วันพุธ ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
PTSD บาดแผลในใจที่ไม่มีใครมองเห็นหลังเจอเหตุการณ์รุนแรง

PTSD บาดแผลในใจที่ไม่มีใครมองเห็นหลังเจอเหตุการณ์รุนแรง

วันอังคาร ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag : PTSD
  •  

เหตุการณ์เลวร้ายที่ผ่านมาอาจทิ้งบาดแผลในใจลึกกว่าที่คิดไว้ เพราะบางครั้ง จิตใจของเราก็เหมือนกับรอยแผลที่ต้องใช้เวลาเยียวยา ยิ่งถ้าเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงและกระทบกระเทือนจิตใจอย่างมาก อาจนำไปสู่ภาวะที่เรียกว่า “PTSD” หรือ โรคเครียดหลังเผชิญเหตุการณ์รุนแรง

แพทย์หญิงณัฏฐพัชร์ ลำเลียงพล จิตแพทย์โรงพยาบาลBMHH-Bangkok Mental Health Hospital กล่าวว่า โรคเครียดหลังเผชิญเหตุการณ์รุนแรง Posttraumatic stress disorder (PTSD) เป็นความผิดปกติทางจิตใจที่เกิดขึ้นหลังจากเผชิญกับเหตุการณ์คุกคามที่กระทบกระเทือนต่อจิตใจอย่างรุนแรง หรือเผชิญเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บที่อันตรายถึงชีวิต เช่น ภาวะสงครามอุบัติเหตุร้ายแรง ถูกทารุณกรรม ถูกข่มขืน ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งอาจเป็นประสบการณ์โดยตรง หรือการพบเห็นเหตุการณ์นั้น จนทำให้ผู้ป่วยอาจเห็นภาพในอดีต ฝันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รู้สึกวิตกกังวลโดยไม่สามารถควบคุมได้ อาจส่งผลให้นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิ โดยอาการจะค่อนข้างรุนแรงและเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ จนอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้


 

อาการป่วยทางจิตจากภาวะเครียดหลังเจอเหตุการณ์สะเทือนใจนั้น จะแสดงอาการออกมา 2 ระยะ ได้แก่ ระยะแรกเกิดขึ้นภายใน 1 เดือนหลังเกิดเหตุการณ์เรียกว่า Acute Stress Disorder (ASD) หรือ โรคเครียดเฉียบพลัน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการเครียด แล้วเกิดอาการทางประสาทขึ้นมาได้ จากนั้นจะเข้าสู่ระยะที่ 2 โรคเครียดหลังเผชิญเหตุการณ์รุนแรง Posttraumatic stress disorder (PTSD) คือ หลังผ่านเหตุการณ์มาแล้ว 1 เดือน ทำให้มีความรู้สึกดังนี้

เหตุการณ์นั้นตามมาหลอกมาหลอน(Re-experiencing) เห็นภาพเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้น แล้วผุดขึ้นมาซ้ำๆ อยู่บ่อยๆ ทำให้รู้สึกเหมือนกลับไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นซ้ำไปซ้ำมาจนตกใจกลัว (Flash Back) คอยหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นเตือนให้นึกถึงเหตุการณ์ (Avoidance) กลัวสถานที่หรือสถานการณ์หลังจากประสบเหตุนั้นๆ หลีกเลี่ยงที่จะคิดและรู้สึกเกี่ยวกับสิ่งที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ ไม่กล้าเผชิญกับสิ่งที่จะส่งผลทำให้กระทบกระเทือนต่อจิตใจ เช่น ภาพข่าวเหตุการณ์ การพูดถึงจากบุคคลอื่น

มีความรู้สึกนึกคิดในทางลบ (Negative alteration of cognition and mood) คือ การไม่มีอารมณ์ในทางบวก ไม่มีความสุขและไม่สนใจที่จะร่วมกิจกรรมนั้นๆ การรู้สึกแปลกแยกจากผู้อื่น มีความเชื่อและคาดหวังที่เป็นไปในทางลบอย่างต่อเนื่องมีการตีความขยายออกไปในทางลบบางรายมีความคิดบิดเบือนไปจากความเป็นจริง ซึ่งความคิดดังกล่าวจะนำไปสู่การตำหนิตัวเองและคนอื่น ส่งผลให้มีอารมณ์ฝังใจในทางลบ รู้สึกโกรธ อับอาย หวาดกลัว และรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลา

มีอาการตื่นตัวมากเกินไป (Hyperarousal symptoms) เป็นอาการคอยจับจ้อง คอยระวังตัว ตื่นตัว และมักมีอาการหงุดหงิด ตกใจง่าย โกรธง่ายรวมถึงสะดุ้งและผวาง่ายขึ้น เวลาอยู่ในที่ที่มีเสียงดังส่งผลให้ขาดสมาธิ นอนหลับไม่สนิท หลับยาก หรือชอบสะดุ้งตื่นในขณะที่นอนหลับ

สาเหตุของโรคเครียดหลังเผชิญเหตุการณ์รุนแรง แบ่งเป็น ด้านจิตใจ เมื่อจิตใต้สำนึกถูกกระตุ้นโดยเหตุการณ์ที่รุนแรง ทำให้ผู้ป่วยเกิดพฤติกรรมถดถอย และใช้กลไกป้องกันจิตใจตัวเองที่ไม่เหมาะสมจนเกิดอาการต่างๆ และผู้ป่วยเชื่อมโยงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสิ่งที่เตือนให้นึกถึง เช่น เช่น ภาพ เสียง กลิ่น ทำให้พอเจอสิ่งเตือนก็จะมีอาการหวาดกลัวราวกับเจอเหตุการณ์นั้นจริงๆ

ด้านชีวภาพ พบว่ามีความผิดปกติของสารสื่อประสาทบางตัว หรือความผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติที่ทำงานไวเกิน การอยู่ในความเครียดนานจะมีผลทำลายเซลล์สมอง ทำให้สมองบางส่วนมีขนาดเล็กลง

สำหรับการรักษาจะมีการรักษาด้วยยา โดยยาหลักคือกลุ่มยาต้านเศร้า จะให้ยาเท่ากับผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้า และควรให้ยานานอย่างน้อย1 ปี และการรักษาด้วยจิตบำบัด เช่น ความคิดพฤติกรรมบำบัด (cognitive behavior therapy) สิ่งสำคัญคือ การให้กำลังใจ ส่งเสริมให้ผู้ป่วยได้พูดระบายความรู้สึก ความคิด เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เผชิญมาเท่าที่ผู้ป่วยต้องการ โดยไม่ต้องลงรายละเอียดของเหตุการณ์ เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการแย่ลงจากการรู้สึกว่าเหตุการณ์เกิดซ้ำ ช่วยแนะนำวิธีปรับตัว ฝึกผ่อนคลาย ส่งเสริมให้ญาติมีส่วนช่วยเหลือประคับประคองผู้ป่วย, วิธีบำบัดบาดแผลทางใจ (EMDR) ที่ให้ผู้ป่วยนึกถึงเหตุการณ์ไปพร้อมกับมองตามนิ้วมือของผู้รักษาที่เคลื่อนไหวไปมาตามขวาง และการบำบัดความกลัวด้วยการเผชิญหน้ากับความกลัว ให้ผู้ป่วยเผชิญหน้ากับเหตุการณ์อีกครั้งผ่านการจินตนาการ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'สิงคโปร์'มองเหตุปะทะไทย-กัมพูชา สะท้อนความล้มเหลวของผู้นำ

น้ำป่าหลาก! ท่วมทางเข้าวัดป่าถ้ำวัว สถานที่ปฏิบัติธรรมชื่อดังแม่ฮ่องสอน

ด่วน!!! ตร.อำนาจเจริญเข้ม ‘ห้ามบินโดรน’ ฝ่าฝืนจำคุก1ปี-ปรับ40,000บาท

'อิ๊งค์'ยินดีสภาฯผ่าน พ.ร.บ.ชาติพันธุ์ ก้าวสำคัญของการคุ้มครอง-ส่งเสริมวิถีชีวิต

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved