ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก,อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล (The Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel) ประกาศความภาคภูมิใจในฐานะโรงแรมแห่งแรกของโลกที่ได้การรับรองมาตรฐานการบริหารการจัดงานอย่างยั่งยืน (ISO 20121) มาตั้งแต่ปี 2013พร้อมฉลองครบรอบ 10 ปี แห่งการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน เผยผลลัพธ์จากความตั้งใจเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนด้วยฝีมือคนไทย ที่พร้อมมุ่งมั่นมอบการบริการระดับลักซ์ชูรีไปพร้อมกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
ความสำเร็จและความมุ่งมั่นตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้โรงแรม ดิ แอทธินีฯก้าวขึ้นสู่บทบาทผู้นำในการกำหนดมาตรฐานแนวทางการปฏิบัติในอุตสาหกรรมงานบริการที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมริเริ่มโครงการต่างๆอีกมากมายเพื่อแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า การมอบงานบริการระดับลักซ์ชูรีก็สามารถทำไปควบคู่กันกับการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ และยังสร้างมีเป้าหมายให้โรงแรมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอีกในอนาคต
และต่อไปนี้เป็นตัวเลขของความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกซึ่งเกิดขึ้นจริงตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความตั้งใจของบุคลากรในโรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และสร้างสังคมให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมในทศวรรษถัดไป
ฝีมือคนไทย ในเมืองไทย 100 เปอร์เซ็นต์
แม้ห้องพักจะผ่านการปรับปรุงมาจนงามสง่า แต่รู้ไหมว่าวัสดุหลายชิ้นในห้องเป็นการรีไซเคิลจากเฟอร์นิเจอร์เก่าให้กลับมาในรูปแบบใหม่จนแทบจำไม่ได้ซึ่งช่วยลดการทิ้งขยะ และใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า แม้แต่หัวเตียงเก่าที่ดูนำไปทำอย่างอื่นไม่ได้ โรงแรมฯ ก็ออกแบบดีไซน์ใหม่ และส่งต่อให้ช่างไม้ชาวไทยแปลงโฉมเพื่อนำกลับมาใช้อีกครั้ง โดยกระบวนการรีไซเคิลทั้งหมดนั้นทำในประเทศไทยแบบ 100 เปอร์เซ็นต์
ข้าวจากชาวนาไทย 3 ตันต่อเดือน
โรงแรมฯ ซื้อข้าวหอมมะลิออร์แกนิกโดยตรงจากชาวนาในจังหวัดอำนาจเจริญประมาณ 3 ตันต่อเดือน ซึ่งเป็นแนวทางที่สามารถประกันรายได้ และช่วยเหลือเกษตรกรท้องถิ่นเพราะไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง จึงมั่นใจได้เลยว่าผู้รับประทานข้าวหอมมะลิออร์แกนิกที่โรงแรมฯ จะได้รับ
คุณค่าทางโภชนาการอย่างเต็มที่ โดยข้าวหอมมะลิออร์แกนิกจะเสิร์ฟทั้งในร้านอาหารงานจัดเลี้ยงต่างๆ รวมถึงในห้องอาหารของพนักงานโรงแรมด้วย
วัตถุดิบด้านอาหารจากประเทศไทย 85 เปอร์เซ็นต์
โรงแรมฯ ได้ทำงานร่วมกับสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย (TOCA) อย่างใกล้ชิดเพื่อจัดหาวัตถุดิบจากฟาร์มที่ได้รับการรับรองโดยไม่ต้องผ่านผู้ค้าส่ง สร้างราคามาตรฐานที่เป็นธรรมต่อเกษตรกรผู้ผลิต สร้างความมั่นใจให้กับชุมชนท้องถิ่น อีกทั้งผู้บริโภคในโรงแรมฯ ยังได้รับประทานอาหารสดใหม่ และดีต่อสุขภาพในทุกวัน โดยร้อยละ 85 ของวัตถุดิบที่ใช้ในร้านอาหารไทย เดอะ เฮาส์ ออฟ สมูท เคอร์รี่ (The Houseof Smooth Curry) คือผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่ส่งตรงจากเกษตรกรท้องถิ่นทั่วประเทศโดยเฉพาะผักและผลไม้ตามฤดูกาลซึ่งเชฟใช้เพื่อสร้างสรรค์ให้อาหารไทยแต่ละจานมีรสชาติที่ดีขึ้นกว่าเดิม
Food Rescue ลดขยะให้เป็น 0
โรงแรมฯ มีโครงการริเริ่มที่ชื่อ Food Rescue โดยนำเศษอาหารในครัวไปใช้ต่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด อาทิ เศษผลไม้จากการตัดแต่งจะนำไปทำเป็นแยมและน้ำส้มสายชู กระดูกจะนำไปต้มเป็นน้ำซุปเปลือกอาหารทะเลจะนำไปบดและกลายเป็นส่วนผสมของอาหารไก่ หรือเปลือกผักและผลไม้ก็สามารถเปลี่ยนให้เป็นน้ำยาทำความสะอาดประสิทธิภาพสูง เป็นต้น โรงแรมฯ ยังได้ร่วมมือกับมูลนิธิสโกลารส์ออฟ ซัสทีแนนซ์ (SOS) โดยกระจายอาหารส่วนเกินทั้งจากห้องอาหาร เรน ทรีคาเฟ่ และจากการประชุมต่างๆ ไปยังสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าหลายแห่ง
ลดการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 87.1% เปอร์เซ็นต์
โรงแรมฯ ได้ดำเนินการเปลี่ยนหลอดไฟแบบเดิมให้เป็นหลอดไฟแบบแอลอีดี (LED) ทั้งในห้องพัก พื้นที่ส่วนกลาง ห้องประชุม และส่วนอื่นๆ โดยหลอดไฟแบบแอลอีดีที่นำมาทดแทนนั้นมีประสิทธิภาพในการสร้างแสงสว่างที่ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ช่วยประหยัดการใช้ไฟฟ้าได้สูงถึง 87.1 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการใช้หลอดไฟแบบเดิม
ลดการปล่อยน้ำเสียได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์
โรงแรมฯ ตระหนักถึงการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า โดยใส่ใจกับการบำบัดน้ำเสียสำหรับนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้งเพื่อปกป้องแหล่งน้ำซึ่งถือเป็นทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด น้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วจะนำกลับมาใช้ใหม่ใน หอระบายน้ำเย็น (Cooling Tower) เพื่อระบายความร้อนในเครื่องจักร ซึ่งส่งผลให้โรงแรมฯ สามารถลดการปล่อยน้ำเสียได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์
ลดการใช้หลอดพลาสติกกว่า 275,000 ชิ้น
ในปี 2012 โรงแรมฯ ใช้หลอดพลาสติกไปทั้งสิ้น 275,000 ชิ้น ซึ่งเป็นพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง และหลอดพลาสติกยังเป็น 1 ใน 10 ของขยะที่พบมากสุดในมหาสมุทร โรงแรมฯ ได้ตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนี้ และค่อยๆ เปลี่ยนมาใช้หลอดกระดาษจนสามารถแทนที่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันปริมาณการใช้หลอดกระดาษยังลดลงถึง 75.4% เมื่อเทียบกับปี 2015 เพราะโรงแรมฯมีนโยบายมอบหลอดให้กับผู้ที่ร้องขอเท่านั้น
รีไซเคิลดอกไม้ จากการใช้ใน 200 งานต่อปี
โรงแรมฯ ได้รับความไว้วางใจให้จัดงานสำคัญทั้งการแต่งงาน และการประชุมสัมมนาเกือบ 200 งานต่อปี เพื่อทำให้ทุกการจัดงานมีความหมายยิ่งขึ้น เจ้าหน้าที่โรงแรมจะนำดอกไม้ซึ่งผ่านการใช้งานแล้วมาทำเป็น บุหงารำไป หรือการนำดอกไม้สดไปตากแห้งแล้วพรมด้วยน้ำมันหอมระเหย ซึ่งถือเป็นการรีไซเคิลให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผู้เข้าพักสามารถพบบุหงารำไปได้ทั้งในห้องพักและโถงทางเดินโดนกลิ่นหอมจะช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย และยังเป็นความหอมที่ปราศจากสารเคมี ดีต่อสุขภาพอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม โรงแรม ดิ แอทธินีโฮเทล แบงค็อก ยังคงให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และดำเนินโครงการริเริ่มต่างๆเพื่อสร้างความยั่งยืน ความทุ่มเทจากทุกภาคส่วนเพื่อลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ร่วม ที่นอกจากจะสร้างประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้กับผู้มาใช้บริการแล้ว ยังคำนึงถึงความยั่งยืนในอนาคตอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี