พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงเป็นองค์ประธานในงานมหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2568 ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี
การนี้ ทอดพระเนตรวีดิทัศน์ "กองทุนแม่ของแผ่นดิน ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 อ้อมกอดของแม่" ซึ่งนับเป็นวาระสำคัญยิ่งที่การดำเนินงานกองทุนแม่ของแผ่นดินได้ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 แห่งการขับเคลื่อนภารกิจด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในระดับหมู่บ้านและชุมชน ตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 ตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา กองทุนแม่ของแผ่นดินได้เดินหน้าสร้างความเข้มแข็งให้แก่หมู่บ้าน และชุมชนทั่วประเทศในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ส่งผลให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถจัดการปัญหายาเสพติดด้วยแนวทางสันติวิธี มีการส่งเสริมการประกอบสัมมาชีพตามความถนัด รวมทั้งมีการดูแลช่วยเหลือ ให้โอกาสผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ให้กลับเข้ามาอยู่ร่วมกันในหมู่บ้าน/ชุมชนด้วยความสงบสุข ควบคู่การจัดระบบกลไกการเฝ้าระวัง ตรวจตรา ให้ประชาชนเกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
โอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระราชดำรัสใจความสำคัญว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในงานมหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดินประจำปี ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รวมทั้งทุกคน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจัดขึ้นในวันนี้ ข้าพเจ้ามีความชื่นชมอย่างยิ่งที่ได้ทราบจากรายงานว่า กองทุนแม่ของแผ่นดินก้าวขึ้นสู่ทศวรรษที่สามอย่างมั่นคง และยังคงมุ่งมั่นที่จะสนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยสันติวิธีอย่างเต็มกำลังความสามารถ แนวทางการดำเนินงานของกองทุนที่เป็นการสนับสนุนให้เกิดขวัญและกำลังใจ ตลอดจนเสริมสร้างความรักความเข้าใจของคนในชุมชนนั้น นับเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้าพเจ้าจึงขอร่วมยินดีกับทุกท่านในความสำเร็จครั้งนี้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขอชื่นชมยินดีกับสมาชิกหมู่บ้านและชุมชนทุกแห่ง ที่ได้เข้าร่วมโครงการและมาทำงานเพื่อแผ่นดินร่วมกัน หวังว่าทุกท่านจะร่วมแรงร่วมใจกันสร้างชุมชนของตนให้ยิ่งมั่นคง เข้มแข็ง เพื่อให้สังคมและประเทศชาติปลอดพ้นจากปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนตลอดไป ในพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขออวยพรให้ทุกท่านที่มาร่วมพิธีนี้ มีความเจริญสวัสดีพร้อมทั้งความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาโดยทั่วกัน”
จากนั้นพระราชทานเงินขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดิน แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตามลำดับ เมื่อเสร็จแล้วพระราชทานพระราชดำรัสแก่ผู้ร่วมงาน
ต่อมาเสด็จฯ ไปยังบริเวณจัดนิทรรศการฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการต่างๆ ดังนี้ นิทรรศการผลการดำเนินงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นิทรรศการผลการดำเนินงานของหมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดิน และ นิทรรศการ 12 พื้นที่นำร่องเพื่อถ่ายทอดพระมหากรุณาธิคุณตลอดจนการทำงานอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 20 ปี ด้วยความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและสร้างพลังความร่วมมือจากคนในชุมชนและหมู่บ้านทั่วประเทศให้ห่างไกลจากปัญหายาเสพติด
กองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2568 มีหน่วยงานเข้าร่วมจำนวน 1,528 แห่ง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้แทนเข้ารับพระราชทาน พร้อมผู้แทนภาคประชาชนกองทุนแม่ของแผ่นดินจากทั่วประเทศเข้าร่วม ปัจจุบันมีหมู่บ้านชุมชนที่เข้าร่วมโครงการกองทุนแม่ของแผ่นดิน รวมทั้งสิ้น 28,646 แห่ง ส่งผลให้มีจำนวนหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินทั่วราชอาณาจักรรวมทั้งสิ้น 30,174 แห่ง ซึ่งนับเป็นการดำเนินงานเชิงคุณภาพ ที่เห็นผลเป็นรูปธรรม โดย สำนักงาน ป.ป.ส. มุ่งหวังให้การจัดงานมหกรรมในครั้งนี้ เป็นเวทีสำหรับการเสริมสร้างพลังใจ การสร้างเครือข่าย และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างภาคีเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินทั่วประเทศ อันจะนำไปสู่การเสริมสร้างความอบอุ่นในสถาบันครอบครัว และความเข้มแข็งของชุมชน เพื่อการขจัดปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี