วันพฤหัสบดี ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
‘คอเกร็ง’ อันตราย แพทย์เตือนเสี่ยงเป็น ‘โรคกระดูกคอเสื่อม’

‘คอเกร็ง’ อันตราย แพทย์เตือนเสี่ยงเป็น ‘โรคกระดูกคอเสื่อม’

วันอังคาร ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2567, 07.15 น.
Tag : คอเกร็ง โรคกระดูกคอเสื่อม
  •  

อย่ามองข้าม ปวดคอไม่ใช่เรื่องเล่น แพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังเตือน “คอเกร็ง”จุดเริ่มต้นของโรคกระดูกคอเสื่อม แนะสังเกตตัวเองก่อนสายเกินแก้

นายแพทย์เมธี ภัคเวช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลัง โรงพยาบาล เอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ เผยว่า “คอเกร็ง” เป็นอาการปวดคอชนิดรุนแรง เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณต้นคอและซอกคอหดเกร็ง เมื่อขยับหรือเคลื่อนไหวคอเพียงเล็กน้อยก็จะมีอาการปวด หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่อาการปวดเรื้อรัง และหากมีอาการปวดหัวไหล่ไปถึงแขน ลามลงไปถึงบริเวณปลายมือ อาจมีหินปูนเข้าไปเบียด หรือกดรากประสาทแขน ทำให้เกิดอาการปวดรวมทั้งอาจมีอาการชาร่วมด้วย


อาการคอเกร็ง สามารถเป็นได้ตั้งแต่กำเนิดหรือเกิดจากพฤติกรรม และสำหรับผู้ที่เป็นมาตั้งแต่เกิดมีวิธีสังเกตคือ การหันหน้าหรือคอไม่สามารถทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ กล้ามเนื้อคอขึ้นเป็นลำ บางครั้งที่บริเวณกล้ามเนื้อเกร็งเป็นเวลานานๆ หรือเกร็งผิดรูปจะทำให้หน้าเบี้ยว โดยอาการเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดบริเวณกล้ามเนื้อที่เกร็งนี้ออกโดยต้องตัดและยืดกล้ามเนื้อออกอาการผู้ป่วยถึงจะดีขึ้น และจะพอหันหน้าได้มากขึ้น อันนี้เป็นความผิดปกติที่มีสาเหตุมาจากสมองหรือเป็นมาแต่กำเนิด

ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งเกิดจากพฤติกรรม ยกตัวอย่าง โรคออฟฟิศซินโดรม ผู้ป่วยในกลุ่มนี้จะมีอาการปวดบริเวณกล้ามเนื้อรอบๆ คอ หากปวดกล้ามเนื้อธรรมดาจะหันหน้าไม่ได้สัก 2-3 วัน แต่เมื่อกล้ามเนื้อหายอักเสบก็จะกลับมาหันได้เหมือนเดิมแต่ในบางรายที่มีอาการปวดคอ หันหน้าไม่ได้มานานเป็นปี ส่วนใหญ่มักจะมีสาเหตุหลักๆ จากหมอนรองกระดูกคอทรุด เพราะเมื่อหมอนรองกระดูกคอทรุดจะมีบางส่วนที่ไปหนีบเส้นประสาทซึ่งการหันหน้าเป็นการกระตุ้นโดยตรงให้กระดูกคอยิ่งหนีบเส้นประสาทมากขึ้นเพราะฉะนั้นเมื่อผู้ป่วยหันหน้าจะทำให้ร่างกายต่อต้านและไม่อยากจะหัน จึงกลายเป็นคนที่หันหน้าได้ไม่สุด เมื่อเราแก้ไขหรือรักษาเพื่อเอารอยกดทับตรงบริเวณนั้นออกผู้ป่วยก็จะหันหน้าได้ดีขึ้น นอกจากนั้นอีก 1 สาเหตุเกิดจากกระดูกข้อนั้นเสื่อมมากจนมาเชื่อมติดกัน หรือมีการเปลี่ยนหมอนรองคอ (ในกลุ่มที่รักษาโดยการผ่าแบบเปิด แล้วใช้เหล็กดามแบบเก่า) จะทำให้กระดูกมาเชื่อมติดกันประมาณ 2-3 ข้อขึ้นไปทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถหันหน้าได้สุด และถ้าเกิดจากการผ่าตัดแบบเดิมส่วนใหญ่จะไม่สามารถแก้ไขได้

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยบางรายยังสับสนว่าอาการคอเกร็งเกิดจากการนอนตกหมอน โดยผู้ที่รู้สึกว่าตื่นขึ้นมาแล้วเมื่อยคอตลอดเวลา ผู้ป่วยในกลุ่มนี้จะมีลักษณะของรอยโรคที่บริเวณหมอนรองกระดูกคอเสื่อมหรือมีการกดทับของเส้นประสาท เพราะโดยปกติผู้ป่วยที่มีอาการในลักษณะของการนอนตกหมอนแล้วปวดคอทุกวันแทบจะเป็นไปไม่ได้และหากอาการดังกล่าวนี้แสดงทุกวันอาจจะต้องมีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติบริเวณคอแล้ว และให้สังเกตว่าเมื่อเราตื่นขึ้นมามีอาการปวดคอติดต่อกันเป็นเดือนหรือไม่ และควรต้องรีบหาสาเหตุแล้ว

ในส่วนของอาการคอเกร็งนั้น ผู้ป่วยต้องสำรวจตัวเองว่าปวดในระดับไหน เช่น ระดับที่เราทนได้โดยไม่ต้องทานยา ไม่ต้องกายภาพ พวกนี้ไม่ต้องรักษาก็ได้ แต่ถ้าปวดในระดับที่ต้องทานยาและกายภาพตลอด ก็ควรต้องได้รับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม หรือหากมีอาการอ่อนแรง เช่น กำมือลำบาก กำมือแล้วไม่แน่นเหมือนเดิม จับของแล้วหล่น หรือรู้สึกว่าแขนทั้ง 2 ข้างมีขนาดไม่เท่ากัน เนื่องจากกล้ามเนื้อข้างที่อ่อนแรงฝ่อ วิธีสังเกตคือดูแขนของตัวเองว่า กล้ามเนื้อลีบ หรือเหลวลงหรือไม่ ในขณะที่อาการหลักๆ ของคอเกร็งนั้น นพ.เมธียังเผยว่า ผู้ป่วยจะมีอาการปวดคอ ปวดคอลงสะบัก แล้วร้าวมาที่บริเวณกราม หรือร้าวลงแขน นั่นคืออาการที่เด่นชัดของการกดทับของเส้นประสาทร่วมด้วย

ขณะที่ระยะเวลาในการสังเกตอาการด้วยตัวเองนั้น คือ 1 เดือน ถ้าปวดมาเกิน 1 เดือนก็ควรได้รับการรักษาเพราะไม่สามารถหายเองได้ส่วนใหญ่คนที่มีอาการปวดเกิน 1 เดือนแสดงว่าร่างกายได้ผ่านการฟื้นฟูตัวเองไปแล้ว เพราะถ้าหากมีอาการอ่อนแรงแล้วปล่อยทิ้งไว้ จนเกิดการทับเส้นประสาทนานเกิน 6 เดือน การฟื้นตัวของเส้นประสาทอาจจะไม่สามารถแก้ไขได้

สำหรับการวินิจฉัยนั้น นพ.เมธีเผยว่า ผู้ป่วยมากกว่า 90% ที่เป็นๆ หายๆ โดยมีการกดทับเส้นประสาทที่บริเวณคอ จะให้ผู้ป่วย X-ray ร่วมกับการทำ MRI เพื่อทำให้เห็นรอยกดทับที่ชัดเจน ซึ่งรอยกดทับนี้จะสอดคล้องกับอาการปวดของผู้ป่วย แล้วเราก็เข้าไปแก้ตรงจุดที่เป็นปัญหานั้น อาการของผู้ป่วยก็จะหาย

“คอเกร็ง” เป็นอาการป่วยเรื้อรังอาจนำไปสู่โรคซึมเศร้ามากขึ้น ทำให้ผู้ป่วยนอนไม่หลับ นอนแล้วปวดตลอดไม่มีความสุขในการใช้ชีวิต ต้องรีบรักษาโดยเร่งด่วนเพราะจะส่งผลให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยลดลง ข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับคำปรึกษาได้ที่ โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง โทร. 02-0340808

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'มทภ.2'แก้เคล็ด! ถวายพระประธาน 20 จ.อีสานใต้ ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ประเทศสงบสุข

‘วิรังรอง’ยกเหตุผล 7 ข้อ เรียกร้องนักวิชาการอย่าให้ระคายเบื้องพระยุคลบาท ยกเลิก‘ถวายฎีกา’

จับสาวบัญชีม้าร่วมแก๊งคอลฯตุ๋นเหยื่อสูญ5ล้าน

ให้โอกาสได้ฟื้นฟู! ‘ทรัมป์’ส่งสัญญาณ‘สหรัฐฯ’อาจผ่อนปรนคว่ำบาตร‘อิหร่าน’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved