ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์คนที่ 4 หรือที่ทั่วโลกรู้จักในสมญานามผู้นำ 4G ทายาททางการเมืองผู้รับไม้ต่อจากอดีตนายกรัฐมนตรี ลี เซียน ลุง เมื่อวันที่15 พฤษภาคมที่ผ่านมา
หากจะลองถอดรหัสบทสัมภาษณ์ของ หว่อง ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนรับหน้าที่หัวหน้าคณะรัฐบาล ก็พบว่าเป็นคลื่นลูกใหม่ในเอเชียที่น่าจับตามากทีเดียว
ความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่รัฐบาลใหม่จะเปิดประเดิมดำเนินการคือ ทบทวนทุกอย่างเพื่อกระตุ้นให้เกิดฉันทามติใหม่ของสังคมสิงคโปร์อีกครั้ง ตามแผนสิงคโปร์ก้าวหน้าที่ หว่อง ริเริ่มมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2022 แล้ว ต่อจากนี้ คือยุคใหม่ของการพัฒนาสิงคโปร์ บนรากฐานของการกำหนดนโยบาย ผ่านการปรึกษาหารือล่วงหน้ามากขึ้น รัฐบาลมีหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกให้กับการสนทนาหารือกันในประเทศ โดยเฉพาะในห้วงที่สังคมสิงคโปร์มีความแตกต่างหลากหลายมากขึ้นนี้ ต้องนำพาประชาชนมาร่วมแสวงหาฉันทามติว่าจะเดินหน้าไปพร้อมกันอย่างไร เพราะบางกรณีรัฐบาลก็ไม่จำเป็นต้องนำหน้า แต่เปิดให้บรรทัดฐานทางสังคมขึ้นมามีบทบาทอย่างที่ควรจะเป็น
แต่หากเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องตัดสินใจ ก็จำเป็นต้องทำเพื่อความจำเป็นของประเทศชาติ ซึ่งหว่อง ยืดอกรับว่า ตัวเขาเอง พร้อมจะรับผิดชอบ ในการเผชิญหน้ากับสาธารณชนชาวสิงคโปร์ ในการอธิบายหลักการและเหตุผลของรัฐบาลว่า แต่ละนโยบายจำเป็นต้องทำไปเพื่ออะไร โดยเชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไป ชาวสิงคโปร์ จะเข้าถึงความเป็น หว่อง และเข้าใจแบบฉบับความเป็นผู้นำของเขามากขึ้น
จึงจะเห็นได้ว่า หว่อง เป็นผู้นำระดับสูงคนหนึ่งในรัฐบาลสิงคโปร์ ที่มีความเคลื่อนไหวผ่านโซเชียลมีเดียเป็นประจำ ตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เผยแพร่ภารกิจต่างๆในนามรัฐบาล ไปจนถึงพูดคุยสื่อสารกับประชาชนด้วยท่าทีและถ้อยคำเป็นกันเอง จึงอาจเป็นการสร้างภาพจำใหม่ว่า สิงคโปร์กำลังจะเข้าสู่ยุคที่ผู้นำเข้าถึงผ่านสื่อออนไลน์ได้อย่างแท้จริง
ส่วนความตึงเครียดนอกประเทศนั้น หว่อง ประกาศว่า สิงคโปร์ต้องดำเนินวิถีทางที่มีหลักการและเสมอต้นเสมอปลาย ยึดผลประโยชน์แห่งชาติของสิงคโปร์เป็นที่ตั้ง ไม่ใช่ถ่วงดุลระหว่างสองมหาอำนาจอย่างจีนกับสหรัฐฯ เพราะโลกขั้วเดี่ยวของสหรัฐฯ ได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่โลกหลายขั้วในปัจจุบันก็ยังหาจุดสมดุลคงที่ไม่ได้ หากสิงคโปร์เดินหมากให้ดี เสริมสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันของอาเซียน ก็จะผงาดได้ในโลกที่มืดหม่นมีปัญหา หลังจาก หว่อง ยืนยันว่า สิงคโปร์วันนี้มีจุดยืนที่แข็งแกร่งกว่าในอดีต และมีการพัฒนาเชิงสังคมที่อยู่อาศัย สาธารณสุข การศึกษา การคมนาคมขนส่ง และที่สำคัญเศรษฐกิจ ขึ้นมาอยู่ระดับต้น ๆ แล้ว
สำหรับระบบการเมืองสิงคโปร์ที่พรรคกิจประชาชนเป็นพรรครัฐบาลตลอดมานั้น หว่อง ให้คำมั่นว่า สิ่งที่จะหายไปในรัฐบาลนี้ ไม่ใช่การสูญสลายของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน แต่จะเป็นจุดสิ้นสุดการครอบงำโดยพรรคกิจประชาชนเพียงพรรคเดียวเฉกเช่นสมัยอดีตนายกฯ ลี เพราะนี่คือความเป็นจริงในการเมืองสิงคโปร์ปัจจุบัน แต่หว่อง ยืนยันว่า ทุกอย่างที่จะทำก็เพื่อให้พรรคกิจประชาชนได้รับความเชื่อมั่น เพื่อรักษาอำนาจจากชาวสิงคโปร์ ผ่านการเลือกตั้งไม่เกินพฤศจิกายน 2025
สำหรับการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีสมัยแรกนี้ หว่อง ยืนยันจะควบเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต่อไป เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง เสถียรภาพ และหลีกเลี่ยงความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นตามมาจากการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมคณะรัฐมนตรีจึงไม่ถูกสลับสับเปลี่ยนมากนัก แม้จะมีข้อกังวลต่อการสวมหมวกหลายใบของ หว่อง ทั้งเจ้ากระทรวงและหัวหน้ารัฐบาลที่มีความกดดันและภาระรับผิดชอบหนักอึ้ง แต่บางส่วนก็มองว่า นายกรัฐมนตรี หว่อง ที่ควบรัฐมนตรีคลังด้วยนั้น จะเป็นต่อในการควบคุมงบประมาณที่จะใช้เป็นงบจัดการเลือกตั้งด้วย
ต้องจับตาว่า หลังการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อดีตเจ้าหน้าที่รัฐที่ง่วนอยู่แต่งานวิเคราะห์และสถิติมา 14 ปี อย่างหว่อง ที่เพิ่งเข้าสู่โลกการเมืองและงานนโยบายเมื่อปี 2011 จะทำงานด้วยหัวใจรับใช้ประชาชนตามที่เขาให้คำมั่นไว้ต่อไปอย่างไร เพราะถือเป็นบทบาทที่ใหญ่และไม่ง่ายในการถือธงนำสิงคโปร์ยุค 4G หรือ the 4th Generation กลุ่มผู้นำรุ่นที่ 4 ที่สืบทอดตำแหน่งจากตระกูลลีต่อไป
ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน สิงคโปร์มีนายกฯทั้งหมด 4 คน ได้แก่
1.ลี กวน ยู เข้าดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.1959 จนถึงวันที่ 28 พ.ย.1990 รวมดำรงตำแหน่ง 31 ปี 176 วัน
2.โก๊ะ จ๊ก ตง นายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ของสิงคโปร์ ดำรงตำแหน่งในช่วงวันที่ 28 พ.ย. 1990 จนถึง วันที่ 12 ส.ค. 2004 รวมระยะเวลาดำรงตำแหน่ง 13 ปี 258 วัน
3. ลี เซียน ลุง ซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค. 2004 ถึง 18 พ.ค.2024 รวมระยะเวลา 19 ปี 277 วัน
4. ลอว์เรนซ์ หว่อง ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งในวันนี้ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดย ดาโน โทนาลี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี