ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีความพยายามของนักวิทยาศาสตร์ไทย เพื่อหวังฟื้นฟูแนวปะการังชายฝั่งที่กำลังล้มตายจากภาวะอุณหภูมิน้ำทะเลอุ่นขึ้นจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงหรือภาวะโลกร้อน
ความพยายามฟื้นฟูดำเนินการโดยนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2016 เพื่อพยายามหยุดยั้งการล้มตายและความเสียหายของแนวปะการัง ส่งเสริมความเข้าใจกระบวนการแพร่ขยายพันธุ์ของปะการังเพื่อทดแทนปะการังที่กำลังตายลง โดยเลือกพื้นที่ดำเนินการโครงการที่ชายฝั่งโดยรอบเกาะมันใน จังหวัดระยอง เพราะเป็นหนึ่งในพื้นที่มีความหลากหลายของปะการังชายฝั่งมากที่สุดในประเทศไทย มีปะการังมากกว่า 98 สายพันธุ์ และอุดมไปด้วยสัตว์น้ำทะเลจำนวนมาก
สำหรับขั้นตอนการอนุรักษ์ฟื้นฟูแนวปะการัง ทีมนักวิจัยและนักชีววิทยาของ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะต้องดำน้ำลงไปเก็บไข่และสเปิร์มของปะการัง
ในช่วงที่เกิดปรากฏการณ์ปะการังออกไข่ ที่เกิดขึ้นตามวัฏจักรของดวงจันทร์ บวกกับอุณหภูมิน้ำทะเล และปรากฏการณ์น้ำขึ้น-น้ำลงของกระแสคลื่นทะเล โดยจะเกิดขึ้นเพียงปีละครั้งเท่านั้น ที่ก้นทะเล เพื่อนำขึ้นมาอนุบาลและเพาะเลี้ยงตัวอ่อน รอนำกลับลงทะเลอีกครั้ง
โดยเมื่อนำไข่และสเปิร์มขึ้นมาจากก้นทะเลต้องนำเอาผสมกันโดยทันทีเพื่อป้องกันการผสมพันธุ์เลือดชิด หรือ ปะการังสายพันธุ์เดียวกัน กระบวนการผสมพันธุ์ต้องทำภายใต้แสงไฟสีแดงเพื่อเลียนหรือทดแทนแสงของดวงจันทร์ถ้ากระบวนการนี้ทำช้าไปจะเป็นการลดอัตราการผสมเชื้อติด และจะทำให้ได้ตัวอ่อนปะการังน้อยลง การผสมไข่และสเปิร์มที่ทำอย่างรวดเร็วภายใต้แสงสีแดง
หลังจากผ่านไป 72 ชั่วโมงจะมีการนำไข่ที่มีการผสมสำเร็จลงไปใส่กระเบื้องดินในบ่ออนุบาลเพื่อเพาะเลี้ยงจนโตเป็นปะการังอ่อนที่อายุเหมาะนำกลับไปในทะเล โดยขั้นตอนนี้จะใช้เวลา 3-5 ปี และแม้จะนำลงไปให้เติบโตต่อในทะเล อัตราการเจริญเติบโตยังถือว่าช้ามาก เฉลี่ยเพียง1 เซนติเมตรต่อปี แต่ข้อมูลของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ พบว่า อัตราการอยู่รอดจนเติบโตเป็นปะการังเต็มวัยในทะเลของปะการังอ่อนที่เกิดจากการบ่ออนุบาลถือว่าสูงมาก หรือประมาณร้อยละ 90
หลังจากดำเนินการมานาน 8 ปี โครงการดังกล่าวยังถือว่าอยู่ในขั้นทดลอง ทีมนักวิจัยของไทยเลือกวัดความสำเร็จโครงการ โดยการอ้างอิงกับโครงการทดลองทำนองเดียวกันที่ดำเนินการในประเทศอื่นๆ เช่น ในออสเตรเลียและแถบมหาสมุทรแคริบเบียนและยังต้องการให้โครงการที่เกาะมันใน เป็นมาตรฐานที่สามารถขยายไปดำเนินการในส่วนอื่นๆ ของไทยต่อไป
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง คาดการว่า มีแนวปะการังของไทยมากถึงร้อยละ 90 ที่ได้รับผลกระทบจากการฟอกขาวหมู่ที่เริ่มตั้งแต่ปี 2010 อันเป็นผลกระทบจากอุณหภูมิน้ำทะเลเพิ่มสูง โดยนับแต่เริ่มโครงการเพาะเลี้ยงและฟื้นฟู มีปะการังได้รับการฟื้นฟูโดยรอบเกาะมันใน มากกว่า 4,000 กลุ่มก้อน หรือที่เรียกว่า โคโลนี (Colony) โดยปะการังหลายโคโลนีเมื่ออยู่รวมกันจะกลายเป็นแนวปะการัง แต่เมื่อเทียบกับพื้นที่แนวปะการังที่ได้รับความเสียหายโดยรอบเกาะมันใน ยังถือว่าช่วยฟื้นฟูปะการังที่กำลังล้มตายและลดจำนวน ได้น้อยมาก
สำนักงานมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ เอ็นโอเอเอ ระบุว่า โลกกำลังอยู่ในช่วงการเกิดปะการังฟอกขาวหมู่ รอบที่ 4ซึ่งทำให้แนวปะการังล้มตายเป็นบริเวณกว้าง แนวปะการังมีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมประมง เพราะราวร้อยละ 25 ของสัตว์ทะเลรวมทั้งปลาต่างพึ่งพิงแนวปะการังในบางช่วงของวัฏจักรชีวิต
ขณะที่การสูญเสียแนวปะการังของทะเลไทยจากการฟอกขาวและอื่นๆ ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลของชายฝั่งทะเลไทยเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศด้วย เนื่องจากท้องทะเลอันสวยงามของไทย เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติ อีกทั้งยังส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมประมง ที่ต้องพึ่งพาอาศัยแนวปะการัง ที่เป็นทั้งบ้านและแหล่งเพาะพันธุ์ของปลาจำนวนมากด้วยนั่นเอง
โดย ดาโน โทนาลี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี