Mr.Flower กลับไปเที่ยวกระบี่ครั้งล่าสุดเมื่อไม่กี่วันมานี้ ก็ทำให้ได้คำตอบชัดๆ ว่า เมืองกระบี่ยังมีเสน่ห์ และความน่ารักไม่เสื่อมคลาย เพราะมีที่เที่ยวต่าง ๆ นานาให้เลือกตามใจชอบ แต่ที่สำคัญคือกระบี่ยังไม่โตจนเลอะเทอะเละเทะเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่ง เพราะปล่อยให้ตึกรามบ้านช่อง และร้านค้าผุดขึ้นมาอย่างไร้ระเบียบจนทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวให้พังพินาศไปอย่างน่าเสียดาย
หลายครั้งที่ผ่านๆ มา เมื่อไปกระบี่ทีไรก็มักพุ่งตรงไปเที่ยวเกาะต่างๆ โดยพลัน เพราะคิดถึงหาดทรายขาวๆ และน้ำทะเลใสๆ แต่ครั้งนี้เลือกไปเที่ยวเกาะกลางก่อน เพราะได้ยินกิตติศัพท์ว่าชุมชนเกาะกลางยังมีมนต์เสน่ห์ที่ทำให้ผู้ไปเยือนหลงใหลไม่รู้คลาย
ชุมชนเกาะกลางยังรักษาวิถีชีวิตแบบดั่งเดิมไว้ได้อย่างน่าศรัทธา แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธพลวัตของสังคมโลก ขณะเดียวกันผู้คนยังคงยึดมั่นในหลักศาสนาที่ตนเองเคารพ และยังคงเก็บรักษาวิถีแห่งชาวเล รวมถึงวิถีแห่งเกษตรกรไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
เกาะกลางเป็นชุมชนมุสลิม ดังนั้นเสียงอาซานจึงก้องกังวานตลอดเวลา ผู้คนพร้อมจะชำระร่างกายให้สะอาดแล้วทยอยไปรวมตัวสวดมนต์ทำละหมาดที่มัสยิดประจำหมู่บ้านคือบ้านเกาะกลาง บ้านคลองประสงค์ บ้านคลองกำและบ้านบางขนุน
ชาวเกาะกลางบอกว่าคนที่นี่อยู่กับทะเลและอยู่กับศาสนา ชีวิตจึงสงบและไม่เร่งร้อน
คนจำนวนไม่น้อยรู้จักเกาะกลางดีว่าเป็นแหล่งปลูกข้าวสังข์หยดที่ดีที่สุดของเมืองไทย และข้าวนี้ก็คือเครื่องสร้างรายได้ที่งดงามให้กับชาวนาบนเกาะกลาง
นอกจากข้าวสังข์หยดแล้ว บนเกาะแห่งนี้ยังมีการทำผ้าปาเต๊ะด้วยมือจริงๆ อีกด้วย เรียกว่าแฮนด์เมดร้อยเปอร์เซ็นต์ (ยกเว้นตอนพิมพ์ลายเท่านั้นที่ใช้พิมพ์สำเร็จรูปกดลงไปบนผืนผ้าขาว) แต่การลงสีสัน การย้อม ยังคงใช้มือล้วนๆ
นอกจากปลูกข้าวสังข์หยด ทำผ้าปาเต๊ะแล้วคนเกาะกลางยังทำการเกษตร เช่น ปลูกมะม่วงหิมพานต์ มะพร้าว ทำประมงพื้นบ้าน และทำหัตถกรรมผลิตเรือหัวโทงจำลอง เพราะชุมชนทะเลแห่งนี้อาศัยเรือหัวโทงเป็นพาหนะและเครื่องมือทำมาหากินมาโดยตลอด
เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของบ้านเกาะกลางคือความมีไมตรีที่จริงใจ และความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันอย่างแน่นแฟ้น เราสังเกตเห็นว่าบ้านแต่ละหลังจะไม่มีรั้วที่เปรียบเสมือนกำแพงคุก แต่จะเปิดโล่งราวกับว่ารอรับมิตรภาพอย่างไม่มีวันหยุด
การเดินทางไปเกาะกลาง จากตัวเมืองกระบี่ ข้ามเรือได้ 2 ท่า คือ ท่าเรือสวนสาธารณะธารา-ท่าเล (ราคานักท่องเที่ยวคนละ 10 บาท) และท่าเรือเจ้าฟ้า-ท่าหิน (ราคานักท่องเที่ยวคนละ 30 บาท) บนเกาะมีพาหนะคือจักรยานยนต์รับจ้าง รถสามล้อพ่วงข้างให้บริการ และถ้าหากต้องการพักกับชาวบ้านเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตจริงๆ และออกเรือประมงไปด้วยกันก็ยังได้ โดยติดต่อกลุ่มโฮมสเตย์บ้านเกาะกลาง โทรศัพท์ 089-4750495, 081-5359091 www.krabihomestay.com แต่ขอแจ้งให้ทราบก่อนว่าโฮมสเตย์บนเกาะกลางมีจำนวนไม่มากนัก เพราะฉะนั้นต้องติดต่อก่อนเดินทางนะครับ มิฉะนั้นจะไม่มีที่พัก และเนื่องจากชาวเกาะกลางเป็นมุสลิม ดังนั้นจึงห้ามนำสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปรับทานในโฮมสเตย์
อ้อ! ทริปนี้แม้ Mr. Flower จะอยู่บนเกาะกลางก็จริง แต่ก็ยังมีภาพเกาะและน้ำทะเลสวยๆ จากทะเลแหวก เกาะห้อง เกาะปอดะ เกาะไก่ เกาะทับ เกาะหม้อ และถ้ำพระนาง หาดไร่เลย์มาฝากคุณด้วยครับ
ขอบคุณนกแอร์ที่พา Mr.Flower บินไปเที่ยวกระบี่ในครั้งนี้ และขอแจ้งให้คุณๆ ทราบด้วยว่านกแอร์กลับมาเปิดให้บริการบินสู่กระบี่แล้วนะครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี