มธ.จับมือ สสส.แถลงความสำเร็จกิจกรรม TU Future Wellness Fit Journey : เส้นทางสายฟิต พิชิตสุขภาพดี โชว์ผลงานเฟสแรกมีผู้เข้าร่วมกว่า 100 คน ชี้! หลังจบกิจกรรมพฤติกรรมเปลี่ยนชัด ทั้งการออกกำลังกาย การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และการจัดสรรเวลาพักผ่อน พร้อมเดินหน้าขยายผล เป็นต้นแบบการสร้างเสริมสุขภาวะในสถานศึกษาและต่อยอดในระดับสังคม หนุนพลังนักศึกษาและเครือข่ายขับเคลื่อน “มหาวิทยาลัยสุขภาวะดีแห่งอนาคต”
15 สิงหาคม 2568 เวลา 9.00 น. ณ โรงภาพยนตร์วารสารศาสตร์ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงานแถลงข่าวภาพความสำเร็จกิจกรรม TU Future Wellness Fit Journey : เส้นทางสายฟิต พิชิตสุขภาพดี ภายใต้ “โครงการมหาวิทยาลัยสุขภาวะดีแห่งอนาคต” ดึงพลังนักศึกษาและบุคลากรในสถาบันการศึกษาหันมาดูแลสุขภาพเชิงรุก ช่วยลดพฤติกรรมที่เป็นปัจจัยเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และปัญหาสุขภาพจิตจากความเครียด ด้วยการสร้างความรู้ความเข้าใจด้านสุขภาวะและการ ออกกำลังกาย โดยมี รองศาสตราจารย์ นายแพทย์พฤหัส ต่ออุดม รองอธิการบดีฝ่ายบริหารศูนย์สุขศาสตร์ ประธานกรรมการอำนวยการมหาวิทยาลัยสุขภาวะดีแห่งอนาคต พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธันยพร สุนทรธรรม หัวหน้าโครงการมหาวิทยาลัยสุขภาวะดีแห่งอนาคต ร่วมในงาน
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์พฤหัส ต่ออุดม รองอธิการบดีฝ่ายบริหารศูนย์สุขศาสตร์ ประธานกรรมการอำนวยการมหาวิทยาลัยสุขภาวะดีแห่งอนาคต กล่าวว่า จากการสำรวจที่ผ่านมาพบว่า สุขภาวะของนักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีแนวโน้มที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะเรื่องพฤติกรรมเนือยนิ่ง การใช้ชีวิตแบบนั่งติดหน้าจอ การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอและการบริโภคที่ไม่เหมาะสมซึ่งสะท้อนออกมาในข้อมูลสุขภาพของกลุ่มเป้าหมาย โดยผลสำรวจของโครงการเมื่อปีที่ผ่านมาพบว่า กว่าร้อยละ 60 ของนักศึกษาและบุคลากรมีระดับกิจกรรมทางกายต่ำกว่าค่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ขณะที่อีกกว่าร้อยละ 40 มีความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และน้ำหนักเกิน ซึ่งถือเป็นสัญญาณเตือนของระบบสุขภาพใน รั้วมหาวิทยาลัยที่ต้องการการดูแลแก้ไขอย่างเป็นระบบ
ทั้งนี้คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มุ่งมั่นพัฒนาให้มหาวิทยาลัยเป็นมากกว่าสถานที่ผลิตความรู้ ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีเพื่อพัฒนาคนอย่างสมดุลรอบด้าน เป็นที่มาของโครงการมหาวิทยาลัยสุขภาวะดีแห่งอนาคต มีการวางระบบสนับสนุนสุขภาวะที่ยั่งยืนผ่านกิจกรรมหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือกิจกรรม Fit Journey ที่เน้นการดูแลสุขภาวะทางกายของนักศึกษา คณาจารย์ และบุคลากร โดยมีนักวิทยาศาสตร์การกีฬา จากคณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้ามาช่วยออกแบบโปรแกรมการ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นรายบุคคล และมีนักโภชนาการของ Well Being Center กองกิจการนักศึกษามาให้ความรู้เรื่องการวางแผนโภชนาการ โดยมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เห็นพัฒนาการของตนเองและได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องตามหลักวิชาการอย่างเป็นระบบ เชื่อมั่นว่าการส่งเสริมให้นักศึกษาและบุคลากรมีสุขภาวะที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจจะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมได้อย่างมีคุณภาพตามแนวทางที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ยึดมั่นเสมอมา
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธันยพร สุนทรธรรม หัวหน้าโครงการมหาวิทยาลัยสุขภาวะดีแห่งอนาคต กล่าวว่า โครงการมหาวิทยาลัยสุขภาวะดีแห่งอนาคต มุ่งส่งเสริมให้ธรรมศาสตร์เป็นมหาวิทยาลัยที่ดูแลคนอย่างรอบด้าน ทั้งนักศึกษา อาจารย์ และบุคลากรต่างเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศเดียวกัน และสุขภาวะของแต่ละคนย่อมส่งผลต่อกันและกัน กิจกรรม Fit Journey จึงเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีปัญหาสุขภาวะทางกายได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ ทั้งด้านการออกกำลังกาย โภชนาการ และพฤติกรรมสุขภาพ ขณะเดียวกันผู้ที่ไม่มีปัญหาสุขภาพก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้เพื่อเรียนรู้วิธีดูแลสุขภาพที่เหมาะสมกับตนเอง และต่อยอดองค์ความรู้ไปสู่บุคคลอื่นในครอบครัวหรือในหน่วยงานที่สังกัด ถือเป็นการสร้าง 'เครือข่ายผู้นำสุขภาวะ' ในระดับมหาวิทยาลัย โดยเฟสแรกมีผู้สมัครเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 120 คน และเต็มภายใน 1 วัน ซึ่งสะท้อนว่าผู้คนกำลังมองหาพื้นที่และโอกาสในการดูแลสุขภาพของตนเองอย่างจริงจัง ยิ่งไปกว่านั้นผู้เข้าร่วมทั้ง 120 คน ได้ให้ความร่วมมือทำกิจกรรมตั้งแต่ต้นจนจบในระยะเวลา 3 เดือน และเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายสม่ำเสมอ การเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ หรือแม้แต่การจัดสรรเวลาพักผ่อนและลดพฤติกรรมเสี่ยง ผ่านกิจกรรมจับกลุ่มผู้เข้าร่วมกิจกรรมกับผู้ดูแลสุขภาพ (Trainer) โดยมีการติดตามผลการปฏิบัติตามแผนสุขภาพอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ผ่านระบบออนไลน์ มีการบันทึกและประเมินข้อมูลสุขภาพเพื่อปรับแนวทางการดูแลสุขภาพรายบุคคลอย่างเหมาะสม
จากการติดตามประเมินผลกิจกรรมระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม ถึงวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568 พบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 120 คน มีน้ำหนักเฉลี่ยก่อนเข้าร่วมกิจกรรม 75.02 กิโลกรัม และมีน้ำหนักเฉลี่ยหลัง เข้าร่วมกิจกรรม 73.87 กิโลกรัม คิดเป็นน้ำหนักเฉลี่ยลดลง 1.15 กิโลกรัม (ลดลงร้อยละ 1.50 โดยเฉลี่ย) โดยสรุปภาพรวมหลังจบกิจกรรม ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถลดน้ำหนักเฉลี่ยได้ในระดับปลอดภัยภายในระยะเวลา 11 สัปดาห์ หลายคนแม้น้ำหนักเปลี่ยนแปลงไม่มากแต่มีแนวโน้มพัฒนาอย่างต่อเนื่องคาดว่าอาจเกิดจากกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้น ผลการประเมินยังระบุชัดว่ากิจกรรมนี้สามารถสร้างพฤติกรรมสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ จากการช่วยเหลือของเทรนเนอร์ที่คอยแนะนำและติดตามผลอย่างใกล้ชิดเป็นรายสัปดาห์
นางสาว ศศิร์อร เจือจันทร์ นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการเข้าร่วมโครงการนี้เพราะมีปัญหาน้ำหนักตัวเกินค่ามาตรฐาน และมีโรคประจำตัวคือภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ ทำให้เหนื่อยง่าย กังวลว่าออกกำลังกายหนักแล้วจะไม่ปลอดภัย แต่การเข้าร่วมโครงการทำให้ได้เรียนรู้วิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้องโดยคำนึงถึงข้อจำกัดด้านสุขภาพร่างกายและได้เข้าใจวิธีเลือกรับประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการนำไปปรับใช้ได้จริงไม่ยุ่งยาก ที่ผ่านมาสามารถลดน้ำหนักได้ในระยะเวลา 1 เดือน และคาดหวังว่าจะนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างต่อเนื่อง
นางสาว นฤภร ผลฉัตร นักประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ผู้เข้าร่วมโครงการ อีกท่านได้กล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพราะรู้สึกว่าสมรรถภาพร่างกายเริ่มถดถอยลงตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ที่ผ่านมาพยายามออกกำลังกายด้วยตัวเองแต่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะมีภาระงานและภารกิจส่วนตัวที่มากเป็นข้อจำกัด แต่การได้เข้าร่วมโครงการโดยมีเทรนเนอร์คอยให้คำแนะนำช่วยให้จัดสรรเวลาทำงานและการมีกิจกรรมทางกายได้อย่างเหมาะสม เป้าหมายที่แท้จริงไม่ใช่แค่ต้องการลดน้ำหนักแต่มุ่งหวังให้มีสุขภาพโดยรวมที่แข็งแรงมากขึ้นสามารถดูแลตัวเองได้อย่างต่อเนื่องตลอดไป ทั้งนี้มองว่าโครงการนี้ ทำให้ทุกคนได้เล็งเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เห็นว่าการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อการมีสุขภาพดีเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ โดยเริ่มจากการปรับที่ใจของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก
กิจกรรม TU Future Wellness Fit Journey : เส้นทางสายฟิต พิชิตสุขภาพดี ภายใต้โครงการมหาวิทยาลัยสุขภาวะดีแห่งอนาคต เกิดขึ้นจากการสนับสนุนของสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มีพันธกิจหลักในการขับเคลื่อนสังคมไทยให้เป็นสังคมสุขภาวะ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคการศึกษาที่มีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้การดูแลตนเองอย่างถูกต้อง การได้เข้ามาร่วมสนับสนุนโครงการมหาวิทยาลัยสุขภาวะดีแห่งอนาคตของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาการส่งเสริมสุขภาวะในมหาวิทยาลัยให้เป็นองค์กรสุขภาวะที่มีคุณภาพได้อย่างแท้จริง และคาดหวังว่ากิจกรรมนี้จะขยายผลออกไปเป็นต้นแบบของการสร้างเสริมสุขภาวะในสถาบันการศึกษาอื่นๆและต่อยอดไปยังสังคมในวงกว้างได้ต่อไป
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี