เตรียมพบกับการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของมหกรรมหนังสือภาษาอังกฤษระดับโลก  Big Bad Wolf Books 2025 ที่ในปีนี้จะเปิดพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร ณ อิมแพ็ค ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี ที่จะอัดแน่นด้วยหนังสือคุณภาพกว่า 2 ล้านเล่ม จากสำนักพิมพ์ชั้นนำระดับโลก ให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดเข้ามาในจักรวาลหนังสือสวย ดี และมีคุณภาพ พร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 95% ในวันที่ 7–17 สิงหาคม 2568 เวลา 10:00 – 22:00 น. และที่พิเศษคือสามารถเดินทางมางานได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วยรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่เชื่อมตรงถึงพื้นที่จัดแสดง

ริสรวล อร่ามเจริญ, แจ็คเกอลีน อึ๊ง และตรัสวิน จิตติเดชารักษ์

การอ่านไม่เคยหายไป — แต่มันกำลังกลับมาทรงพลังขึ้นอีกครั้ง

ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงและค่าครองชีพที่สูงขึ้น “หนังสือ” ยังคงเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีคุณค่า และกำลังกลับมาเป็นที่ต้องการของผู้คนทั่วโลกอีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z และครอบครัวรุ่นใหม่ ที่มองว่าการอ่านคือการลงทุนทางความคิด ความสงบ และแรงบันดาลใจ

ข้อมูลล่าสุดจาก Grand View Research ระบุว่าอุตสาหกรรมหนังสือทั่วโลกในปี 2024 มีมูลค่าสูงถึง 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าในปี 2030 จะเติบโตถึง 1.92 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสัดส่วนของมูลค่าตลาดหนังสือเล่มยังคงเป็นสัดส่วนหลักถึง 70-84% ของมูลค่าทั้งหมด อีกทั้งคาดว่าภายในปี 2030 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 4.2% ต่อปี โดยเฉพาะใน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งถือเป็นตลาดที่เติบโตสูงถึงเฉลี่ย 5% ต่อปี

ประเทศไทยเองก็สะท้อนเทรนด์การกลับมาของวัฒนธรรมการอ่านอย่างชัดเจน โดยผลสำรวจล่าสุดพบว่า คนไทยใช้เวลาอ่านหนังสือเฉลี่ย 113 นาทีต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ แนวหนังสือยอดนิยม ได้แก่ นิยาย พัฒนาตัวเอง จิตวิทยา ธุรกิจ สร้างแรงบันดาลใจ และหนังสือเด็ก ขณะเดียวกันความสนใจในหนังสือภาษาอังกฤษก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานและพ่อแม่ยุคใหม่ ที่มองว่าหนังสือคือการลงทุนด้านความรู้และพัฒนาตัวเองในระยะยาว

แม้เทคโนโลยีจะทำให้การเข้าถึงเนื้อหาง่ายขึ้นผ่าน E-book หรือแพลตฟอร์มนิยายออนไลน์ แต่ปรากฏการณ์น่าสนใจคือการที่คนรุ่นใหม่บางส่วนเริ่มหันกลับมาสู่หนังสือเล่ม เพื่อหลีกหนีจากหน้าจอ และใช้การอ่านเป็นเครื่องมือของการ “social detox” ขณะเดียวกัน BookTok หรือกระแสรีวิวหนังสือใน TikTok ก็มีบทบาทอย่างมากในการจุดประกายการอ่านในกลุ่มวัยรุ่นอีกครั้ง ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า “การอ่าน” ไม่ได้หายไป — แต่กำลังกลับมาอย่างทรงพลังในฐานะพื้นที่ของแรงบันดาลใจ ความสงบ และการเติบโตของจิตใจและความรู้ในยุคดิจิทัล

Big Bad Wolf: ไม่ใช่แค่งานขายหนังสือ แต่คือปรากฏการณ์ระดับโลก

จากจุดเริ่มต้นที่มาเลเซียในปี 2009 จนถึงวันนี้ Big Bad Wolf Books ได้เดินทางไปแล้วกว่า 50 เมืองใน 17 ประเทศทั่วโลก มียอดขายทั่วโลกรวมมากกว่า 100 ล้านเล่ม โดยเฉพาะในประเทศไทยที่เริ่มจัดงานในปี 2016 และสร้างยอดขายสะสมมากกว่า 10 ล้านเล่ม กลายเป็นปรากฏการณ์ที่นักอ่านชาวไทยรอคอยทุกปี

นางแจ็คเกอลีน อึ๊ง (Jacqueline Ng) ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการของ Big Bad Wolf Books กล่าวว่า “เราเชื่อว่าหนังสือไม่ควรต้องแพง เพราะหนังสือดี ๆ หนึ่งเล่มสามารถเปลี่ยนชีวิตคนหนึ่งคนได้จริง นี่คือเหตุผลที่เรากลับมาที่เมืองไทยทุกปี และขยายการเข้าถึงไปสู่เมืองสำคัญและประเทศอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างนักอ่านรุ่นใหม่ และทำให้การอ่านเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้”

Big Bad Wolf Books ใช้โมเดลธุรกิจที่แตกต่างจากงานหนังสือทั่วไป โดยคัดสรร หนังสือ remainder book หรือหนังสือคุณภาพที่พิมพ์เกินจำนวนจากสำนักพิมพ์ชั้นนำทั่วโลก มาจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่าปกสูงสุดถึง 95% ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความคุ้มค่า แต่ยังเป็นการสนับสนุน ความเท่าเทียมทางการอ่าน อย่างแท้จริง

พันธมิตรไทยร่วมผลักดันการอ่านให้เติบโตในสังคมไทย

ในประเทศไทย Big Bad Wolf Books ทำงานร่วมกับพันธมิตรคนสำคัญอย่าง Plan for Kids ผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่าย Thai Book United ซึ่งมีบทบาทในการคัดสรรหนังสือเด็ก หนังสือสองภาษา และหนังสือพัฒนาทักษะการเรียนรู้สำหรับเด็กทุกวัยเข้าสู่งาน เพื่อสนับสนุนให้ครอบครัวไทยสามารถสร้าง “มุมหนังสือในบ้าน” ได้อย่างเข้าถึงและมีคุณภาพ

พร้อมกันนี้ยังได้รับความร่วมมือจาก Silkworm Books สำนักพิมพ์อิสระชั้นนำของไทย ที่มีบทบาทสำคัญในการคัด เลือก หนังสือดีจากสำนักพิมพ์ไทยมาร่วมจำหน่ายในราคาพิเศษภายในงาน ด้วยเป้าหมายร่วมกันในการเปิดพื้นที่ให้หนังสือภาษาไทยและเนื้อหาจากผู้ผลิตในประเทศมีส่วนร่วมในเทศกาลระดับนานาชาติ และทำให้หนังสือภาษาไทยได้เดินทางไปสู่ผู้อ่านในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
ริสรวล อร่ามเจริญ กรรมการผู้จัดการ Plan for Kids กล่าวว่า “เราเชื่อว่าการอ่านคือกุญแจที่เปิดโลกให้เด็กทุกคน ไม่ใช่แค่ในห้องเรียน แต่ในทุกช่วงเวลาของชีวิต และ Big Bad Wolf Books คือโอกาสให้ครอบครัวไทยได้สร้างมุมหนังสือในบ้านในราคาที่จับต้องได้ การมีหนังสืออยู่ใกล้ตัวตั้งแต่วัยเยาว์คือการวางรากฐานความคิดและจินตนาการที่มั่นคง และยิ่งเราเปิดพื้นที่ให้เด็กได้เลือกอ่านด้วยตัวเองมากเท่าไร เราก็ยิ่งปลูกฝังความรักในการเรียนรู้ที่เติบโตไปพร้อมกับพวกเขา”

ตรัสวิน จิตติเดชารักษ์ ผู้อำนวยการสำนักพิมพ์ Silkworm Books และ เลขาธิการสมาคมผู้พิมพ์หนังสือแห่งอาเซียน กล่าวว่า “การที่ Big Bad Wolf Books กลับมาอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ไม่ใช่เพียงการจำหน่ายหนังสือราคาย่อมเยา แต่คือการขยายโอกาสการอ่านให้เข้าถึงผู้คนในวงกว้าง และทำให้การอ่านกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตอย่างแท้จริง งานนี้ยังเป็นเทศกาลหนังสือที่สำคัญที่เชื่อมโยงหนังสือจากทั่วโลกสู่นักอ่านตัวจริงและนักอ่านรุ่นใหม่ รุ่นเยาว์ อีกทั้งช่วยเติมพลังให้กับระบบนิเวศของวงการหนังสือให้เติบโตอย่างมีชีวิตชีวา”

สัมผัสพลังของหนังสือกับประสบการณ์ในแบบที่คุณไม่เคยเจอ

Big Bad Wolf Books 2025 ครั้งนี้ ไม่เพียงเต็มไปด้วยหนังสือคุณภาพทุกหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ นิทาน วรรณกรรมเด็ก วัยรุ่น นิยาย แฟนตาซี ธุรกิจ การตลาด พัฒนาตนเอง ประวัติศาสตร์ งานออกแบบ ท่องเที่ยว ศิลปะ สถาปัตยกรรม ดีไซน์ ไปจนถึง cookbooks หนังสือวิชาการ หนังสือสะสมหายาก และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ยังมาพร้อม กิจกรรม Family Reading Zone, มุมคัดหนังสือแนะนำโดยนักอ่าน, สินค้าพิเศษจากแบรนด์ Big Bad Wolf และความสะดวกในการเดินทางด้วย รถไฟฟ้าสายสีชมพู ลงสถานีเมืองทองธานี (MT02)  ที่เชื่อมถึงพื้นที่จัดงานโดยตรง

พบกันที่งาน Big Bad Wolf Books 2025 ตั้งแต่วันที่ 7–17 สิงหาคม 2568 เวลา 10:00–22:00 น. ณ อิมแพ็ค ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี  ติดตามข่าวสาร กิจกรรม และโปรโมชั่นได้ทาง Facebook: Big Bad Wolf Books , Instagram: @BigBadWolfBooks_th และ TikTok: @BigBadWolfbooks_th