‘กรมพระศรีสวางควัฒนฯ’ เสด็จทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์ พอ.สว. และพระราชทานถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัย

‘กรมพระศรีสวางควัฒนฯ’ เสด็จทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์ พอ.สว. และพระราชทานถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัย

วันจันทร์ ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2568, 14.26 น.

ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์ พอ.สว. และพระราชทานถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์


 

 

ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตาและทรงห่วงใยในทุกข์สุขของอาณาประชาราษฎร์อยู่เสมอ แม้ในห้วงเวลาที่ประเทศชาติต้องเผชิญกับสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบทั้งต่อความปลอดภัย และคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะปัญหาด้านสุขภาพของประชาชนผู้เจ็บป่วยที่ยากไร้และด้อยโอกาส รวมถึงประชาชนผู้ประสบภัยที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขได้ตามปกติ จึงได้พระราชทานการให้บริการตรวจสุขภาพและรักษาโรคแก่ประชาชนในพื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ภายใต้การดำเนินงานของหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) พร้อมทั้งพระราชทานถุงยังชีพเพื่อบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยจากสถานการณ์ดังกล่าว ระหว่างวันที่ 29-31 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา

 

เมื่อเสด็จไปถึงในแต่ละพื้นที่ที่ทรงงาน จะทรงเยี่ยมประชาชน พร้อมกับพระราชทานพระวโรกาสให้ผู้ป่วยที่มีฐานะยากจน ป่วยเป็นโรคเรื้อรังร้ายแรง และจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เฝ้า เพื่อขอรับพระราชทานความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที อาทิ โรคมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งสมอง โรคหลอดเลือดสมองตีบ โรคหนังแข็ง โรคหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิด โรคท่อน้ำดีตีบตัน ทั้งนี้ ทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระอนุเคราะห์ และโปรดให้ส่งต่อไปรักษายังโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ หรือ โรงพยาบาลอื่น ๆ ที่มีความพร้อมด้านอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย รวมถึงความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการดูแลผู้ป่วย เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพโดยเร็ว นอกจากนี้ ได้พระราชทานเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิจุฬาภรณ์แก่ผู้ป่วยในพระอนุเคราะห์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น

 

โอกาสนี้ พระราชทานพระวโรกาสให้ สมาชิก พอ.สว. ประจำจังหวัดที่ได้ปฏิบัติงานครั้งนี้ เฝ้า ซึ่งประกอบด้วย แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาลวิชาชีพ อาสาสมัครสายแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงอาสาสมัครสายสนับสนุน เพื่อพระราชทานเข็มเครื่องหมายกรรมการ อนุกรรมการ แก่ผู้แทนกรรมการ และอนุกรรมการ พอ.สว. ประจำจังหวัด พร้อมเบิกอาสาสมัคร พอ.สว. เข้ารับพระราชทานเข็มเครื่องหมาย พอ.สว. เข็มพระนามาภิไธยย่อ สว. และโล่ พอ.สว. ตามลำดับ

 

 

จากนั้น นายแพทย์ยุทธ โพธารามิก เลขาธิการ มูลนิธิ พอ.สว. นำอาสาสมัคร พอ.สว. ร่วมกันขับร้องเพลง “ใจดวงหนึ่ง” ที่ทรงพระนิพนธ์ โดยมีพระวินิจฉัยเลือกบทเพลงนี้ด้วยพระองค์เอง เพื่อถ่ายทอดถึงพระทัยอันแน่วแน่ที่ทรงมีต่อความรักชาติ พร้อมทรงมุ่งมั่นพิทักษ์ผืนแผ่นดินไทยให้ดำรงคงอยู่อย่างยั่งยืน ด้วยทรงเชื่อว่าใจทุกดวงของชาว พอ.สว. ก็เป็นดั่งบทเพลงนี้ที่พร้อมจะยืนหยัดปกปักรักษาชาติเช่นเดียวกัน พร้อมกันนี้ มีพระดำรัส ชื่นชมการปฏิบัติงานของคณะแพทย์และเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร มูลนิธิ พอ.สว. ทุกคนที่ได้อุทิศตนดูแลประชาชนผู้เจ็บป่วยเป็นอย่างดี

 

สำหรับการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. เป็นการสร้างสาธารณประโยชน์ด้านการส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้แก่ ประชาชนผู้เจ็บป่วยที่ยากไร้และด้อยโอกาสในท้องถิ่นที่ห่างไกลให้สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขขั้นพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง โดยโปรดให้หน่วยแพทย์ พอ.สว. ประจำจังหวัด ร่วมกับหน่วยแพทย์พระราชทานโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ผนึกกำลังร่วมกันปฏิบัติงานสนองพระปณิธานฯ ที่ครอบคลุมตั้งแต่การรักษาโรคทั่วไป การบริการด้านทันตกรรม บริการด้านการแพทย์แผนไทย ตลอดจนการให้คำแนะนำส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพเพื่อป้องกันโรค โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งนับตั้งแต่ที่ทรงดำรงตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) เมื่อปี พ.ศ.2552 เป็นต้นมา ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุขในการพระราชทานโอกาสและการเข้าถึงการรักษาพยาบาล การป้องกันโรค การส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพอนามัยของประชาชนชาวไทยที่เจ็บป่วยยากไร้ทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยทรงตระหนักดีว่าสุขภาพอนามัยที่ดีของประชาชน คือรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศชาติอย่างมั่นคงและยั่งยืน

 

 

 

 

 

นอกจากนี้ พระราชทานถุงยังชีพจากสำนักกิจกรรมพิเศษ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ หน่วยงานในพระดำริฯ ซึ่งประกอบด้วยเครื่องอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต จังหวัดละ 100 ชุด แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด แม่ทัพภาคที่ 2 และผู้แทนหน่วยทหาร ตำรวจ ที่พิทักษ์รักษาความสงบเรียบร้อยในเขตพื้นที่ชายแดน พร้อมทั้งพระราชทานพระดำรัสเพื่อเป็นการบำรุงขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละปกป้องอธิปไตยของชาติ และพระราชทานพรแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนทุกคน โดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า “ขอฝากทุก ๆ คน ช่วยดูแลราษฎร ถ้ามีโอกาสมาก็จะมา ท้ายสุดนี้ พี่ก็ขออวยพรให้ท่านผู้ว่าฯ ท่านแม่ทัพและทหารที่มา ณ ที่นี้ ขอให้มีจิตใจที่เข้มแข็งและเป็นที่พึ่งของราษฎร ...ขอให้ทุกคนทำงานด้วยความปลอดภัย รวมทั้งทหารที่ไม่ได้มาที่นี่ ก็ขอให้พรของพี่ไปถึงทุกคน...”

 

 

 

จากพระกรุณาธิคุณในการพระราชทานความช่วยเหลือทั้งด้านการแพทย์และสาธารณสุข ตลอดจนบรรเทาทุกข์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติความรุนแรงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในครั้งนี้ นับเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจอันยิ่งใหญ่แก่พสกนิกรชาวไทยในพื้นที่ให้สามารถดำเนินชีวิตและก้าวผ่านพ้นห้วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้ไปได้ด้วยความเข้มแข็งและมั่นคง พระองค์จึงทรงเป็นดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจแก่ปวงชนชาวไทยทุกแห่งหน ให้ได้อยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็นเป็นสุขภายใต้ร่มพระบารมี

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top