หนังสือไตรภูมิกถาฉบับรัชกาลที่ 9
ด้วยไตรภูมิพระร่วงนั้นมีบทบาทสำคัญในสังคมไทยมาแต่โบราณ ทำให้คนในชาติได้รู้จักบาป บุญ คุณโทษ จนมีลักษณะเฉพาะแห่งเชื้อชาติ ท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมืองนั้น อาทิตย์นี้ขอตามหาภูมิปัญญาบ้านเมืองจากไตรภูมิ ที่มีการสร้างสรรค์ภาพไตรภูมิขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 9 อันเป็นผลงานของช่างศิลป์ไทยที่ได้รับมหาพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ทรงตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของช่างเขียนภาพไตรภูมิในรัชกาลปัจจุบันเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ณ อาคารจิตรกรรม สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร อำเภอศาลายา จังหวัดนครปฐม ในครั้งนั้นพระองค์ทรงมีส่วนร่วมในการเขียนภาพพระพักตร์พระอินทร์ ประทับบนเวชยันตปราสาทบนสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และต้นปาริชาติด้วย ประวัติการของไตรภูมิพระร่วงนั้นผู้แต่งคือ พญาลิไทหรือพระมหาธรรมราชาลิไททรงเขียนขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1888 นับเป็นวรรณคดีพุทธศาสนาสำคัญที่สุดในสมัยสุโขทัย ซึ่งมีอิทธิพลต่อศีลธรรมและจริยธรรมในสังคมประเทศ ครั้งนั้นมีพระมหาเถรปู่ครูและพระเถระสำคัญคือพระสังฆราชเมธังกร มหาเถระผู้เป็นครูบาอาจารย์ของพระมหาธรรม ราชาลิไท ซึ่งมหาเถระรูปนั้นได้รจนาคัมภีร์โลกัปปทีปกสารขึ้นภายหลังไตรภูมิพระร่วง จึงเชื่อว่าต้นฉบับไตรภูมิพระร่วงของเดิมนั้นน่าจะสูญหายไปจนเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดให้พระภิกษุสงฆ์ และนักปราชญ์ราชบัณฑิตเรียบเรียง “ไตรภูมิกถา” ขึ้นใน พ.ศ. 2326 นั้นทำให้เป็นที่รู้จักกันในชื่อไตรภูมิโลกวินิจฉยกถา และพระยาธรรมปรีชา (แก้ว) ได้เรียบเรียงไตรภูมิกถาจึงถือว่าไตรภูมิพระร่วงนั้นมีความเก่าแก่มามากกว่า 600 ปี
วิมานเทวดาในภาพเขียนไตรภูมิ ร.9
สิ่งที่ปรากฏอยู่มากนั้นคือภาพไตรภูมิที่มีการเขียนมาจากหนังสือไตรภูมิกถา ซึ่งปรากฏเป็นสมุดไทยในสมัยอยุธยา สมัยกรุงธนบุรีและต้นกรุงรัตนโกสินทร์ บางส่วนก็ถูกเขียนในจิตรกรรมฝาผนังในวิหารและพระอุโบสถเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวและการอ่านความให้เกิดปัญญาที่ทำให้รู้สึกผิดชอบชั่วดีเกรงกลัวต่อบาปกรรม-ในภาพของนรกสวรรค์ วิมานต่างๆ ดังนั้นในรัชกาลปัจจุบันการริเริ่มสร้างสรรค์ภาพไตรภูมิ จากไตรภูมิกถาจึงเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์แล้วยังเป็นการสืบทอดศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ปรัชญาความเชื่อทางศาสนาที่มีมาแต่โบราณให้ปรากฏในรูปแบบของภาพเขียนขนาดใหญ่สูง 14 เมตร โดยนำรูปแบบการเขียนภาพที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ได้ทรงงานไว้และแนวศิลปะภาพประกอบพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นแบบอย่าง โดยส่วนท้ายภาพได้ใช้ศิลปะสมัยรัชกาลที่ 9 เขียนภาพบุคคลในเหตุการณ์จริงด้วยการทำงานภาพไตรภูมินี้ใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตรกรรม ช่างสิบหมู่และจิตรกรร่วม 20 คน ช่วยกันสร้างสรรค์เป็นภาพพระบฏขนาดใหญ่สูง 14 เมตร สำหรับเล่าเรื่องไตรภูมิตั้งแต่ชั้นอรูปภูมิ 4 ชั้น รูปภูมิ 16 ชั้น จนถึงกามภูมิ 11 ชั้น พร้อมกับจัดพิมพ์หนังสือไตรภูมิ 2 ภาษา คือ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ หนังสือเล่มนี้เน้นภาพเขียนประกอบกับบทความ รวมทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังของคณะทำงานที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 จนไปถึงขั้นตอนสุดท้าย สำหรับการทำงานนั้น ได้นำรูปแบบจากภาพจิตรกรรมจากวัดพระศรีรัตนศาสดารามหรือวัดพระแก้วทั้งหมด เป็นงานศิลปะร่วมสมัยกับภาพของเดิมที่อยู่ในสมุดข่อย ทั้งภาพจะมองเห็นความเป็นปัจจุบัน คือพระเมรุสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ด้วย ภาพไตรภูมิจึงเป็นงานสร้างสรรค์งานศิลปกรรมไทยทุกประเภทที่กระจายออกจากศูนย์กลางของสังคมออกไปเป็นลำดับชั้นดุจสัตตบริภัณฑ์โอบล้อม เขาพระสุเมรุ ศิลปกรรมที่เกิดขึ้นในสังคมประเทศล้วนมาจากคติความเชื่อและความบันดาลใจจากไตรภูมิทั้งสิ้น ซึ่งมีการแสดงเรื่องราวโดยตรงและแสดงด้วยรูปลักษณ์แทนความหมายภูมิภพต่างๆ เช่น พรหม เทวดา ครุฑ ไปจนถึงกระจัง กาบ ช่อฟ้า รวยระกา หางหงส์ คันทวย เป็นต้น ตลอดวรรณคดีและวรรณกรรมทางศาสนา เช่น พุทธประวัติ ทศชาติ มหาชาติ เป็นต้นนับว่าเรื่องราวและภาพของไตรภูมินั้น มีอิทธิพลสูงสุดต่อการสร้างภูมิเมืองให้เกิดศิลปกรรมและวิถีชีวิตที่งดงามให้กับคนไทยมาตลอดไม่เสื่อมคลาย-ขอขอบคุณ ชัยพล สุขเอี่ยม ผู้อำนวยการกลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
สวรรค์ชั้นดุสิตในไตรภูมิ ร.9
เขาพระสุเมรุและบริวารในไตรภูมิ ร.9
พระเมรุมาศสมเด็จฯกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทอดพระเนตรภาพไตรภูมิ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี