สองนักวิจัยจากประเทศไทยสร้างชื่อบนเวทีนานาชาติ อาจารย์ศีตลา นาคแก้ว และ อาจารย์เรวัติ นาคแก้ว อาจารย์พิเศษผู้ทรงคุณวุฒิ โรงเรียนสุคนธีรวิทย์ และผู้บริหารบริษัท แพลนท์ รีเซิร์ฟ จำกัด คว้ารางวัลรางวัลเหรียญทอง Gold Medal for The Invention และรางวัล For The Excellent Invention จากการประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมระดับนานาชาติ Japan, Design Idea and Invention Expo (JDIE) 2025 ที่จัดขึ้ โดย World Invention Intellectual Property Associations ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จากโครงการวิจัยออยล์ใจ "อ่อนโยนต่อพืช อ่อนโยนต่อหัวใจ และปลอดภัยต่อโลก" (Oil Jai: Soft for your plants, kind to your heart, safe for the earth)
อ.ศีตลา และ อ.เรวัติ นาคแก้ว
ทั้งนี้ โครงการวิจัยดังกล่าวได้รับประกาศนียบัตรแสดงความยินดีกับนักประดิษฐ์และนักวิจัยไทยที่ได้รับรางวัลจากเวทีนานาชาติ (Internationally Outstanding Inventors Awards Ceremony) จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งจัดโดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
อาจารย์เรวัติ นาคแก้ว เล่าว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การสอนต้องเปลี่ยนเป็นออนไลน์ เวลาว่างที่มากขึ้นทำให้ตัวเองมีเวลามาดูแลสวนมะนาวขนาด 10 ไร่ของครอบครัว ซึ่งกำลังมีแนวโน้มว่าจะเลิกกิจการแล้ว และได้เริ่มศึกษาหาข้อมูลและทำการทดลองจนสามารถทำ “มะนาวนอกฤดู” ได้สำเร็จ และหลังจากการศึกษาผลงานวิจัยจำนวนมาก อ.เรวัติ ค้นพบว่า พืชในแต่ละช่วงวัยต้องการปุ๋ยและแร่ธาตุในอัตราส่วนที่ต่างกัน เช่น ช่วงบำรุงต้น ต้องการธาตุอาหารเพื่อเสริมความแข็งแรง หรือช่วงขยายผลหรือออกดอก ต้องการธาตุอาหารอีกแบบเพื่อกระตุ้นการออกดอกและติดผล
องค์ความรู้เหล่านี้ได้ถูกนำมาขยายผลกับสวนกุหลาบ ซึ่ง อาจารย์เรวัติ ปลูกไว้ภายในรั้วบ้านอยู่แล้ว จนได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลพืชที่มีจุดเด่นคือ 1. ปุ๋ยสูตรเฉพาะสำหรับกุหลาบที่ปรับให้เหมาะกับภูมิอากาศไทย 2. ปุ๋ยสูตรที่ออกแบบให้เหมาะกับจังหวะการเจริญเติบโต 3. ปุ๋ยสูตรดูแลเฉพาะส่วน เช่น ราก ดอก และยอด 4. ปุ๋ยสูตรแก้ปัญหาเฉพาะจุด เช่น การฟื้นฟูรากที่กระเทือนจากการย้ายกระถาง หรือเร่งการแตกยอด
ทั้งหมดนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า เกษตรกรรมคือวิทยาศาสตร์และเป็นจุดกำเนิด "ออยล์ใจ" อ่อนโยนต่อพืช อ่อนโยนต่อหัวใจ และปลอดภัยต่อโลก (Oil Jai: Soft for your plants, kind to your heart, safe for the earth)
“แนวคิดของโครงงานวิจัย “ออยล์ใจ” เริ่มต้นมาจากสมาชิกกลุ่มคนรักกุหลาบที่ใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงนำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งได้ผลดีแต่มีราคาสูง ซึ่งปิโตรเลียมออยล์มีข้อจำกัด คือต้องฉีดพ่นเฉพาะตอนมีแสงแดด ไม่เช่นนั้นใบไม้จะไหม้
จากกายวิภาคของแมลง จะมีท่อลมสำหรับหายใจเปิดอยู่บนผิวแมลง ทั้ง อาจารย์ศีตลา และ อาจารย์เรวัติ จึงคิดวิธี "ใช้น้ำมันอุดท่อหายใจ" ทำให้แมลงไม่สามารถหายใจได้ จากนั้นจึงคัดเลือกกรดไขมันที่เหมาะสมกับภูมิอากาศไทย จนได้ปุ๋ยสูตรที่สามารถพ่นได้ในช่วงแดดร่มหรือยามค่ำ โดยไม่ทำให้ใบไม้ไหม้และอ่อนโยนต่อพืช ที่สำคัญคือ วัตถุดิบทั้งหมด เป็นเกรดเดียวกับที่ใช้ในอาหารและเครื่องสำอาง เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเลือกส่วนผสมที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ
องค์ความรู้เหล่านี้ได้ผสานด้านวิทยาศาสตร์และประสบการณ์ภาคสนามที่เข้มข้น จนได้รับการยอมรับจากเวทีนานาชาติดังกล่าวข้างต้น ซึ่งเมื่อได้นำเสนอผลงานออกไปก็ทำให้นักเรียนของทั้งสองอาจารย์ได้เห็นอย่างชัดเจนว่า "เราศึกษาวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แค่ในห้องเรียน แต่เพื่อนำไปสร้างประโยชน์จริงต่อชีวิตและสังคม"
อาจารย์เรวัต นาคแก้ว จบระดับมัธยมศึกษาจากพระประฐมวิทยาลัย จังหวัดนครปฐม และจบระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม สาขาปิโตรเคมี ม.ศิลปากร (ได้รับทุนภูมิพล ประเภทเรียนดี) ปัจจุบันเป็นอาจารย์พิเศษผู้ทรงคุณวุฒิที่โรงเรียนสุคนธีรวิทย์ (สอนวิชาเคมี) และผู้บริหารบริษัท แพลนท์ รีเซิร์ฟ จำกัด บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายปุ๋ยพร้อมใช้สำหรับผู้ที่รักการปลูกต้นไม้ซึ่งต้องการปุ๋ยที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ร่วมกับภรรยา อาจารย์ศีตลา นาคแก้ว จบระดับมัธยมศึกษาจากมหิดลวิทยาณุสรณ์ จังหวัดนครปฐม และจบระดับปริญาตรี ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ม.ศิลปากร ปัจจุบันเป็นอาจารย์พิเศษผู้ทรงคุณวุฒิที่โรงเรียนสุคนธีรวิทย์ (สอนวิชาชีววิทยา)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี