หนึ่งในสิ่งที่สร้างความหงุดหงิดให้นักช็อปออนไลน์มากที่สุด คือแถบค้นหาที่ไม่เข้าใจพวกเขา นักช็อปเข้าสู่เว็บไซต์ด้วยความต้องการที่ชัดเจน แต่กลับพบผลลัพธ์ที่ไม่ตรงกับสิ่งที่มองหา หรือพบกับทางตันที่ระบุว่า "ไม่พบผลลัพธ์" ซึ่งไม่ใช่แค่ความไม่สะดวก แต่เป็นจุดสำคัญที่ทำให้แบรนด์พลาดโอกาสในการขาย
ในขณะที่ฟังก์ชันการค้นหาของเว็บไซต์ในอุตสาหกรรมนี้ยังคงอาศัยการจับคู่คีย์เวิร์ดแบบตายตัวและไม่สามารถทำความเข้าใจเจตนาที่แท้จริงของนักช็อปได้ Gill Capital Group ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการพัฒนาและการจัดจำหน่ายแบรนด์ค้าปลีก ได้ริเริ่มการเปลี่ยนแปลงประสบการณ์การค้นหาผลิตภัณฑ์แบบ Omnichannel ด้วยการใช้ Generative AI (Gen AI) ช่วยให้ Gill Capital สามารถสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับแบรนด์ระดับโลกที่บริษัทดูแลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น H&M, ALO และ On Running
Gill Capital ได้เริ่มโครงการนวัตกรรม AI หลายโครงการผ่านโปรแกรม AI Cloud Takeoff (AI CTO) ของ Google Cloud หนึ่งในนั้นคือการฝังเอเจนต์การค้นหาที่ทำงานด้วยระบบ Gen AI ลงในเว็บไซต์และแอปอีคอมเมิร์ซ (iOS, Android) ของ H&M อินโดนีเซีย และ H&M ประเทศไทย
เอเจนต์ AI นี้สร้างขึ้นโดยใช้ Vertex AI Search for Commerce จึงเข้าใจเจตนาที่แท้จริงเบื้องหลังการค้นหาในภาษาที่เป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาท้องถิ่น เอเจนต์สามารถถอดรหัสความต้องการของลูกค้าได้ ไม่ว่าลูกค้าจะพิมพ์ว่า "เสื้อเบลาส์สำหรับวันอากาศร้อนชื้น" หรือ "tunik elegan untuk Lebaran" (เสื้อทูนิคหรูสำหรับวันอีด) หรือแม้จะพิมพ์ผิดก็ตาม ด้วยการมุ่งเน้นที่ความหมายของคำ ไม่ใช่แค่คีย์เวิร์ด ระบบจึงสามารถแสดงผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องตามบริบทได้อย่างแม่นยำ ในส่วนของระบบหลังบ้าน เอเจนต์ดังกล่าวยังช่วยวิเคราะห์และจัดระเบียบแคตตาล็อกผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่โดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้พนักงานไม่ต้องเสียเวลาไปกับการค้นคว้าและเพิ่มคีย์เวิร์ดให้กับผลิตภัณฑ์แต่ละรายการ
นอกจากนี้ Gill Capital ยังได้ก้าวไปอีกขั้นด้วยการผสานรวม Conversational Agent เข้ากับแพลตฟอร์มเหล่านี้ ซึ่งพัฒนาโดยใช้ Vertex AI Search for Commerce เพื่อทำหน้าที่เป็น Virtual Shopping Assistant โดยสามารถแสดงคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับผู้ใช้ผ่านการสนทนาแบบ multi-turn นอกจากนี้เอเจนต์ยังช่วยลูกค้าในงานที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การตรวจสอบว่ามีสินค้าในสต็อกที่ร้าน H&M สาขาใกล้เคียงหรือไม่ ซึ่งเป็นการสร้างการเชื่อมต่อที่ราบรื่นระหว่างโลกดิจิทัลและโลกจริง รวมถึงสามารถตอบคำถามอย่าง "นโยบายการคืนสินค้าเป็นอย่างไร" ได้อีกด้วย
หลังจากทดลองใช้โซลูชันทั้ง 2 รายการนี้กับกลุ่มผู้ใช้ชุดแรก Gill Capital ก็ได้ยืนยันแล้วว่าโซลูชันเหล่านี้มีประสิทธิภาพในการเพิ่มการมีส่วนร่วมและยอดขาย และขณะนี้มีแผนที่จะขยายการใช้งานไปยัง H&M อินโดนีเซีย และ H&M ประเทศไทยในช่วงปลายปีนี้
Victor Siow ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายข้อมูลเเละการวิเคราะห์ของกลุ่มบริษัท Gill Capital กล่าวว่า "ที่ Gill Capital เราสร้างแนวคิดการค้าปลีกที่แปลกใหม่และปรับให้เหมาะกับท้องถิ่นสำหรับแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอของเรา เพื่อช่วยให้แบรนด์เหล่านั้นประสบความสำเร็จในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้เทคโนโลยีการค้นหาจะก้าวไปไกลจากการจับคู่คีย์เวิร์ดสู่การค้นหาเชิงความหมาย (Sematic) และเชิงตัวแทน (Agentic) แต่ผู้ค้าปลีกออนไลน์หลายรายยังตามไม่ทัน ด้วย Google Cloud เราจึงนำส่วนประกอบพื้นฐานเดียวกันกับที่ขับเคลื่อน Google Search ในปัจจุบันมาใช้ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน การ Grounding โมเดลการให้เหตุผลชั้นยอดอย่าง Gemini 2.5 Flash บนแหล่งข้อมูลของบริษัท จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าเอเจนต์ AI ของเราสามารถให้ผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องตามบริบทและถูกต้องได้ ภายใต้ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ด้าน AI ของเรา ปัจจุบันเรากำลังขยายการใช้งานการค้นหาและการสนทนาเหล่านี้สู่แบรนด์อื่น ๆ ภายใต้การดูแลของบริษัท พร้อมทั้งแสวงหาโอกาสการใช้งานใหม่ ๆ ในด้านสำคัญอื่น ๆ เช่นการเพิ่มประสิทธิภาพของซัพพลายเชน"
โปรแกรม AI CTO: ก้าวสู่ความเป็นเลิศด้าน AI ในระดับองค์กรขนาดใหญ่
โครงการ AI CTO ของ Google Cloud ซึ่งจัดขึ้นร่วมกับ Digital Industry Singapore (DISG) ภายใต้โครงการ Enterprise Compute Initiative ของรัฐบาลสิงคโปร์ มีเป้าหมายในการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI CoEs) ภายใน 300 บริษัทชั้นนำของสิงคโปร์ที่มีความก้าวหน้าด้านดิจิทัล
โดยอ้างอิงจากเฟรมเวิร์กที่พิสูจน์แล้วของ Google Cloud โปรแกรมนี้จะช่วยให้แต่ละบริษัทที่เข้าร่วมสามารถจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะด้าน (AI CoE) ภายในองค์กร เพื่อทำหน้าที่รวบรวมความเชี่ยวชาญ ทรัพยากร และการกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องกับ AI ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี กระบวนการทำงาน และบุคลากร รวมถึงทำให้การริเริ่มนวัตกรรม AI สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ และดำเนินการอย่างมั่นคงปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ
แต่ละบริษัทจะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่ได้รับการแต่งตั้งโดย DISG และผ่านการรับรองจาก Google Cloud เพื่อจัดตั้ง AI CoE ภายในองค์กร พร้อมรับการสนับสนุนด้านการให้คำปรึกษา เครดิตจาก Google Cloud และสิทธิ์ใช้งาน Google Cloud Skills Boost มูลค่าสูงสุดถึง 500,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ สำหรับทดลองพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบอย่างน้อยหนึ่งโครงการที่ตอบโจทย์การใช้งาน AI มูลค่าสูง โปรแกรม AI CTO ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยบริษัทสร้าง ประยุกต์ใช้ และขยายโซลูชัน AI สำหรับองค์กร เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และเปิดโอกาสสร้างรายได้ใหม่
โครงการ AI CTO เปิดรับสมัครแล้ว โดยพาร์ทเนอร์ของ Google Cloud ที่ได้รับการแต่งตั้งโดย DISG ได้แก่ Accenture, Aimazing, AsiaPac, Cloud Ace, CloudMile, Deloitte, Endava, Kyndryl, NCS, NTT Data, Onepoint, OniGroup, PointStar, Searce และ Tridorian
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี