SIAMJNK รับรางวัล ‘PRIX D’EXCELLENCE’ จาก FIABCI พร้อมสยายปีกอาเซียน

SIAMJNK รับรางวัล ‘PRIX D’EXCELLENCE’ จาก FIABCI พร้อมสยายปีกอาเซียน

วันเสาร์ ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 21.40 น.

SIAMJNK ผู้บริหารคลังสินค้าภายใต้คอนเซ็ปต์ “The First Boutique Warehouse in Thailand”  ด้วยการเปิดพื้นที่ส่วนที่ดีที่สุดของโครงการเป็น WLUBHOUSE   รองรับผู้เช่าที่ต้องการพื้นที่ส่วนกลางเพื่อการรองรับกิจกรรมขององค์กร สร้างมิติใหม่ให้กับธุรกิจคลังสินค้าให้เช่า ล่าสุดด้วยคอนเซ็ปต์การออกแบบดังกล่าวส่งให้  WLUBHOUSE ได้รับรางวัล PRIX D’EXCELLENCE ประเภทคลังสินค้านวัตกรรมและบูทีค จาก FIABCI สมาคมอสังหาริมทรัพย์สากล ที่ได้รับการยอมรับจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จาก 90 ประเทศทั่วโลก พร้อมตั้งเป้าสยายปีกสู่อาเซียนภายใน 3 ปี 


นายธิติ  คัณธามานนท์ ประธานบริหาร SIAMJNK Group เปิดเผยว่า WLUBHOUSE ถือเป็นนวัตกรรมสำคัญของการให้บริการคลังสินค้าที่เกิดขึ้น จากการตกผลึกประสบการณ์บริหารคลังสินค้ากว่า 25 ปี ทำให้ทราบความต้องการผู้เช่าใน 3 ประเด็นหลัก คือ Location , Security , Facilities และยังเติมเต็ม Passions ด้วย Design ที่เปลี่ยนภาพจำคลังสินค้าไปจากเดิม พร้อมบริการที่ยืดหยุ่นตามความต้องการของผู้เช่า   เพื่อสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างมีคุณภาพชีวิต ทำให้ SIAMJNK   เป็นผู้บริหารคลังสินค้าที่เข้าถึงใจผู้เช่าได้มากกว่า  ด้วยขนาดถนนเข้า-ออกโครงการที่มีความกว้างรองรับรถเทรลเล่อร์ สามารถเข้าออกได้ตลอด 24 ชั่วโมง ระบบรักษาความปลอดภัยด้วยระบบกล้องวงจรปิดมาตรฐานบริการระดับสากล อีกทั้งภายในโครงการยังออกแบบให้มีร้านอาหารระดับพรีเมี่ยมริมน้ำเจ้าพระยา เพิ่มพื้นที่สันทนาการ และรับรองแขกพิเศษของผู้เช่า เฉพาะอย่างยิ่งอาคาร Clubhouse ที่เป็นเหมือน Landmark ของคลังสินค้า โดดเด่นด้วยคอนเซปต์และการออกแบบ ช่วยสะท้อน Entrepreneurial society ของผู้เช่าให้แตกต่างชัดเจนยิ่งขึ้น 

การนำร่องด้วย Concept Idea ที่ฉีกกฎของคลังสินค้าแบบเดิมทิ้งอย่างสิ้นเชิงนี้เอง SIAMJNK ยังได้มุ่งสู่ความเป็นเลิศด้วยบริการช่วยเหลือผู้เช่าในการออกแบบจัดวางผังเก็บสินค้าโดยวิศวกรอาชีพผ่านกระบวนการ Work study ตัวช่วยผู้เช่าในการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งบริการฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานครให้กับผู้เช่าเป็นประจำทุกปี รวมถึงจัดชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นไว้สำหรับผู้เช่าทุกยูนิต นอกจากนี้ยังมีบริการรถโฟล์คลิฟท์สำหรับผู้เช่าในโครงการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย  และยังมีบริการแจ้งซ่อมผ่านระบบ Dotify ช่วยให้ผู้เช่าติดตามการซ่อมแซมแบบ Realtime นับเป็นการเติมเต็มความต้องการให้กับผู้เช่าจากผู้บริหารคลังสินค้ามืออาชีพอย่างแท้จริง  

“การได้รับรางวัล PRIX D’EXCELLENCE จาก FIABCI เหมือนเป็นการตอกย้ำว่า วิสัยทัศน์ที่เราบุกเบิกมาในฐานะผู้บริหารคลังสินค้า  ด้วยนวัตกรรม WLUBHOUSE ซึ่งจริงๆ แล้ว คือพื้นที่ส่วนกลางที่มาช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับผู้เช่า เขาสามารถรับรองแขกสำคัญ จัดกิจกรรมทางการตลาดได้แม้จะอยู่ในคลังสินค้า รางวัลดังกล่าวจึงทำให้ SIAMJNK ไม่ใช่เพียงผู้บริหารคลังสินค้า แต่เป็นผู้สร้างสรรค์พื้นที่สำหรับธุรกิจให้เติบโตอย่างมีศักยภาพ สะท้อนว่าแท้จริงแล้ว SIAMJNK ไม่ได้มองเพียงโครงสร้างอาคารที่เป็นคลังสินค้าแต่เรามองลึกเข้าไปที่ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป วันนี้ลูกค้าเหมือนพาร์ทเนอร์ที่จะเติบโต แข็งแรง เป็นคู่ค้า คู่คิดต่อกัน ผู้ประกอบการยุคใหม่ต้องการความยืดหยุ่นกับสภาพเศรษฐกิจที่มีความผันผวนเสมอ ต้องการสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีคุณภาพชีวิตที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจได้ ที่สำคัญต้องการพื้นที่ในการประกอบธุรกิจที่ช่วยลดต้นทุนเขาได้มากขึ้น”

นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ SIAMJNK มุ่งพัฒนาพื้นที่ ใจกลาง CBD เป็นคลังสินค้า ใน 7 ทำเลหลัก คือ สาทร-ถนนจันทน์ ,ราษฏร์บูรณะ,ลาดพร้าว 87 ,วิภาวดี- สุทธิสาร ,พระสมุทรเจดีย์ ,สำโรง และ Chinatown ทรงวาด ที่แต่ละทำเลมีระยะห่างจากทางด่วนและรถไฟฟ้าเฉลี่ยไม่เกิน 3 กิโลเมตร มีขนาดพื้นที่ใช้สอยยืดหยุ่นให้กับลูกค้า ตั้งแต่ 200 – 5,000  ตร.ม. โดยมีกลุ่มลูกค้าสำคัญยังคงเป็นกลุ่มธุรกิจระดับใหญ่ Corporate ที่มีความต้องการมาตรฐานคลังสินค้าการบริการคลังสินค้าระดับสากล ด้วยสัดส่วนอยู่ที่ 30% ของผู้เช่าทั้งหมด ตลอดจนผู้ประกอบการ SMEs ที่กำลังเติบโตมีความแข็งแรงเพียงพอต้องการคลังสินค้าที่มีมาตรฐานรองรับ และสุดท้ายคือกลุ่มผู้ประกอบการใหม่ในกลุ่มตลาดล่างถึงกลางที่เป็นกลุ่มผู้เช่า ที่เดิมมักมีคลังสินค้าย่อยตามอาคารพาณิชย์ โรงงานเก่าหรือคลังสินค้าขนาดเล็ก  กระจายตัวอยู่ทั่วเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล แต่วันนี้ต้องการทำเลเก็บสินค้าใจกลาง CBD ที่มีระบบมาตรฐานรองรับ  โดยกลุ่มนี้มีสัดส่วนมากถึง 70% ของผู้เช่า ซึ่งนายธิติย้ำว่าวันนี้ยังไม่มีคลังสินค้าใจกลางเมืองใดมีศักยภาพเพียงพอเท่า SIAMJNK

นอกจากมาตรฐานการบริการคลังสินค้าที่ผู้เช่าเพียงแค่เก็บกระเป๋าก็เข้าใช้พื้นที่ได้เลยแล้ว การใช้ ระบบ Dotify มาช่วยในการแจ้งซ่อมของผู้เช่านี้เอง เป็นระบบที่อำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพความพึงพอใจของผู้เช่ามากยิ่งขึ้น เพราะระบบดังกล่าวจะช่วยจัดเก็บข้อมูลการซ่อม การบริการ อาทิ  การติดตามสถานะการซ่อมแซมของผู้เช่าสามารถทำได้แบบ Realtime  ซึ่งช่วยลดต้นทุนและสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที ช่วยเพิ่มความพึงพอใจของผู้เช่ายิ่งขึ้น รวมถึงการดำเนินนโยบาย Reduce, Reuse, Recycle, Renewable , Resposibilities ในการจัดการสิ่งแวดล้อม อาทิ การใช้ระบบ Solar Cell  และการเลือกใช้วัสดุในการก่อสร้างที่มีแหล่งกำเนิดจากการ Recycle หรือสามารถนำกลับมา Recycle ได้  ตลอดจนปลูกฝังจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อมให้กับผู้เกี่ยวข้องและชุมชนใกล้เคียง เป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จที่ทำให้ SIAMJNK ได้รับการรับรอง ISO 9001 และ ISO 14001 ในที่สุด 

“วันนี้เทรนด์ของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ กำลังพูดถึง ESG (Environment ,Social,Governance) เป็นแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนโดยไม่หวังผลกำไรเพียงอย่างเดียว  SIAMJNK เองได้ใช้หลักคิดดังกล่าวดำเนินธุรกิจมาต่อเนื่อง เราได้จัดสรรค์งบประมาณเพื่อคืนสู่สังคม ในรูปแบบทุนการศึกษาที่มอบให้กับโรงเรียนและมหาวิทยาลัยในชุมชนมาโดยตลอด การสนับสนุนกิจกรรมกีฬา และมอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยชั้นนำทุกปี เพราะมองเห็นความสำคัญของการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพและจริยธรรมเข้าสู่สังคม นี่เป็นส่วนหนึ่งของแนวทาง ESG ที่กำลังกลายเป็นเทรนด์ธุรกิจที่ SIAMJNK  ทำมาต่อเนื่อง วันนี้เราค่อนข้างภูมิใจที่มีส่วนกระตุ้นให้อุตสาหกรรมคลังสินค้าใน CBD คึกคักอย่างเห็นได้ชัด และผู้ให้บริการรายอื่นเริ่มหันมาให้ความสำคัญ ใส่ใจกับการออกแบบสถานที่  ทำเลที่ตั้งที่ช่วยลดต้นทุนบริหารแก่ผู้เช่า รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและงานบริการมากขึ้น” นายธิติกล่าว

 

ต่อสถานการณ์เศรษฐกิจและสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์โลกนั้น นายธิติได้พูดถึงแนวโน้ม โอกาสและความท้าทายของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของไทยว่า เศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะชะลอตัวต่อเนื่องทั้งจากปัญหาสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา - จีน ,การประกาศอัตราภาษีของสหรัฐอเมริกากับคู่ค้าที่ประเทศไทยเพิ่งได้บทสรุปที่ 19%   รวมถึงปัญหาสถานการณ์สงครามในแต่ละภูมิรัฐศาสตร์   ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการค้าโลก พฤติกรรมผู้บริโภค ราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มจะผันผวนยิ่งขึ้น ส่งกระทบโดยตรงต่อต้นทุนอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ จากการปรับเปลี่ยนเส้นทางการเดินเรือสินค้า  และการขนส่งทางอากาศที่ต้องหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงภัย  แต่ในวิกฤติดังกล่าวยังมีโอกาสสำหรับ อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของไทย 

ด้วยเหตุผลนี้เอง จะทำให้นักลงทุนทั้งในประเทศผู้ส่งออก และนำเข้าสหรัฐอเมริกาโยกย้ายฐานการผลิตครั้งสำคัญ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีพื้นฐานระบบสาธารณูปโภค และฐานแรงงานรองรับ   มีตัวแปรสำคัญคือกลุ่มทุนจีน และอินเดีย  สองประเทศผู้ผลิตสำคัญของโลก ที่อัตราภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐอเมริกา ของจีนอยู่ที่ 30% ส่วนอินเดียขยับขึ้นไปแตะที่ 50%  ประกอบกับทำเลของไทยตั้งอยู่ใจกลางภาคพื้นอินโดจีน จะได้รับอานิสงส์นี้ไปด้วย ทั้งเป็นทำเลเก็บสินค้าเพื่อการกระจายสู่ภูมิภาค หรือการลงทุนตั้งฐานการผลิตเพื่อส่งต่อ  คู่ขนานกับเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทยที่มีเป้าหมายเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายใน 10 ปีนี้  จะยิ่งช่วยทำให้ต้นทุน Logistic ของไทยลดลง ฉายภาพของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยเฉิดฉายยิ่งขึ้นในภูมิภาคอาเซียน 

สำหรับภายในประเทศไทยเอง แม้ภาพรวมดูเหมือนว่าเศรษฐกิจจะดูชะลอตัว แต่อานิสงส์การย้ายฐานการผลิต ส่งผลถึงไทยโดยตรงต่ออุตสาหกรรมโลจิสติกส์  ในฐานะกลุ่มประเทศผู้นำของอาเซียน โดยมีแรงสนับสนุนจากภาคธุรกิจ E – commerce ที่มีการขยายตัวต่อเนื่องในรายที่สามารถแข่งขันได้ ,การย้ายฐานการผลิต และการเติบโตของสังคมเมือง การเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีโดยเฉพาะด้าน AI เป็นตัวเร่งให้

เกิดการพัฒนาคลังสินค้าให้มีมาตรฐาน ส่วนในรายที่มีความพร้อมในการพัฒนา นั้นเริ่มมองหาเทคโนโลยีมาใช้เพื่อลดต้นทุนและสร้างมาตรฐานให้ดียิ่งขึ้น ทิศทางหลักจะมีการเปลี่ยนผ่านจากคลังสินค้าแบบดั้งเดิมไปสู่คลังสินค้าสมัยใหม่ ส่วนความจำเพาะของตลาดคลังสินค้า ลูกค้าจะมีความต้องการพื้นที่คลังสินค้ามีความหลากหลาย มีความยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ความผันแปรทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคและสถานการณ์เศรษฐกิจ 

นี่จึงเป็นโอกาสสำคัญของ SIAMJNK ที่ได้วางตำแหน่งตัวเองไว้ชัดเจน ในฐานะผู้นำการเป็นผู้ให้บริการคลังสินค้ามาตรฐานสากลในพิกัดใจกลาง  CBD ของไทย ที่เข้าใจความต้องการผู้เช่า กำลังมองหาทำเลเติมเต็มสินค้าและบริการ  ให้เข้าถึงลูกค้าของตนอย่างทันท่วงที ด้วยประสบการณ์ที่ช่ำชองในการบริหารจัดการคลังสินค้าให้เช่าของ SIAMJNK นี้เอง นายธิติ จึงวางเป้าหมายว่าภายใน 3 ปีนี้ SIAMJNK น่าจะสยายปีกไปในภูมิภาคอาเซียน  ที่ล่าสุดได้มีการศึกษาตลาดคล้ายคลึงกับการขยายของสังคมเมืองกรุงเทพ อย่างสิงคโปร์ ที่มีพื้นที่จำกัดในชุมชนเมือง แต่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยี รวมถึงการสนับสนุนของภาครัฐให้เกิด Business Matching กับเวียดนาม ประเทศคู่ค้าที่มีอัตราการเติบโต GDP ร้อนแรงที่สุดของภูมิภาคอาเซียน ด้วยการเติบโตของสังคมเมืองที่ขยายในทุกทิศทุกทาง นั่นหมายความว่าที่นั่นต้องการระบบโลจิสติกส์ที่มีคุณภาพและมากประสบการณ์อย่าง SIAMJNK

-(016)

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top