ท้องฟ้ายามเช้าของกรุงเทพฯ ในวันแม่แห่งชาติปีนี้ ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันของเสื้อวิ่ง เสียงเชียร์ และรอยยิ้มของนักวิ่งทั้งไทยเทศกว่า 7,000 คน ที่มารวมตัวกัน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในงาน “12 สิงหา ฮาล์ฟ มาราธอน กรุงเทพฯ 2025” ครั้งที่ 30 งานวิ่งเพื่อแม่ ที่จัดต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทย โดยบริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการรวมพลังเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 93 พรรษา ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ตลอด 3 ทศวรรษ งานวิ่งเพื่อแม่นี้ไม่เพียงแต่เป็นสนามวิ่งที่ท้าทาย แต่ยังเป็นเวทีแห่งการแสดงความรักความผูกพันในครอบครัว โดยใช้โอกาสพิเศษของวันแม่ ในการทำกิจกรรม “วิ่งเพื่อแม่” ร่วมกัน ในครอบครัว ซึ่งเป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์หลักในการจัดงานตลอด 30 ปีที่ผ่านมา คือเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่อบอุ่นในครอบครัว ตลอดจนส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้แก่คนกรุง โดยรายได้ หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด มอบให้ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ (เพื่อมะเร็งเต้านม) และ สภากาชาดไทยในทุก ๆ ปี
บรรยากาศงานวิ่งเริ่มด้วยพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตามด้วยพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ และปล่อยตัววิ่งในระยะต่า ๆ ทั้งหมด 4 ระยะ ได้แก่ ระยะ 21.1 กม., 10 กม., 6 กม. และสำหรับระยะ 1.8 กม. มีศิลปินจาก GMMTV ได้ร่วมเดิน-วิ่งการกุศล โดยในทุกๆ รอบของการวิ่ง ผู้จัดงานจะบริจาค 10,000 บาท ให้แก่ “ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ” สภากาชาดไทย
แต่สิ่งพิเศษที่มากกว่าการวิ่งคือทุกคนที่เข้าเส้นชัยได้รับเหรียญที่ระลึกออกแบบเฉพาะปี 2025 เป็นรูปพวงมาลัยดอกมะลิ และดอกมะลิสด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความกตัญญูต่อแม่ สำหรับนักวิ่งที่ทำเวลาสุดยอดในแต่ละรุ่นยังได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานซึ่งถือเป็นเกียรติสูงสุด และพิเศษในโอกาสฉลองครบรอบ 30 ปี ทางคณะผู้จัดงานยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่สามารถมาร่วมในสถานที่จริงวิ่งผ่าน Virtual Run สะสมระยะจากที่ใดก็ได้ และบริการถ่ายภาพอัตโนมัติ Fotobots X Fast Upload ที่ใช้เทคโนโลยี AI อัปโหลด ภาพทันที ทำให้ทุกความประทับใจถูกแชร์ต่อในโลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว
สุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า “ปีนี้เป็นปีที่พิเศษ อย่างมากที่เราได้ฉลองครบรอบ 30 ปี ของงาน 12 สิงหา ฮาล์ฟมาราธอน กรุงเทพฯ หรือ ‘Run For Mom’ ซึ่งถือเป็นงานวิ่งเพื่อแม่ที่จัดต่อเนื่องและยาวนานที่สุดในประเทศไทย เราจึงตั้งใจมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้เข้าร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้ง Mom Run Club การเปิดโอกาสให้นักวิ่งได้วิ่งผ่าน Virtual Run รวมถึงการนำระบบ AI มาใช้ในการถ่ายภาพให้นักวิ่งทันที ปีนี้เรามีนักวิ่งกว่า 7,000 คน ซึ่งเกินความคาดหมายอย่างมาก สะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันของผู้คนที่มีต่องานนี้ สำหรับผม ความสำเร็จครั้งนี้ไม่ได้วัดแค่ตัวเลขนักวิ่ง แต่คือการได้เห็นคนทุกเพศทุกวัยมาร่วมวิ่ง สร้างบรรยากาศแห่งความสุขและความอบอุ่นอย่างแท้จริง ทำให้งานนี้ไม่เพียงเป็นงานวิ่งในตำนาน แต่ยังเป็นเวทีรวมพลังรักในครอบครัวที่นักวิ่งมืออาชีพ มือใหม่ เซเลป และคนดัง ต่างตั้งตารอคอย และไม่พลาดทุกปี”
ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “งานวิ่งเพื่อแม่ถือเป็นงานวิ่งประจำปีที่นักวิ่งต้องมาทุกปี และถือเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ที่ท่านทรงพระราชกรณียกิจมาอย่างยาวนาน ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่ดี เพราะทำให้ได้มาออกกำลังกายเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี และเป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ กทม. ที่พยายามจัดพื้นที่สาธารณะที่มีคุณภาพให้ดีที่สุด และมีกิจกรรมกีฬาต่าง ๆ เพื่อให้คนได้มีกิจกรรมร่วมกัน”
พบกันอีกครั้งปีหน้ากับ “12 สิงหา ฮาล์ฟ มาราธอน กรุงเทพฯ 2026” ครั้งที่ 31 ในบรรยากาศแห่งความรักและความอบอุ่นเช่นเคย ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี