ผู้บริหาร โอเมอร์ มาลิค ,อชิต โจชิ และ โยชิโนริ นิชิวากิผนึกกำลังพันธมิตร
บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัดผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์สินค้าของซันโทรี่และเป๊ปซี่โคในประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท ซันโทรี่เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำตลาดอาหารเสริมสุขภาพภายใต้ตราผลิตภัณฑ์แบรนด์ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย เปิดกิจกรรม “ค่ายมิซุอิกุ ผู้พิทักษ์รักษ์น้ำ”(Mizuiku Water Hero Camp) ภายใต้โครงการ “วัน ซันโทรี่ มิซุอิกุ : เรารักษ์น้ำ” ประจำปี 2567 (One SuntoryMizuiku Program 2024) พร้อมผนึกกำลังพันธมิตรภาครัฐและเอกชน ได้แก่ กรมทรัพยากรน้ำ กรมควบคุมมลพิษ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดระยอง และจังหวัดชลบุรี สังกัดกระทรวงศึกษาธิการและศูนย์การศึกษาสิ่งแวดล้อม(Environmental Education Centre :EEC) เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนให้กับแกนนำนักเรียนและครูในจังหวัดระยองและจังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 4-6 มิถุนายน 2567 ณ จังหวัดระยอง
ผู้บริหารร่วมเก็บและคัดแยกขยะริมชายหาดแหลมสน
นายอชิต โจชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “โครงการ “วัน ซันโทรี่ มิซุอิกุ :เรารักษ์น้ำ” ประจำปี 2567มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายผลโครงการส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำของทั้งสองบริษัท มุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชน ผ่านการจัดกิจกรรม “ค่าย มิซุอิกุ ผู้พิทักษ์รักษ์น้ำ”เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมนอกห้องเรียน รวมถึงมอบเงินสนับสนุนเพื่อพัฒนาและต่อยอดโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียนแบบบูรณาการ และขยายผลสู่ชุมชนโดยรอบ เพื่อคัดเลือกเป็น “โรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ มิซุอิกุ” ประจำปี 2567 ตลอดจนกิจกรรมอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ เพื่อปลูกฝังและส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมให้แก่คนในพื้นที่ และเปิดโอกาสให้พนักงานของบริษัทฯ ได้มีส่วนร่วม ซึ่งจะช่วยให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในมิติสิ่งแวดล้อมและมิติทางสังคมอย่างเป็นรูปธรรม ตอกย้ำค่านิยมองค์กรของเรา คือ “การเติบโตอย่างยั่งยืน” (Growing for Good) ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งสองบริษัทยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจตลอดมา”
อเล็กซ์ เรนเดลล์ พาเด็กๆ เรียนรู้ธรรมชาติจากประสาทสัมผัส
นายโอเมอร์ มาลิค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ความมุ่งมั่นด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและการนำความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัทมาปรับใช้เป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้โครงการ “วัน ซันโทรี่ มิซุอิกุ : เรารักษ์น้ำ” ประสบความสำเร็จ เราจึงต้องให้ความสำคัญกับการปลูกฝังเยาวชนให้มีจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์น้ำตั้งแต่วันนี้ ทั้งนี้ เราทั้งสองบริษัทพร้อมที่จะดำเนินการเพื่อสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ผ่านการขยายพื้นที่เป้าหมาย และเพิ่มกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเยาวชนได้มากขึ้น”
โครงการ “วัน ซันโทรี่ มิซุอิกุ :เรารักษ์น้ำ” ในปีนี้ ประกอบด้วยกิจกรรมหลัก ได้แก่ กิจกรรม “ค่าย มิซุอิกุ ผู้พิทักษ์รักษ์น้ำ” และกิจกรรมประกวด “โรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ มิซุอิกุ” โดยทำการคัดเลือกโรงเรียนระดับประถมศึกษาในจังหวัดเป้าหมาย ได้แก่ ระยองและชลบุรี รวมทั้งสิ้น
30 โรงเรียน ซึ่งมีแกนนำนักเรียน ตัวแทนคุณครู และพนักงานจิตอาสาจากทั้งสองบริษัทกว่า 500 คน เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อให้ความรู้แก่เยาวชนเกี่ยวกับความสำคัญของทรัพยากรน้ำ เข้าใจวัฏจักรของน้ำ และปัญหาของน้ำที่พบในท้องถิ่นส่งเสริมให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจําวันผ่านฐานกิจกรรม เกมสันทนาการ และสถานีเรียนรู้ต่างๆ ให้น้องๆ ได้เรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัส ประสบการณ์ และการลงมือปฏิบัติจริง ได้แก่สวนพฤกษศาสตร์ระยอง พื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตนานาชนิด กับฐานการตรวจคุณภาพน้ำที่น้องๆจะได้เรียนรู้วิธีการวัดปริมาณสารไนเตรทและฟอสเฟต ซึ่งสารทั้ง 2 ชนิด มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตทั้งสัตว์และพืชในน้ำ น้องๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์และพันธุ์พืช รวมถึงสังเกตสิ่งมีชีวิตในน้ำขนาดเล็กผ่านแว่นขยาย ทั้งตัวอ่อนแมลงปอ จิงโจ้น้ำและหอย อย่างใกล้ชิด ทุ่งโปรงทอง น้องๆ เดินบนสะพานไม้ลัดเลาะไปในป่าชายเลน เพื่อเรียนรู้พันธุ์ไม้ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลทั้งต้นโกงกางที่มีรากยาวและแข็งแรง ต้นแสมที่รากสามารถแผ่ขยายใต้ดินได้ไกลเป็นสิบเมตร พืชเหล่านี้ช่วยป้องกันพื้นที่ชายฝั่งจากการกัดเซาะของกระแสลมและคลื่น รวมทั้งยังเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำอีกด้วย พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาพืชและสัตว์ทะเล จังหวัดระยอง น้องๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์และพืชทะเล ได้ส่องกล้องจุลทรรศน์เพื่อศึกษาลักษณะและความแตกต่างของแพลงก์ตอนพืชและสัตว์ รวมทั้งเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ทะเลหายากที่พบในจังหวัดระยอง อาทิ พยูนหรือหมูน้ำ เต่าทะเล และเต่ากระ เป็นต้น และ สถานีเรียนรู้หาดแหลมสน น้อง ๆ ได้เรียนรู้การแยกขยะประเภทต่าง ๆ และลงมือเก็บขยะที่ชายหาดร่วมกันอย่างแข็งขัน ซึ่งปัญหาขยะถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ แกนนำนักเรียนและตัวแทนคุณครู ยังมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งได้รับคำแนะนำจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาเป็น “โรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ มิซุอิกุ” ตามบริบทของแต่ละโรงเรียน โดยเมื่อจบกิจกรรมค่ายฯ โรงเรียนต่างๆ จะได้รับเงินสนับสนุนโรงเรียนละ 10,000 บาท เพื่อนำไปจัดทำแผนงานและดำเนินโครงการอนุรักษ์น้ำในโรงเรียน พร้อมจัดตั้ง “มิซุอิกุ คลับ” เพื่อขับเคลื่อนและขยายผลโครงการ โดยแกนนำนักเรียนจากโรงเรียนที่ชนะการประกวด “โรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ มิซุอิกุ” ในแต่ละจังหวัด จะได้เดินทางไปทัศนศึกษาเพื่อเรียนรู้ต้นกำเนิดของโครงการ“มิซุอิกุ” ณ ประเทศญี่ปุ่น
ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดของกิจกรรมภายใต้โครงการ “วัน ซันโทรี่มิซุอิกุ : เรารักษ์น้ำ” ได้ที่ Facebook : One Suntory Mizuiku ProgramThailand (https://www.facebook.com/OneSuntoryMizuikuProgram)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี