วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
Marketbuzzz ร่วมกับ มธ. เผยผลสำรวจปี 68 คนไทยกังวล ‘ปัญหาสิ่งแวดล้อม’ ตระหนักสูงแต่พฤติกรรมยังสวนทาง แนะโอกาสก้าวสู่ผู้นำแบรนด์ด้านความยั่งยืน

Marketbuzzz ร่วมกับ มธ. เผยผลสำรวจปี 68 คนไทยกังวล ‘ปัญหาสิ่งแวดล้อม’ ตระหนักสูงแต่พฤติกรรมยังสวนทาง แนะโอกาสก้าวสู่ผู้นำแบรนด์ด้านความยั่งยืน

วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : ปัญหาสิ่งแวดล้อม มธ. Marketbuzzz
  •  

ผลสำรวจล่าสุดประจำปี 2568 โดย มาร์เก็ตบัซซ (หรือ Marketbuzzz) ร่วมกับ วิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เผยว่า สิ่งแวดล้อม ยังคงเป็นปัญหาอันดับหนึ่งที่คนไทยกังวลมากที่สุด อย่างต่อเนื่อง แม้จะเผชิญกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่สูงขึ้นก็ตาม

การสำรวจประจำปีนี้ ซึ่งได้จัดทำต่อเนื่องทุกปีตั้งแต่ปี 2562 พบว่า "สิ่งแวดล้อมและมลพิษ" ยังคงเป็นความกังวลอันดับหนึ่งของคนไทย (44%) แม้จะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ค่าครองชีพที่สูงขึ้น (42%) และภาพรวมเศรษฐกิจ (30%) ที่ติดอันดับความกังวลลำดับต้นๆ เช่นกัน ผลลัพธ์ที่สอดคล้องกันนี้สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมยังคงเป็นสิ่งที่คนไทยกังวลอย่างมาก แม้จะต้องเผชิญกับแรงกดดันทางการเงินที่ทวีความรุนแรงขึ้นก็ตาม


ช่องว่างระหว่างความกังวลและการลงมือทำ: ตระหนักสูง แต่พฤติกรรมเปลี่ยนน้อย

แม้คนไทยจะมีความตระหนักสูง แต่ช่องว่างระหว่างความกังวลและการลงมือทำจริงยังคงมีนัยสำคัญ โดย 65% ของคนไทยเชื่อว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิต และเกือบครึ่ง (48%) เชื่อว่าสถานการณ์จะเลวร้ายลงในอีก 5 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามถึงการกระทำที่ได้ทำไปในสัปดาห์ที่ผ่านมา พฤติกรรมที่พบมากที่สุดคือ การปิดไฟ (50%) และปิดเครื่องปรับอากาศ (44%) ซึ่งเป็นการกระทำที่ง่ายและทำเป็นประจำ ใช้ความพยายามน้อย และสามารถควบคุมได้ด้วยตนเอง

ในทางกลับกัน มีเพียง 23% เท่านั้นที่ปฏิเสธการใช้ถุงพลาสติกจากร้านค้า แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่แสดงออกสู่สาธารณะ หรือพฤติกรรมที่ได้รับอิทธิพลทางสังคมที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

โดยทั่วไปแล้ว การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านสิ่งแวดล้อมจะทำได้ง่ายขึ้นเมื่อรู้สึกว่าตนสามารถสร้างความแตกต่างได้ด้วยตนเอง การกระทำง่ายๆ เช่น การปิดไฟ หรือถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า มักจะถูกทำบ่อยกว่า เพราะทำง่ายและให้ความรู้สึกว่าตนเองสามารถควบคุมได้ นอกจากนี้ ยังบ่งชี้ว่าผู้คนมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมเมื่อพวกเขารู้สึกว่าตนเองสามารถควบคุมและสร้างผลกระทบได้ทันที สำหรับพฤติกรรมที่ซับซ้อนมากขึ้นหรือได้รับอิทธิพลจากระบบ เช่น การรีไซเคิลอย่างถูกวิธียังมีข้อจำกัด จึงเป็นโอกาสที่จะต้องให้คำแนะนำหรือรณรงค์เพื่อแสดงถึงผลของการกระทำอย่างชัดเจน สร้างแรงจูงใจ และการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง

“ช่องว่างระหว่างความกังวลและการลงมือทำนี้ ไม่ใช่ความล้มเหลว แต่เป็นคำเชิญชวน” มร. แกรนท์ บาร์โทลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มาร์เก็ตบัซซ (Marketbuzzz) กล่าว “ความท้าทายในขณะนี้คือการเปลี่ยนผู้คนจากความกังวลแบบเฉยชาไปสู่การมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือล้นให้มากขึ้น และแบรนด์ต่างๆ สามารถมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงนี้ได้”

มร. แกรนท์ บาร์โทลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มาร์เก็ตบัซซ (Marketbuzzz)

 

โอกาสสำคัญสำหรับการก้าวสู่ผู้นำแบรนด์ด้านความยั่งยืน

ข้อมูลปี 2568 เผยว่า 66% ของคนไทยยังคงจะให้การสนับสนุนแบรนด์หรือองค์กรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการสนับสนุนนี้ไม่ได้หมายความว่าผู้บริโภคจะหันมาซื้อผลิตภัณฑ์นั้นๆ เสมอไป เว้นแต่จะมีคุณลักษณะอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน เช่น บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือการวางตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถเป็นปัจจัยที่ทำให้แบรนด์มีความยั่งยืนมากขึ้นได้

มร.แกรนท์ กล่าวเสริมว่า “การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอาจไม่ใช่เหตุผลอันดับหนึ่งที่ผู้คนตัดสินใจซื้อสินค้า แต่เมื่อคุณสมบัติอื่นๆ ทั้งหมดใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะเป็นราคา คุณภาพ ประสิทธิภาพ ฯลฯ ความยั่งยืนก็สามารถเป็นปัจจัยในการตัดสินใจได้ หากแบรนด์หนึ่งนำเสนอบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือคุณสมบัติที่ยั่งยืน ในขณะที่อีกแบรนด์ไม่มี สิ่งนี้สามารถพลิกการตัดสินใจซื้อได้เลย”

ผศ.ดร.ประภาภรณ์ ติวยานนท์ มงคลวนิช คณบดีวิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 

องค์กรที่มีความยั่งยืนจะเป็นผู้ผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลง

สิ่งนี้เปิดประตูให้แบรนด์ต่างๆ เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงโดยการออกแบบเพื่อสร้างผลกระทบ ด้วยการบูรณาการความยั่งยืนเข้ากับคุณค่าหลักของผลิตภัณฑ์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และนำเสนอให้ผู้บริโภคมองเห็นและเชื่อมโยงได้ และง่ายต่อการลงมือทำ แบรนด์ต่างๆ สามารถเปลี่ยนความกังวลไปสู่การลงมือทำ และสร้างคุณค่าของแบรนด์ได้ในกระบวนการนี้

งานวิจัยยังระบุถึงความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม 3 อันดับแรกของคนไทย ได้แก่ ภาวะโลกร้อน (46%) มลพิษทางอากาศ (45%) และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (29%) ซึ่งตอกย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับการดำเนินการอย่างกว้างขวางและครอบคลุมในทุกอุตสาหกรรมและทุกภาคส่วน

ผศ.ดร.ประภาภรณ์ ติวยานนท์ มงคลวนิช คณบดีวิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า “เราได้รับการสนับสนุนจากความตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นและต่อเนื่องถึงภัยคุกคามทางสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ความท้าทายทางเศรษฐกิจยังคงอยู่ สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงคนไทยตระหนักถึงความรับผิดชอบร่วมกันในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นอกจากนี้ยังตอกย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่จะสร้างความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษา ธุรกิจ และการกำหนดนโยบายเพื่อเร่งความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน”

ผศ.ดร.ประภาภรณ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า “ความจริงที่ว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังมีความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม แม้ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความรุนแรงของปัญหาเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ช่องว่างที่ยังคงมีอยู่ระหว่างความกังวลและการลงมือทำ ชี้ให้เห็นถึงความต้องการที่ชัดเจนสำหรับการสนับสนุนในระบบที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างและนโยบายที่ส่งเสริมให้บุคคลเปลี่ยนความตระหนักรู้ไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน”

อีกทั้ง ยังเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของภาคเอกชนว่า “นี่คือจุดที่ความเป็นผู้นำขององค์กรมีบทบาทสำคัญ ธุรกิจมีทรัพยากร ขนาด และอิทธิพลที่จะทำให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ยั่งยืนได้ง่ายขึ้น เช่น ราคาที่ไม่แพง และความสะดวกสบาย เมื่อบริษัทต่างๆ เป็นผู้นำด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม พวกเขาไม่เพียงช่วยบรรเทาวิกฤตโดยตรงเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้บริโภคสามารถมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาได้อีกด้วย”

การสำรวจดังกล่าวนี้ แสดงให้เห็นว่าความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องของทุกคน โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไป องค์กรหรือบริษัท และรัฐบาล เพื่อเปลี่ยนความตระหนักรู้ที่แพร่หลายไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม ขณะที่แบรนด์ที่ก้าวเข้ามาเพื่อนำเสนอทางเลือกที่ยั่งยืนและทำให้การเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมง่ายขึ้น จะไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ประโยชน์จากกระบวนการนี้เพื่อสร้างความสัมพันธ์เชิงบวกกับแบรนด์ได้อีกด้วย

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อ มร.แกรนท์ บาร์โทลี่ Marketbuzzz ที่อีเมล (grant@buzzebees.com) หรือ มร.นีล เกนส์ วิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่อีเมล (neil@sgs.tu.ac.th). 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'ภูมิธรรม'ซัด'ภท.'ไม่เหมาะสม ลั่นพรรคร่วมฯ เหนียวแน่น-เสียงพอ ไม่ต้องหาเพิ่ม

'ประเสริฐ'พร้อมนั่ง มท.1 มั่นใจพรรคร่วมรัฐบาล ยังมีเสถียรภาพเหมือนเดิม

พบร่างไร้วิญญาณ! ในไซด์งานก่อสร้าง ‘คาดถูกช็อต’ หลังพยายามลักสายไฟ

จับผู้ต้องหาแก๊งค้ายาหนีคดีเกือบ10ปีไม่รอด

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved