หากพูดถึง Program Filler (ฟิลเลอร์) ผู้ที่สนใจในแวดวงความงามคงแทบจะไม่มีใครไม่รู้จักว่าคือสารเติมเต็มช่วยให้ผิวตึงกระชับที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน และปัจจุบันสารอีกชนิดที่มาแรงในแวดวงความงามและศาสตร์ชะลอวัยคงหนีไม่พ้น Collagen Biostimulator (คอลลาเจนไบโอสติมูเลเตอร์) หรือสารเติมเต็มที่เข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นทุกที ขณะเดียวกันหลายคนอาจเริ่มสงสัยว่าแท้จริงแล้วโปรแกรม ฟิลเลอร์ และคอลลาเจนไบโอสติมูเลเตอร์นั้นมีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไรแล้วที่เห็นว่าทั้งคู่มีคุณสมบัติดีน่าลองแบบนี้ จะสามารถฉีดร่วมกันได้หรือไม่?
อาจารย์นายแพทย์รัสมิ์ภูมิ สุเมธีวิทย์ Board of Dermatology & Medical Director แพทย์ความงามผู้เชี่ยวชาญด้านโปรแกรมฉีด Filler หรือสารเติมเต็ม และ โปรแกรมฉีด Botox หรือสารลดเลือนริ้วรอย ตลอดจนถึงศาสตร์ชะลอวัยที่มีประสบการณ์มากว่า 20 ปี รวมถึงเป็นแพทย์ผู้ก่อตั้ง Rassapoom Clinic อีกด้วย
อาจารย์นายแพทย์รัสมิ์ภูมิ อธิบายว่า โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ หรือที่เรียกว่า Program Filler Skin Boosterเป็นการฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูรอนที่มีลักษณะเนื้อเจลเข้าไปเติมเต็ม เพื่อช่วยให้ผิวเต่งตึงขึ้นได้ทันตา รวมถึงสามารถนำมาฉีดเพื่อปรับรูปหน้าได้ด้วย ขณะที่คอลลาเจน ไบโอสติมูเลเตอร์ หรือสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เป็นการเน้นสร้างคอลลาเจนให้เกิดขึ้นในระยะยาว ปัจจุบันมีคอลลาเจน ไบโอสติมูเลเตอร์ หลากหลายแบรนด์ ซึ่งมีคุณสมบัติที่โดดเด่นต่างกันไป เช่น Gouri, Sculptra, JUVELOOK&LENISNA, Radiesse ฯลฯ ซึ่งการพิจารณาว่าจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใด จึงจะเหมาะสมและสามารถแก้ไขปัญหาที่เรามีได้อย่างตรงจุดนั้น ต้องปรึกษาและทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ไว้วางใจได้จะเป็นการดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฉีดคอลลาเจน ไบโอสติมูเลเตอร์ ที่ปัจจุบันยังไม่มีสารที่เข้าไปทำการสลายได้
“ทั้งฟิลเลอร์และคอลลาเจน ไบโอสติมูเลเตอร์ ทุกตัวห้ามฉีดเข้าหลอดเลือดอยู่แล้วอันนี้เป็นเรื่องสำคัญ แต่ตัวคอลลาเจน ไบโอสติมูเลเตอร์ ไม่มีสารเข้าไปฉีดสลายได้ เช่นสมมุติใช้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์พลาดเข้าเส้นเลือดจนเกิดการอุดตัน เราสามารถฉีดสารเข้าไปสลายได้ทันทีหากเราเห็นตั้งแต่แรก แต่คอลลาเจน ไบโอสติมูเลเตอร์ ฉีดพลาดเข้าเส้นเลือดไม่ได้เลย เพราะไม่มีสารตัวไหนมีประสิทธิภาพพอที่จะสลายได้ในทันที ต้องรอให้สลายไปเองตามธรรมชาติ ดังนั้นการเลือกคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจริงๆ จึงสำคัญมาก แพทย์แต่ละท่านจะมีประสบการณ์และเทคนิคแตกต่างกัน ผลลัพธ์ที่ได้จึงขึ้นอยู่กับสิ่งนี้ด้วย
อย่างเช่นของ Rassapoom Clinic เรามีโปรแกรมฉีดคอลลาเจน ไบโอสติมูเลเตอร์ แบรนด์ Radiesse ด้วยเทคนิค Triangular Face Lift ซึ่งเป็นเทคนิคที่ผมคิดค้นขึ้นเองแล้วถ่ายทอดให้กับแพทย์ในคลินิกของเรา เทคนิคนี้ทำให้การฉีดได้ผลดียิ่งขึ้น เพราะการฉีดโดยทั่วไปของที่อื่น ๆ จะฉีดเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างเดียว แต่เทคนิคของเราทำให้ได้ผลลัพธ์ทั้งการกระตุ้นคอลลาเจน จัดกรอบหน้าให้ยกกระชับและยกพยุงโครงสร้างผิวขึ้นได้ด้วย เรียกว่าเป็นผลลัพธ์แบบ 2 in 1 เลย”
สำหรับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ นอกจากฉีดเพื่อเติมเต็มแล้ว ยังนำมาใช้ปรับรูปหน้าด้วยเทคนิคพิเศษที่เรียกว่า เทคนิค Triangular Face Lift ซึ่งเป็นเทคนิคที่ผมคิดค้นขึ้นมาเองเช่นกัน ซึ่งเป็นโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เข้าไปทำการคลี่ผิวที่หย่อนคล้อยออกและยกพยุงโครงสร้างกระดูกใบหน้า แล้วใช้สารBotulinum ปรับแต่งส่วนเกินที่หย่อนคล้อยออก เทคนิคนี้จะช่วยปรับโครงหน้าให้ลิฟท์ ยกขึ้นเป็นวีเชฟ (V-shape) ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ทั้งยังเป็นการป้องกันผิวหย่อนคล้อยในอนาคตได้อีกด้วย”
อย่างไรก็ตาม โปรแกรมฟิลเลอร์ และคอลลาเจน ไบโอสติมูเลเตอร์ สามารถฉีดลงไปบนใบหน้าเดียวกันได้ แต่ต้องทำโดยแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญและชำนาญการในด้านกายวิภาค (Anatomy) เท่านั้น อาทิ โปรแกรมฉีด Radiesse Fillerหากทำร่วมกับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ จะช่วยทั้งในเรื่องการยกพยุงผิวและการกระตุ้นคอลลาเจนไปได้พร้อมกันซึ่งเป็นผลดีในระยะยาว
ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมฉีดเกี่ยวกับโปรแกรมฟิลเลอร์ หรือไบโอสติมูเลเตอร์ ได้ที่ www.rassapoomclinic.com และ FB: https://m.me/rassapoomclinic.slim
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี