เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า ประเทศไทยถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงแบบ "ยกเครื่อง"
การเมืองที่ผ่านมาถูกสร้างวาทกรรมว่าเป็นการต่อสู้กันระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏนักการเมืองทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลต่างมุ่งแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนและกลุ่มพรรคพวก ไม่เกี่ยวอะไรกับวาทกรรมดังกล่าวเลย
พรรคไทยภักดี ยืนหยัดต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด จนเป็นที่ประจักษ์ว่า ทำงาน มากกว่านักการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร
อีกทั้งยังได้ระดมนักคิด นักวิชาการศึกษาปัญหาและทางออกของประเทศอยางจริงจังตลอดระยะเวลา ๒ ปีที่ผ่านมา โดยทางออกนั้นจะต้องนำพาประเทศไปสู่การ“ยกเครื่อง”ครั้งใหญ่อย่างรอบด้านและจริงจังทั้งทาง เศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง ดังนโยบายที่ได้นำเสนอนี้
๑ “ยกเครื่องการเมือง” แก้รธน. ที่มาของวุฒิสมาชิก ตามอุดมการณ์ราชประชาสมาสัยให้องคมนตรีคัดเลือกผู้แทนอาชีพ ๕๐๐ คน แล้วให้ประชาชนเลือกตรง เหลือ ๒๐๐ คน ตามเขตการเลือกตั้งทั้งประเทศ เพื่อให้สว.เป็นกลางทางการเมือง ปราศจากการครอบงำจากพรรคการเมือง
๒ “ยกเครื่องการเมืองมือง” เพิ่มพระราชอำนาจในการยับยั้งกฏหมายที่เสียหายต่อชาติและเพื่อไม่ให้นักการเมืองชั่วทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ
๓ “ยกเครื่องเศรษฐกิจ” ประกันราคาข้าวเปลือกเจ้า ๑๐,๐๐๐บาท ต่อ ๑ ตัน ,ประกันราคาขาวเปลือกหอมมะลิ ๑๕,๐๐๐บาท ต่อ ๑ ตัน โดยไม่ใช้งบประมาณจากภาษีของประชาชน
๔ “ยกเครื่องตำรวจ” ลดกำลังพล ๑๐๐,๐๐๐ นาย โดยหลักสากล ตำรวจ ๑ คน รับผิดชอบประชาชน ๕๐๐ คน แต่ประเทศไทยมีตำรวจ ๒๑๑,๘๙๙ นาย มีประชาชน ๖๕,๘๕๒,๓๓๕ คน เท่ากับ มีตำรวจ ๑ นาย ต่อประชาชน ๓๑๐ คน จึงต้องลดกำลังพลเพื่อให้สอดคล้องกับหลักสากลและทำให้การปฏิบัติหน้าที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
๕ “ยกเครื่องตำรวจ” ให้โอนตำรวจไปสังกัดจังหวัด เลิกระบบชั้นยศ
๖ “ยกเครื่องการปราบทุจริต” แก้กฎหมายเพิ่มโทษ-คดีทุจริตมูลคาความเสียหายตั้งแต่ ๑๐๐ ล้านบาทขึ้นไป เป็นประหารชีวิต-ในคดีทุจริตไม่สามารถขอพระราชอภัยโทษได้-ประชาชนสามารถฟ้องร้องนักการเมืองทุจริตได้ตรง
๗ “ยกเครื่องการปราบทุจริต” ตำแหน่งใดที่กฎหมายกำหนดให้แจ้งบัญชีทรัพย์สินจะต้องแจ้งที่มาของรายได้ด้วย
๘ “ยกเครื่องท้องถิ่น” จัดตั้งกระทรวงพัฒนาท้องถิ่น บริหารตรงไปที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมีบทบาทเป็นCEOจังหวัด เพื่อให้มีการบริหารงบประมาณอย่างมีศักยภาพในการพัฒนาจังหวัด โดยให้ ยกเลิก เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบลและให้มีศูนย์บริการตำบลขององค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยให้มีสภาพัฒนาจังหวัดที่มาจากการเลือกตั้งจากประชาชนทุกตำบล
๙ “ยกเครื่องการศึกษา” ปรับเปลี่ยนหลักสูตรการศึกษาไปสู่การคิดและวิเคราะห์ และ มุ่งเน้นสายอาชีพในสาขาที่สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง และสร้างนักวิจัยให้เพียงพอกับการพัฒนา ลดบุคคลากร เพิ่มรายได้ครูให้สูงขึ้นและทุกระดับการศึกษาจะต้องมีหลักสูตรปลูกฝังสำนึกในการรักชาติ
๑๐ “ยกเครื่องความมั่นคง” พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพอาวุธของกองทัพเองโดยเพิ่มงบประมาณให้เพียงพอ เพิ่มหลักสูตรการรบด้วยเทคโนโลยีให้กับกำลังพลสร้างแนวรั้วชายแดนไทย-กัมพูชาทั้ง ๗๙๘ กม.
๑๑ “ยกเครื่องการต่างประเทศ” สร้างความสมดุลนโยบายต่างประเทศกับมหาอำนาจทุกฝ่าย ยกเลิก MOU43 MOU 44
๑๒ “ยกเครื่องปราบปรามยาเสพติด” จัดตั้งกองบังคับการอาสาสมัครปราบปรามยาเสพติด กำลังพล ๑๐,๐๐๐ นาย สังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เฝ้าระวัง ปราบปราม และจับกุมยาเสพติด แนวตะเข็บชายแดน ไม่ให้ทะลักเข้ามาในประเทศ
๑๓ “ยกเครื่องการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว”
๑๔ “ยกเครื่องค่าไฟฟ้าประชาชน” ไฟฟ้าประชาชนไม่เกินหน่วยละ ๓ บาทภายใน ๔ ปี
๑๕ “ยกเครื่องการเมือง“ ตัดสวัสดิการสมาชิกรัฐสภา” (สส.และสว.) เลิกอาหารกลางวัน และยกเลิกบำนาญ
บัดนี้ถึงเวลาแล้วพี่น้องประชาชนคนไทยผู้รักประเทศชาติและต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง จะได้เข้ามาร่วมการยกเครื่องประเทศกับพรรคไทยภักดี เพื่อเสนอตัวเองเป็นผู้แทนราษฎรเข้าไปนั่งในสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เปลี่ยนแปลงประเทศ เพื่อความกินดีอยู่ดีของพี่น้องประชาชน
จึงขอเชิญชวน มาร่วมอุดมการณ์กับเราพรรคไทยภักดี
กดสมัครได้ที่ลิงค์นี้
https://runfor-thr.onrender.com/
#ไทยภักดียกเครื่องประเทศไทย
#สมัครว่าที่ผู้สมัครสสพรรคไทยภักดี
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี