วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
คุยกัน7วันหน : เกิดอะไรขึ้นบ้าง กับ 1 ปี สงครามอิสราเอล-ฮามาส?

คุยกัน7วันหน : เกิดอะไรขึ้นบ้าง กับ 1 ปี สงครามอิสราเอล-ฮามาส?

วันอาทิตย์ ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 06.30 น.
Tag : สงครามอิสราเอล ฮามาส คุยกัน7วันหน
  •  

ย้อนไปเมื่อเช้าวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว การจู่โจมแบบสายฟ้าแลบของกองกำลังฮามาส ที่เรียกว่า “ปฏิบัติพายุ อัล-อักซอ” ด้วยการระดมยิงจรวด ทำลายแนวป้องกันพรมแดนระหว่างทางใต้ของอิสราเอลกับฉนวนกาซา ส่งนักรบนับพันทะลวงพรมแดนเข้าไปก่อการแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในความขัดแย้งกว่า 70 ปี การแทรกซึมข้ามพรมแดนของอิสราเอลในวันนั้น มีผู้ถูกสังหารกว่า 1,200 คนและอีกกว่า 250 คน ถูกลักพาตัวข้ามพรมแดนกลับไปยังฉนวนกาซา

ผลพวงของวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ลุกลามบานปลาย ส่งผลกระทบต่อเนื่องที่โหดร้ายมาถึงวันนี้ 1 ปีผ่านไป นับตั้งแต่อิสราเอลยกทัพบุกเข้าไปในฉนวนกาซาเพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาส แทบทุกตารางนิ้วถูกระเบิดทำลายล้าง ด้วยเป้าหมายหลักคือการทำลายอุโมงค์ใต้ดิน คลังอาวุธและเครือข่ายการสื่อสารของฮามาสให้สิ้นซาก แต่ขณะเดียวกัน การโจมตีก็ทำให้ประชาชนพลเรือนในกาซาได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก มีระเบิดในเขตที่อยู่อาศัยและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ยอดผู้เสียชีวิตเกือบ 42,000 ราย บาดเจ็บเกือบแสนคนพลัดถิ่นเกือบ 2 ล้านคนจากประชากรในฉนวนกาซาทั้งหมดราว 2.3 ล้านคนยากจะหาบ้านเรือนที่พอจะใช้ชีวิตได้ แถมยังต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง ขณะที่โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของกาซา เช่น ที่อยู่อาศัย เศรษฐกิจ ที่ดินทำกิน และกองเรือประมงส่วนใหญ่ถูกทำลายจนสูญสิ้น ฉนวนกาซากลายเป็นจุดที่ถูกระเบิดถล่มถี่ที่สุดเท่าที่เคยบันทึกในสงครามยุคใหม่ จนนานาชาติออกมาประณามถึงผลกระทบต่อชีวิตของพลเรือนในกาซาที่เป็นผลจากการโจมตีทางทหารของอิสราเอลครั้งนี้


การจับตัวประกันถือเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การต่อสู้ของฮามาสในการสร้างแรงกดดันต่ออิสราเอล ขณะที่อิสราเอลตอบโต้ด้วยการโจมตีทางทหารในฉนวนกาซา ส่งผลให้นานาประเทศเสนอตัวเข้ามาเป็นตัวกลางในการเจรจาเพื่อหาทางปล่อยตัวประกันเหล่านี้ โดยเฉพาะรัฐบาลกาตาร์และอียิปต์ เสนอตัวเป็นผู้ประสานงานให้ทั้งอิสราเอลและฮามาส โดยมีบทบาทเป็นตัวกลางสำคัญในการเจรจาเงื่อนไขการปล่อยตัวประกัน แต่การเจรจาหลายครั้งประสบปัญหา เนื่องจากความขัดแย้งที่ยังดำเนินอยู่และความตึงเครียดที่สูงขึ้นทั้ง 2 ฝ่าย ส่งผลให้ความสำเร็จในการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หรือราว 1 เดือนหลังการโจมตี ซึ่งนับเป็นการปล่อยตัวประกันเพียงครั้งเดียวที่เกิดขึ้นตลอด 1 ปีแห่งสงครามครั้งนี้

สงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาส มีผลกระทบทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างกว้างขวางในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยเฉพาะในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศมหาอำนาจ เช่น อิหร่าน สหรัฐฯ และกลุ่มประเทศอาหรับที่ให้การหนุนหลังกาซา กลุ่มติดอาวุธในภูมิภาคที่อิหร่านหนุนหลัง ทั้งกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน และกลุ่มกบฎฮูตีในเยเมน ต่างเดินหน้าโจมตีตอบโต้อิหร่านเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ ส่งผลให้ในที่สุด อิสราเอลทนไม่ไหวเปิดแนวรบด้านเหนือกับฮิซบอลเลาะห์ที่ยิงจรวดข้ามพรมแดนตอบโต้กันต่อเนื่องหลายเดือน อิสราเอลจัดหนักทั้งการโจมตีทางอากาศ และจากการโจมตีแบบลึกลับสุดไฮเทคด้วยเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารซุกซ่อนวัตถุระเบิด จนสังหารผู้คนไปเกือบ 2,000 คน รวมถึงหัวหน้าฮิซบอลเลาะห์และแกนนำอีกจำนวนมาก

ในเวลาเดียวกัน อิหร่านได้ระดมยิงขีปนาวุธเกือบ 200 ลูกเข้าใส่อิสราเอล เพื่อแก้แค้นให้กับฮิซบอลเลาะห์และฮามาส ในฐานะที่เป็นแกนหลักของ “กลุ่มอักษะแห่งการต่อต้าน” ทำให้เวลานี้ ประชาคมโลกกำลังตื่นกลัวว่า อิสราเอลจะตอบโต้เมื่อไหร่และอย่างไร จะเลือกโต้กลับเป้าหมายการทหาร หรือจะทำลายเศรษฐกิจด้วยการพุ่งเป้าไปที่น้ำมัน หรือจะคิดใหญ่ที่เป้าหมายทางนิวเคลียร์

สงครามในฉนวนกาซาและความขัดแย้งภาพรวมในตะวันออกกลาง ยังสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของสหรัฐฯ ในภูมิภาคที่จำกัดขึ้น เพราะที่ผ่านมา คณะทำงานของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ยังไม่สามารถที่จะใช้อิทธิพลกดดันพันธมิตรอย่างอิสราเอลให้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงได้ แม้ที่ผ่านมาจะให้การสนับสนุนอิสราเอลอย่างเต็มที่ในการป้องกันตนเองจากการโจมตีของฮามาส แต่ขณะเดียวกัน ก็เรียกร้องให้มีการปกป้องชีวิตพลเรือน

ไม่มีใครที่สามารถคาดการณ์ได้ว่า สงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาส จะสิ้นสุดเมื่อใด ดูตามปัจจัยหลายข้อจากสถานการณ์ความรุนแรงระดับภูมิภาคนี้ ความขัดแย้งนี้
มีรากฐานจากความตึงเครียดทางประวัติศาสตร์อันยาวนานทั้งทางการเมือง ศาสนา และชาติพันธุ์ในภูมิภาค การเจรจาสันติภาพในอดีตก็มักล้มเหลวเพราะต่างฝ่ายต่างไม่ไว้ใจกัน ส่วนองค์กรระหว่างประเทศและประเทศที่มีอำนาจ ก็ได้พยายามเป็นตัวกลางในการเจรจาเพื่อหาทางยุติสงคราม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเรียกร้องให้มีการหยุดยิงชั่วคราวเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนในกาซา แต่การเจรจาเหล่านี้มักเผชิญกับความล้มเหลวเนื่องจากข้อเรียกร้องที่ขัดแย้งกัน เช่น ฮามาสเรียกร้องให้มีการยุติการปิดล้อมกาซา ขณะที่อิสราเอลยืนกรานว่าต้องมีการหยุดการโจมตีจากฮามาสอย่างสิ้นเชิง สุดท้าย ความรุนแรงทางทหารจากการโจมตีรายวันก็ยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง

สงครามทุกสงครามย่อมมีวันยุติ แต่สงครามรอบนี้จะยุติลงเมื่อใด มาถึงจุดที่รุนแรงที่สุดแล้วหรือไม่ จึงขี้นอยู่กับอิสราเอล ว่า มีเป้าหมายที่แท้จริงอยู่ที่ไหน จะเพียงแค่กำจัดฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ หรือจะมุ่งที่เป้าใหญ่อย่างอิหร่าน

นั่นจึงทำให้ ผู้คนนับล้านๆ ทั้งในฉนวนกาซา และเลบานอน รวมถึงในอิสราเอลเอง ยังไม่รู้ชะตากรรมของตนเอง ว่าพวกเขาจะยังต้องเผชิญเรื่องราวและสถานการณ์โหดร้าย ต่อไปอีกนานเท่าใด.....


โดย ดาโน โทนาลี
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • คุยกัน7วันหน : ทรัมป์ยิ้มรับเครื่องบินจากกาตาร์ ระบุ \'คนโง่เท่านั้น\' ที่ปฏิเสธของขวัญชิ้นนี้ คุยกัน7วันหน : ทรัมป์ยิ้มรับเครื่องบินจากกาตาร์ ระบุ 'คนโง่เท่านั้น' ที่ปฏิเสธของขวัญชิ้นนี้
  • คุยกัน7วันหน : เมื่อชาวจีนเปิดใจพูดคุยเกี่ยวกับ ‘ความตาย’ มากขึ้น คุยกัน7วันหน : เมื่อชาวจีนเปิดใจพูดคุยเกี่ยวกับ ‘ความตาย’ มากขึ้น
  • คุยกัน7วันหน : ​วิเคราะห์-เจาะลึก ใครจะได้เป็น ‘สมเด็จพระสันตะปาปา’ พระองค์ใหม่ คุยกัน7วันหน : ​วิเคราะห์-เจาะลึก ใครจะได้เป็น ‘สมเด็จพระสันตะปาปา’ พระองค์ใหม่
  • คุยกัน7วันหน : จีนผนึกกำลัง ‘อาเซียน’ รับมือกำแพงภาษีทรัมป์ คุยกัน7วันหน : จีนผนึกกำลัง ‘อาเซียน’ รับมือกำแพงภาษีทรัมป์
  • คุยกัน7วันหน : จับตาศึกยก 2 สังเวียนการค้าโลก คุยกัน7วันหน : จับตาศึกยก 2 สังเวียนการค้าโลก
  • คุยกัน7วันหน : มิน อ่อง หล่าย เยือนไทย  ประชุม BIMSTEC ‘ได้หรือเสีย’ คุยกัน7วันหน : มิน อ่อง หล่าย เยือนไทย ประชุม BIMSTEC ‘ได้หรือเสีย’
  •  

Breaking News

'เอกนัฏ'ประณาม'กัมพูชา' ชี้ต้องเป็นมติพรรค ร่วมรบ.ต่อหรือไม่ บอกใครไม่พอใจลาออกได้

‘เอกนัฏ’ลั่น รทสช.อยู่ต่อหรือถอน ไร้ต่อรองตำแหน่ง ไม่มีแบ่งฝ่ายกับ‘ก๊วนสุชาติ’

'รองปลัด ทส.'นำทีมตรวจสารปนเปื้อนโลหะหนัก ในตะกอนดินที่หาดเชียงราย

นายกฯอิ๊งค์ยังยิ้มได้! สวมเสื้อเหลืองจิตอาสา ศึกษาดูงานเศรษฐกิจพอเพียง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved