวนขวายหาปัญญา หาความรู้ใหม่ๆ ดึงเอาบางเรื่องเข้ามาใช้ให้เหมาะสมเพื่อจะตอบโจทย์สมดุลของเราให้ได้”
ศุภจี สุธรรมพันธุ์ จบปริญญาโท บริหารธุรกิจ สาขาการเงิน และการบัญชีต่างประเทศ มหาวิทยาลัย Northrop มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศ สหรัฐอเมริกา ปริญญาตรีสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็น Director Certification Program รุ่น 89/2007 รวมทั้ง Advanced Audit Committee Program รุ่น 23/2016 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการ บริษัทไทย อีกทั้งยังจบหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงรุ่น 16/2556 สถาบันวิทยาการตลาดทุน,หลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรม ระดับสูง (บ.ย.ส.) รุ่น 19 วิทยาลัยการยุติธรรม และหลักสูตรนักบริหารระดับสูง “ธรรมศาสตร์เพื่อสังคม” (นมธ.) รุ่น 1 มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี