เตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ประธานพิธี พร้อมด้วยคณะกรรมการ ผู้บริหาร ร่วมกันถวายผ้าบังสุกุล
ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ จัดงาน “วันศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย” ประจำปี 2567 เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ที่พระราชทานพระราชานุญาตให้วันที่ 2 เมษายน ซึ่งเป็นคล้ายวันพระราชสมภพเป็น “วันศูนย์รับบริจาคอวัยวสภากาชาดไทย”อีกทั้งเป็นการระลึกถึงและบำเพ็ญกุศลให้แด่ผู้เสียชีวิตที่บริจาคอวัยวะของตนเองให้เป็นทานเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ทนทุกข์ทรมานและสิ้นหวังในชีวิต ได้มีชีวิตใหม่ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ เพื่อให้ผู้ได้รับอวัยวะได้มีโอกาสแสดงน้ำใจขอบคุณความเอื้ออารีของผู้บริจาคอวัยวะที่เสียชีวิตต่อญาติผู้บริจาคอวัยวะและเพื่อขอบคุณบุคคลรวมถึงหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมของศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย จัดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2567 ณ ห้องประชุมชั้นล่าง อาคารแพทยพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในการนี้ได้รับเกียรติจาก เตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธี โดยมีคณะกรรมการศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทยผู้บริหารสภากาชาดไทยผู้บริหารคณะแพทย์จุฬาฯอาทิ ศาสตราภิชาน นพ.พินิจ กุลละวณิชย์, พล.ท.นพ.อำนาจ บาลี, ศ.กิตติคุณ นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล, รศ.นพ.สุภนิติ์ นิวาตวงศ์, ผาณิตพูนศิริวงศ์, บุญรักษ์ สรัคคานนท์ และ ดร.อภิชาติชินวรรโณ รวมทั้งครอบครัว ญาติผู้บริจาคอวัยวะและผู้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียง
นพ.วิศิษฏ์ ฐิตวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย กล่าวว่า ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ ได้เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2537 บัดนี้ได้เวียนมาบรรจบครบรอบ 30 ปี นับเป็นสามทศวรรษที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยในการปฏิบัติภารกิจเพื่อประชาชน เพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากอวัยวะเสื่อมสภาพจนไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ มีเพียงวิธีเดียวที่สามารถรักษาชีวิตได้ด้วยการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะทดแทนอวัยวะเดิมซึ่งการรักษาด้วยวิธีนี้จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อมีอวัยวะบริจาคของผู้เสียชีวิตสมองตาย ดังนั้นการรณรงค์ให้ความรู้เรื่องการบริจาค และการปลูกถ่ายอวัยวะนับเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเข้าใจทั้งของประชาชนที่มีส่วนร่วมแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะขณะมีชีวิต รวมถึงทายาทในฐานะของญาติที่ยินยอมมอบอวัยวะของผู้บริจาคอวัยวะสมองตายเพื่อต่อชีวิตให้ผู้อื่นได้อีกหลายชีวิต
ครอบครัวญาติผู้บริจาคอวัยวะ และผู้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ร่วมกันถวายภัตตาหารเพลบำเพ็ญกุศลอุทิศแด่ผู้บริจาคอวัยวะศาสตราภิชาน นพ.พินิจ กุลละวณิชย์, ดร.อภิชาติ ชินวรรโณ, พล.ท.นพ.อำนาจ บาลี และ ผาณิต พูนศิริวงศ์ ร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศแด่ผู้บริจาคอวัยวะ
“ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนรอรับอวัยวะอยู่เป็นจำนวนมากโดยในเดือนธันวาคมปี พ.ศ.2566มีผู้ลงทะเบียน รอรับอวัยวะทุกอวัยวะมากถึง 6,634 ราย แต่มีผู้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะเพียง 936 ราย จากผู้บริจาคอวัยวะจำนวน 446 ราย หรือมีผู้รับการปลูกถ่ายอวัยวะจากผู้บริจาคสมองตายเพียงร้อยละ 14.1 ของผู้ที่รออวัยวะทั้งหมด ทำให้มีอวัยวะบริจาคไม่เพียงพอต่อการนำไปปลูกถ่ายให้แก่ผู้ป่วยอวัยวะเสื่อมสภาพระยะสุดท้าย
ผมจึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนคนไทยช่วยเหลือกันโดยการแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่นี้ หรือหากเสียชีวิตแล้วจะเป็นในส่วนของญาติที่จะยินยอมมอบอวัยวะเพื่อนำไปช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยได้อีกมาก ซึ่งปัญหาคือการขาดแคลนอวัยวะ เนื่องจากอวัยวะที่จะนำมาปลูกถ่ายนั้นไม่สามารถสร้างหรือสังเคราะห์ได้ต้องมาจากการบริจาคจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง และจะต้องเป็นผู้บริจาคอวัยวะที่เสียชีวิตด้วยภาวะสมองตาย โดยผู้บริจาคอวัยวะสมองตายสามารถบริจาคหัวใจ ปอด ตับ ไต 2 ข้าง ตับอ่อนลำไส้เล็ก กระเพาะอาหาร ส่วนบริจาคเนื้อเยื่ออาจได้มาจากผู้เสียชีวิตสมองตายหรือผู้เสียชีวิตที่หัวใจหยุดเต้น อาทิ กระจกตา ลิ้นหัวใจ ผิวหนัง หลอดเลือดกระดูกและเส้นเอ็น เป็นต้น”
ดวงเนตร ชุ่มชาติ มารดาผู้บริจาคอวัยวะ น้องโชกุน-ด.ช.อัศม์เดช ชุ่มชาติ ซึ่งจากไปก่อนวัยอันควรเพียงอายุ 14 ปี จากอุบัติเหตุ กล่าวว่า “จากการสูญเสียครั้งนี้ สิ่งที่แม่ได้เรียนรู้คือความไม่แน่นอน ต่อให้เรารักเขาแค่ไหนก็ไม่อาจยื้อไว้ได้และลูกเมื่อหมดลมหายใจแล้วก็ไม่สามารถเอาอะไรติดตัวไปได้เช่นกัน แม่จึงได้ตัดสินใจให้ลูกได้ทำบุญครั้งใหญ่ซึ่งเป็นสิ่งที่ติดตัวเขาไปได้อย่างแน่นอน แม่จึงแจ้งกับคุณหมอไปว่าทุกส่วนของร่างกายของลูกอะไรที่สามารถจะช่วยเหลือผู้ป่วยที่ยังมีความหวังได้ก็ให้คุณหมอเก็บไปได้เลยส่วนแม่เก็บไว้แต่ความรักความทรงจำ การระลึกถึงก็เพียงพอ จากการที่ได้ทราบว่าอวัยวะต่างๆ ของน้องสามารถช่วยเหลือผู้คนได้ แม่เองก็ได้บริจาคอวัยวะแล้ว ไม่ยึดติด เพราะเมื่อตายไปก็เอาไปไม่ได้จึงขอเอามาสร้างเป็นบุญสุดท้ายให้กับลูกและตัวเอง”
บุญรักษ์ สรัคคานนท์, พล.ท.นพ.อำนาจ บาลี, ดร.อภิชาติ ชินวรรโณ, ศาสตราภิชาน นพ.พินิจ กุลละวณิชย์, เตช บุนนาค, ศ.กิตติคุณ นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล, นพ.วิศิษฏ์ฐิตวัฒน์, ดร.อุทัย อาทิเวช และ รศ.นพ.สุภนิติ์ นิวาตวงศ์
พรรษวุฒิ ตปนียศิลป์ ผู้ได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากหัวใจของผู้เสียชีวิตสมองตายเผยความรู้สึกว่า “การได้รับปลูกถ่ายหัวใจมันไม่ใช่ปาฏิหาริย์ แต่เป็นเพราะความมีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ของครอบครัวผู้บริจาคอวัยวะ ทีมแพทย์ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำให้ผมได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ผมคิดอยู่เสมอว่า ตอนนี้ร่างกายของผมมีหัวใจของคนที่ดีที่สุดอยู่ ผมต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่ากับการจากไปของเขา ทุกวันนี้ผมได้ทำบุญเพื่ออุทิศให้กับผู้บริจาคหัวใจอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้จักท่านเลยแต่ท่านถือเป็นผู้มีพระคุณที่ได้มอบโอกาสชีวิตใหม่ให้กับผมและครอบครัว”
ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ เป็นองค์กรการกุศลที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้มีการบริจาคอวัยวะภายในประเทศ จัดสรรอวัยวะที่ได้รับบริจาคอย่างเป็นกลาง เสมอภาค โดยไม่มีการซื้อขายอวัยวะ และนำอวัยวะที่ได้รับบริจาคไปใช้ให้ได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด รวมทั้งยังทำหน้าที่ลงทะเบียนผู้รอรับอวัยวะ ผู้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะและให้การสนับสนุนการตรวจห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้อง การสนับสนุนน้ำยาถนอมอวัยวะการขนส่งทีมผ่าตัดผู้บริจาคอวัยวะ การขนส่งอวัยวะ และการดูแลญาติของผู้บริจาคอวัยวะเป็นต้น
ขอเชิญชวนท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะได้ด้วยการบริจาคผ่านแอปพลิเคชั่น“บริจาคดวงตา-อวัยวะ”หรือโทรศัพท์มาที่สายด่วนศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย 1666 กด 1 เพื่อขอรับแบบฟอร์มใบแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะ บริจาคผ่านเว็บไซต์ https://eyeorgandonate.redcross.or.th หรือดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ www.organdonate.in.th หรือมาด้วยตนเองที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ชั้น 5 อาคารเทิดพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน)ถ.อังรีดูนังต์ กรุงเทพฯ นอกจากนี้ ยังสามารถบริจาคอวัยวะผ่านการทำบัตรประจำตัวประชาชนณ ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเขต เทศบาล และเมืองพัทยา และที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด สำนักงานเหล่ากาชาด กิ่งกาชาดอำเภอ ทั่วประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี