โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง ปลุกกระแส “ลิเกไทย” เวทีที่ไม่เคยหลับใหล รวมดาวพระเอกนางเอกลิเก ถ่ายทอดเรื่องราวของสามนครใหญ่ว่าด้วยเรื่องความรัก ความเสียสละและความสามัคคี แสดงโดยลิเกโรงใหญ่ คณะพงษ์ศักดิ์ สวนศรี เรื่อง “ลิขิตรัก” ซึ่งโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุงจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 73 พรรษา ร่วมดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาท สืบสาน รักษา ต่อยอดด้านศิลปวัฒนธรรมไทย ผ่านศิลปะการแสดงพื้นบ้าน “ลิเก” ณ โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

“ลิเก” จากมหรสพพื้นบ้านสู่มรดกทางวัฒนธรรมไทยที่เติบโตไปกับยุคสมัย ด้วยพระเอกนางเอกลิเกรุ่นใหม่ล้วนหันมาเป็นผู้สืบทอดการแสดง “ลิ เก” ศิลปะที่ถ่ายทอดเสียงร้องและท่วงท่ารำมานับศตวรรษ แม้จะมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาตามยุคสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ที่ทำให้ผู้ชมหลงรัก “ลิขิตรัก” วันนี้นำแสดงโดยพระเอกลิเกโรงใหญ่ พงษ์ศักดิ์ สวนศรี - เทพบัญชา หอมหวล รวมดาวดังพระเอกลิเกรุ่นใหม่ นีโน่ สุดที่รัก & แน็กกี้ สุดที่รัก จากคณะสองเทพบุตรสุดที่รัก ต้อม นิรันดร์, ทองหยอด ลูกนารายณ์ สองคู่พระ–นาง The Golden Song : โตโต้ ธนเดช  ประกบ ซาย ภิสา สวนศรี, บิ๊ก จักริน ประกบ พลอย อิสรีย์ภัค ร่วมด้วย บลู รุ้งจรัส, แป้ง วนารี, ตวงรัก ฐิติยา, ผาภูมิ มาลัยนาค, พงษ์พร พ่วงเพชร, โตโต้ แดนซ์, หลุยส์ ชวนชื่น,โดนัท สุดที่รัก,จันทรา ดาราทิพย์, เจ้าขา มาลัยนาค ฯลฯ บรรเลงโดยวงดนตรีปี่พาทย์ พิกุลทอง และวงเฉลิมราชย์ ร่วมด้วย คณะนักแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง กำกับการแสดงโดย อ.พงษ์ศักดิ์ – ไพรัช สวนศรี

บรรยากาศการแสดงลิเกโรงใหญ่ครั้งนี้ เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพ ครบทุกอรรถรส สร้างความสุข รอยยิ้ม เสียงหัวเราะจากผู้ชมทั้งโรง พร้อมด้วยแฟนคลับที่นำพวงมาลัยและของขวัญมามอบให้พระเอกนางเอกขวัญใจกันอย่างตั้งใจ ก่อนปิดท้ายลงด้วยเพลงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว โดยคณะลิเกพร้อมด้วยผู้ชมทั้งโรงลุกขึ้นยืนร้องเพลงสดุดีจอมราชาร่วมกัน นับเป็นภาพแห่งความประทับใจปิดท้ายเรื่องราวของลิเกเรื่อง “ลิขิตรัก” ได้อย่างงดงามตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้ชมมิรู้ลืม