แหวกฟ้าหาฝัน : สวรรค์บนดิน Santorini

แหวกฟ้าหาฝัน : สวรรค์บนดิน Santorini

วันอาทิตย์ ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

นักท่องเที่ยวร้อยละร้อยห้าสิบที่มาเยือนกรีซก็เพราะต้องการมาเยือนสถานที่แห่งหนึ่งที่สวยงามจนได้ชื่อว่า สวรรค์บนดิน นั่นคือ Santorini  ดินแดนแห่งนี้เป็นแหล่งที่มีภูเขาไฟระเบิดอยู่บ่อย ๆ เมื่อ 3-4 ล้านปีก่อน อีกทั้งยังเคยเป็นตำแหน่งที่มีภูเขาไฟระเบิดที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่มีชื่อว่า Minoan Eruption หรือ Thera Eruption ตั้งแต่ 3600 ปีก่อนอันเป็นจุดสูงสุดของอารยธรรม Minoan ภูเขาไฟระเบิดที่คาดว่าเกิดนับสัปดาห์ก่อให้เกิดสึนามิขนาดใหญ่จนได้ทำลายอารยธรรม Atlantis ไปจนหมดสิ้น


 

 

 

 

เกาะที่ถูกกล่าวขวัญถึงครั้งแรกตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 12 โดย Al Idrissi นักภูมิศาสตร์ภายใต้ชื่อ Santa Irini ที่ต่อมาเกาะนี้เป็นที่รู้จักกันในนาม Thera ตามชื่อของผู้นำชาวสปาตาร์ที่ครอบครองเกาะอยู่ช่วงหนึ่งนี้ ดั้งเดิมนั้น เชื่อว่า เป็นเกาะที่มีมนุษย์อาศัยอยู่มาตั้งแต่ยุค Late Neolithic หรือราว 400 ปีก่อนคริสตกาล อย่างไรก็ดี การขุดค้นทางโบราณคดีที่ทำในปี 1967 กลับแสดงให้เห็นว่าที่นี่มีประวัติย้อนไปถึงยุคทองแดงหรือระหว่าง 3000-2000 ปีก่อนคริสตกาล บ้านเรือนที่ขุดค้นพบจากในสมัยนั้นรุ่งเรืองถึงขนาดมี 3 ชั้น ของใช้ในบ้าน อาทิ หม้อ ไห ก็ทำจากเซรามิค ส่วนกำแพงหรือหลังคายังมีภาพเขียนปูนเปียกสีสันสดใสแสดงถึงชีวิตความเป็นอยู่ที่ก้าวหน้า

 

Thera ก็เหมือนที่อื่นของกรีกที่ถูกครอบครองโดยโรมันและไบเซนไทน์ ก่อนที่จะถูกเรียกว่า Santorini ในปี 1153 ในงานเขียนของ Al Idrisi นักภูมิศาสตร์ชาวมุสลิม หลังจากนั้นเกาะนี้ก็ถูกครอบครองโดยครอบครัว Barozzi ชาวเวเนเซียน ก่อนจะตกอยู่ภายใต้การปกครองของออตโตมัน หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เศรษฐานะของเกาะตกต่ำลงอันเป็นผลมาจากการที่ประชากรชายลดลงจากสงครามและโรงงานได้ย้ายไปยังเอเธนส์ เมืองหลวงของกรีซแทน รัฐบาลท้องถิ่นจึงหันมาส่งเสริมการเกษตรและผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องโดยเฉพาะไวน์อันเป็นผลมาจากการที่เกาะไม่ค่อยมีผลิตภัณฑ์อื่นที่น่าสนใจ อย่างไรก็ดี เมื่อเกาะมีภูมิทัศน์ที่งดงาม ชาวเมืองจึงหันมาให้ความสนใจกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวแทน

 

นับจากต้นทศวรรษที่ 1950 เป็นต้นมา Fira เริ่มมีชื่อเสียงเพราะเด็ก ๆ ชาวเมืองได้พยายามสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวโดยจัดการต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มั่งคั่งด้วยดอกไม้และยังเปิดไฟโคมเล็ก ๆ ตลอดทางเดินกลับไปยังท่าเรือ โชคร้ายมาเยือนเกาะอีกครั้งในวันที่ 9 กรกฎาคม 1956 เมื่อเกิดแผ่นดินไหว Amorgos ขนาด 7.8 ริกเตอร์และสึนามิถาโถมเข้าหาเกาะสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนมากถึง 35% ของเกาะรวมทั้งที่ทำการทุกอย่างของรัฐบาลท้องถิ่นถูกทำลายจนรัฐบาลกรีซต้องรับความช่วยเหลือจากนานาชาติ

 

 

นักท่องเที่ยวที่มาเยือน Santorini ควรเผื่อเวลาไว้สัก 3-5 วันแล้วแต่กิจกรรมที่ต้องการทำ ทั้งนี้เพราะเกาะแห่งนี้มีกิจกรรมที่หลากหลาย รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่สวยงามถ่ายรูปไม่รู้เบื่อให้เยือน นักท่องเที่ยวสามารถเลือกกิจกรรม อาทิ 1. การเดินชมรอบเกาะทั้งที่ Fira และ Oia ซึ่งเป็นไฮไลท์ที่คนส่วนใหญ่ต้องเข้าคิวถ่ายรูปและต้องใช้แรงและเวลาในการเดินให้รอบครั้งละหลายชั่วโมง ทั้งนี้เพราะการถ่ายรูปทั้งสองเมืองต้องเดินขึ้น ๆ ลง  ๆ เขา ตั้งแต่ทิศตะวันตกไปจนสุดตะวันออก แต่เป็น the must ที่ต้องทำ ไม่เช่นนั้นจะเหมือนมาไม่ถึง 2. การล่องเรือ Caldera Cruise ซึ่งแล้วแต่จริตและเวลาที่นักท่องเที่ยวชอบ 3. การถ่ายรูปตอนพระอาทิตย์ตกดินอาจเลือกบนเกาะหรือในเรือก็แล้วแต่จริตและกำลังทรัพย์

 

 

 

 

หากนักท่องเที่ยวมีเวลามากกว่า 2 วัน การไปหาดที่หลากหลาย อาทิ Black Sand Beach หาดที่มีทรายสีดำ, Red Beach หาดที่มีทรายสีแดงก็จะได้รับประสบการณ์ที่แปลก ส่วนการไปยังที่จอดเรือเพื่อไปตามหาดอาจเลือกเดิน นั่งอูฐ หรือ Cable car แล้วแต่กำลังขา จริต และกำลังทรัพย์ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีขาแข็งแรง มีเวลาค่อนข้างมาก และอยากผจญภัยนิด ๆ อาจเลือกไปเที่ยวภูเขาไฟเพื่อให้ได้ประสบการณ์แปลกใหม่ด้วยก็ยังได้

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top