‘ความสุขไม่ได้อยู่ที่การทำธุรกิจเพียงด้านเดียว’คิม - กมลวัฒน์ วีรศุภกาญจน์
“ถ้าเราต้องการให้ธุรกิจเราเติบโตยิ่งๆ ขึ้นไป เราต้องรู้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวเองเสียก่อนว่า เราเก่งหรือถนัดในสิ่งใด เพราะเมื่อวันหนึ่งซึ่งเราต้องทำธุรกิจของตัวเอง เมื่อนั้นเราจะได้รับรู้ว่า...ด้วยศักยภาพของตนเองที่มีอยู่จะสามารถนำพาให้ธุรกิจก้าวเดินไปสู่ในทิศทางใด”
คำสอนนี้เป็นสิ่งที่บิดาของ คิม - กมลวัฒน์ วีรศุภกาญจน์ รองประธานกรรมการ บริษัท ทีแอลเอส กรุ๊ป เซาธ์ อีสท์ เอเชีย จำกัด (TLS GROUP) ตัวแทนผู้นำเข้ารถยก ยี่ห้อ ‘ฮุนได’(HYUNDAI FORKLIFT) ได้พูดเตือนใจเขาอยู่เสมอ ตั้งแต่เริ่มต้นเดินเข้าสู่เส้นทางการทำธุรกิจ และได้ใช้สัจธรรมนี้ผลักดันให้ธุรกิจของครอบครัวเติบโตขึ้นเรื่อยมา แต่ด้วยความที่ คิม-กมลวัฒน์ เติบโตมาในครอบครัวที่ในช่วงแรกทำธุรกิจแบบ “กงสี” มาตั้งแต่เด็ก จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการหล่อหลอมตัวตนของผู้บริหารหนุ่มไฟแรงในมาดนักธุกิจคลื่นลูกใหม่คนนี้
“ผมเห็นธุรกิจของครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ธุรกิจขายอุปกรณ์ประมงประเภทอวนปลาน้ำลึก ซึ่งปัจจุบันก็ยังทำอยู่ เพราะเป็นธุรกิจที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยคุณปู่ ถึงวันนี้ก็ 40 ปีแล้ว ซึ่งในเวลาต่อมาทางครอบครัวได้ขยายกิจการโดยแตกสาขาธุรกิจใหม่เริ่มจากนำเข้ารถยกมือสองคุณภาพดีจากประเทศญี่ปุ่น และประสบความสำเร็จจนกระทั่งได้รับความไว้วางใจเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของบริษัท Hyundai Heavy Industry ประเทศเกาหลี ที่มีมาตรฐานระดับโลก”
ทว่าในการทำธุรกิจย่อมมีการขัดแย้งเกิดขึ้น ซึ่งก็เป็นธรรมดาที่หลายครั้ง คิม-กมลวัฒน์ กับคุณพ่อต่างมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน จนถึงขั้นไม่มองหน้ากัน ไม่พูดกัน แล้ววันหนึ่งก็ทำให้ คิม เริ่มตระหนักได้ว่า...“ทำไมต้องมาทะเลาะกันเอง สู้ร่วมมือกันเพื่อไปต่อสู้กับคนอื่น แล้วเก็บรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวไว้ไม่ดีกว่าหรือ?
ธุรกิจรถยกนี้ เริ่มแรกเราทำกันแบบมวยวัด ไม่มีการวางหมากเลย เรียกง่ายๆ ก็คือ ทำธุรกิจแบบไม่มีการวางกลยุทธ์ทางการตลาดเลย จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เรามาอยู่กับฮุนไดคือ เมื่อลูกค้ารายใหญ่เริ่มเปลี่ยนทิศทางไปใช้รถยกมือ 1 ทางเราก็เริ่มมองหาแบรนด์ที่คุณภาพดีคุ้มราคา และทางฮุนไดก็มองหาตัวแทนจำหน่าย ซึ่งก็พอใจในสไตล์การทำธุรกิจของเราที่ “เน้นให้ความสำคัญกับลูกค้ามากกว่าผลกำไร” และเมื่อเรายกระดับธุรกิจของเราขึ้น แน่นอนว่าคู่แข่งจึงเพิ่มระดับขึ้นเช่นกัน เรา จึงเริ่มมีการจ้างที่ปรึกษาแบรนด์ เพราะในช่วงนั้นธุรกิจเราเริ่มมีคู่แข่งซึ่งถือว่าเป็นคู่แข่งทางการตลาดจริงๆ ซึ่งการที่เราทุกคนร่วมมือกันกับที่ปรึกษาสามารถช่วยเราได้ในระดับหนึ่งทีเดียว”
ต่อมาเมื่อ คิม-กมลวัฒน์ จบ MBA จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสั่งสมประสบการณ์ผู้ช่วยผู้บริหารมากว่า 6 ปี จึงได้รับการยอมรับและความไว้วางใจจากผู้บริหารท่านอื่นๆ รวมถึงพนักงาน ให้ได้เข้ามาบริหารจัดการงานส่วนกลยุทธ์ภายในกลุ่มธุรกิจรถยกของ TLS GROUP อย่างเต็มตัว ซึ่งนับเป็นสิ่งที่เขาภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง และจะภูมิใจยิ่งขึ้นไปอีก หากสามารถนำพาบริษัทให้ก้าวไปสู่ ธุรกิจที่ยั่งยืนได้”
ปิดท้ายกับ กลยุทธ์ในการบุกตลาดในปี 2557 ซึ่งเขาบอกว่า บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมในการเพิ่มศักยภาพของกำลังบุคลากร โดยเน้นทีมงานวิศวกรและทีมช่างทีมีคุณภาพ เพื่อรองรับงานบริการของบริษัทฯ ที่กำลังจะขยายตลาดในส่วนของธุรกิจเครื่องจักรกลเพื่อการก่อสร้างต่อไปในอนาคต ประกอบกับความต้องการการขยายตัวทางธุรกิจ ดังนั้น การรับบุคลากรเข้ามาทำงานร่วมกันจึงต้องเป็นบุคคลากรที่มีทัศนคติที่ดี เพื่อการทำงานที่จะมุ่งสู่การพัฒนาองค์กรไปพร้อมๆ กัน”
จากภาพลักษณ์ภายนอกหลายคนอาจมองเห็นว่าเขาเป็นนักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรง ซึ่งทุ่มเทเวลาให้กับธุรกิจอย่างเต็มกำลัง แต่ใครจะรู้บ้างว่า...อีกด้านหนึ่งของชีวิตเขาได้ใช้เวลาเพื่อการสร้าง “ความสุข” ให้กับตนเอง เสมือนเป็นโลกส่วนตัวหรือไลฟ์สไตล์ของชีวิตที่ใครก็อาจคาดไม่ถึง
“ชีวิตผมมีสองด้าน ทำงานอย่างเต็มที่ในทุกๆ วัน และตามใจตัวเองในวันพักผ่อน ในเวลาว่างผมชอบไป ตีกอล์ฟ ซึ่งสิ่งที่ได้จากการตีกอล์ฟก็คือ ทำให้ผมมีสติและสมาธิเพิ่มขึ้น และอีกสิ่งที่ผมชื่นชอบและใฝ่ฝันอยากทำมาตั้งแต่เด็กๆ เลยก็คือ การได้ขับ BIG BIKE ตระเวนไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่อยากไปกับกลุ่มเพื่อน แต่ ‘ความสุข’ นี้เป็นสิ่งที่ครอบครัวผมไม่สบายใจ โดยเฉพาะคุณแม่ท่านให้เหตุผลว่า...อันตราย สุดท้ายคือ ทุกวันนี้ผมเลยต้องหันไปขับ Scooter เวสป้า (VESPA) ตระเวนเที่ยวไปกับกลุ่มเพื่อนแทน ก็โอเค.นะครับ(หัวเราะ) และหากมีเวลาว่างติดกันหลายวันผมก็ชอบไปดำน้ำ ถ้าถามว่าอยากไปดำน้ำที่ไหนที่สุดก็คงเป็นที่ ‘ปาเลา’ เพราะเป็นประเทศที่มีแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงมากในหมู่คนดำน้ำ ในด้านความสวยงาม อุดมสมบูรณ์ มีสัตว์น้ำขนาดใหญ่อาศัยอยู่มากมาย”
ในอีกมุมหนึ่งเมื่อต้องการความสงบ ร่มเย็น คิม-กมลวัฒน์ ยังสนใจในธรรมะ โดยมักแวะไปถือศีลที่วัดที่เชียงราย ทุกครั้งเมื่อมีโอกาส
“พอผมเรียนจบปริญญาโทจากจุฬาฯ ผมก็ได้มีโอกาสไปบวชเรียน ที่วัดแสงแก้ว โพธิญาณ จ.เชียงราย ประมาณ 3 เดือน รู้สึกว่าธรรมะช่วยให้ใจเย็นขึ้นมาก และคิดถึงหลักของเหตุและผลมากกว่าเดิม หลังจากสึกออกมา ผมก็ยังหาโอกาสแวะไปถือศีลที่วัดนี้ทุกปี ปีละ 2-3 ครั้ง”
นี่ล่ะ...คิม-กมลวัฒน์ วีรศุภกาญจน์ “นักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรง” แห่งวงการธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องจักรที่น่าจับตามอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี