นักท่องเที่ยวที่ได้เยือน Tyrolean Folk Art Museum Innsbruck แล้ว จะได้เข้าเยือนHofkirche หรือ Court Church ด้วยเพราะตั๋วขายมาคู่กัน Hofkirche หรือ Court Church โบสถ์โรมันคาทอลิกที่อยู่ติดกับ Tyrolean Folk Art นี้ ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1553-63 จากดำริของจักรพรรดิ Ferdinand I หลานของจักรพรรดิ Maximilion I เพื่ออุทิศให้กับศาสนจักร และหวังให้ที่ฝังพระศพของจักรพรรดิ Maximilion Iอลังการสมฐานะขึ้นด้วย จักรพรรดิ Ferdinand I ได้มอบหมายให้ Andrea Crivelliสถาปนิกชาวอิตาเลียนเป็นผู้ออกแบบโบสถ์ที่มีห้องโถง 3 ทางเดิน ส่วนผู้สร้างก็คือ Nikolaus Turing the Younger ที่ปู่ของเขาเป็นผู้ออกแบบและสร้างหลังคาทองคำของเมือง Innsbruck ส่วนของหลังคาโบสถ์ที่ออกแบบและตกแต่งตามแนวทางศิลปะแบบ Renaissance นั้นเป็นฝีมือของ Hieronymus de Longhi และ Anton del Bon

หลังโบสถ์สร้างเสร็จไม่นาน Archduke Ferdinand II ได้ทำการปรับปรุงโบสถ์ใหม่ในปี 1577 โดยเพิ่มส่วนหอสวดมนต์ Silver ขึ้น หลัง 3 พฤศจิกายน 1655ซึ่งพระราชินี Christina แห่งสวีเดนสละราชย์ รัฐบาลได้เปลี่ยนโบสถ์เดิมให้กลายเป็นโบสถ์คาทอลิก ปี 1755-58 ศาสนจักรได้ให้ Nikolaus von Pacassi สถาปนิกชาวเวียนนามาออกแบบส่วนของแท่นบูชากลางใหม่ อีก 10 ปีต่อมาเพื่อเพิ่มความงดงามและอลังการ ทางศาสนจักรก็ได้จัดวางประติมากรรม St.Francis of Assisi และSt.Theresa of Avila ฝีมือ BalthasarFerdinand Moll นักประติมากรรมประจำราชสำนักขึ้นด้านข้าง

ส่วนที่เด่นที่สุดใน Kofkirche ก็คือ หลุมฝังพระศพเปล่าสีทองแดงของจักรพรรดิ Maximilion I ที่มีขนาดใหญ่กว่าร่างกายจริง 28 เท่าซึ่งถูกสั่งสร้างและออกแบบโดยพระองค์เองเพื่อไว้ตั้งในหอสวดมนต์St.George ณ ปราสาทใน Neustadt เวียนนา แต่เมื่อพระองค์สวรรคต หลุมฝังพระศพก็ยังสร้างไม่เสร็จ จักรพรรดิFerdinand I หลานของพระองค์จึงได้ย้ายที่จัดวางพระศพมาประดิษฐานไว้ที่ Hofkirche Innsbruck แทน เพราะกำแพงของโบสถ์St.George เดิมนั้นไม่แข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักได้ ถึงกระนั้นก็ตามการสร้างและตกแต่งกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ก็ในยุคสมัย Archduke Ferdinand II

จุดเด่นอีกอย่างก็คือ ประติมากรรมชายแต่งชุดดำ 28 คนรอบที่จัดวางพระศพเพื่อคอยปกป้องกลายเป็นที่มาของโบสถ์ที่เรียกกันเล่นๆ ว่า Black Man Churchที่แปลกไปกว่านั้นคือ ประติมากรรม 8 ชิ้นใน 28 ชิ้น เป็นผู้หญิง ผู้ที่จักรพรรดิ Maximilian I เลือกเป็นผู้ปกป้องพระองค์หลังสิ้นพระชนม์ คือ Maria of Burgundy และ Maria Sforzaพระมเหสีทั้งสองพระองค์ TyroleanArchduke Sigmund, พระเจ้า Ferdinand แห่งโปรตุเกส และพระเจ้า Arthur แม้จะมีผู้ปกป้องถึง 28 คน แต่แท้ที่จริงแล้วภายในที่จัดวางพระศพว่างเปล่า และพระศพของจักรพรรดิ Maximilian I ก็ยังอยู่ที่ Neustadtตามพระประสงค์ นอกจากที่วางพระศพแล้ว นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในโบสถ์ยังจะได้ชมหอสวดมนต์เงินที่จัดตั้งพระศพของ ArchdukeFerdinand II และพระชายา รวมทั้งออร์แกนที่สร้างโดย Jorg Ebert ซึ่งมีอายุมากถึง 500 ปีที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรีย ที่ยังคงใช้ได้อยู่ในปัจจุบันให้ชมอีกต่างหากด้วย