สุทธิรัตน์ แก้วอาภรณ์ และ ปิยวรา ทีขะระ เนตรน้อย
เนื่องในเทศกาลแห่งความรัก พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นำโดย ปิยะวรา ทีขะระ เนตรน้อย หัวหน้าโครงการพิพิธิภัฑณ์ผ้าฯ จัดเสวนาเรื่อง “ทอผ้าด้วยความรัก” โดยมี สุริวิภา กุลตังวัฒนา นักแสดงและพิธีกรอารมณ์ดีชื่อดัง มาเปิดเผยเรื่องราวความผูกพันที่มีต่อผ้าไหมไทย ร่วมด้วยสองแม่ลูกสมาชิกศิลปาชีพ แม่ประจวบ – แสงเดือน จันทร์นวล มาบอกเล่าความประทับใจในการสืบสานงานทอผ้าไหม สนองพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มานานกว่า 40 ปี ร่วมด้วย สุทธิรัตน์ แก้วอาภรณ์ เจ้าหน้าที่ภัณฑารักษ์ ณ ห้องประชุมพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ หอรัษฎากรพิพัฒน์ ในพระบรมมหาราชวัง
ปิยะวรา ทีขะระ เนตรน้อย หัวหน้าโครงการพิพิธิภัฑณ์ผ้าฯ เผยว่า พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ได้จัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับผ้าไทยมาอย่างต่อเนื่อง และในเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งถือว่าเป็นเดือนแห่งความรัก จึงได้จัดกิจกรรมที่สอดคล้องกันขึ้น โดยเชิญผู้ที่มีความรักและหลงใหลในผ้าไทยมาร่วมแบ่งปันแนวความคิดดีๆ ให้แก่ผู้สนใจได้มีส่วนร่วมและได้รับรู้ ว่าการทอผ้านั้นไม่ได้เป็นเพียงอาชีพที่สามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้เท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งต่อความรักความผูกพัน และสืบสานภูมิปัญญา วัฒนธรรมอันดีงามของไทยให้คงอยู่ต่อไปจนชั่วลูกชั่วหลาน
สุริวิภา กุลตังวัฒนา
สุริวิภา กุลตังวัฒนา บอกว่า ตนเองเป็นลูกอิสาน เกิดและเติบโตที่ ต.ท่าแร่ จ.สกลนคร ซึ่งมีคุณยายทอผ้าไหมให้เห็นตั้งแต่เด็ก แต่น่าเสียดายว่าที่ไม่ได้สืบสานเอาไว้ เพราะตอนเป็นเด็กคิดว่าผ้าไหมเชย แต่เมื่อโตขึ้นได้มาเรียนรู้ประวัติความเป็นมา เบื้องหน้าเบื้องหลังของการสนับสนุนชาวบ้านที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานความช่วยเหลือมาตลอด จึงคิดได้ว่าทำไมเราไม่ภูมิใจในสิ่งที่เรามี วันนี้จึงภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของชาวบ้านที่สืบสานมาจากรุ่นสู่รุ่น และสร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปชิ้นเอกผ่านการทอผ้า
“ทุกวันนี้ถ้าสามารถเลือชุดที่จะใส่ไปงานเองได้ หนูแหม่มก็เลือกใส่ชุดผ้าไหมเสมอ และทุกครั้งที่สวมใส่แล้วโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย ก็จะมีคนชมว่าชุดสวย ก็รู้สึกดีใจ ผ้าไทยที่ชอบและสะสมไว้มากที่สุดคือ ผ้าคราม เป็นผ้าฝ้ายย้อมกับใบไม้ชนิดหนึ่งที่เรียกว่าต้นคราม มีสีน้ำเงิน หนูแหม่มชอบที่กลิ่นหอมและมีลวดลายมัดหมี่เหมือนที่คุณยายเคยทำ ซึ่งลวดลายต่างๆ ถักทอจากความชำนาญ ไม่มีตัวอย่างให้ดูอาศัยจำเพียงอย่างเดียว”
แสงเดือน และ แม่ประจวบ จันทร์นวล สองแม่ลูกสมาชิกศิลปาชีพจากบ้านนาโพธิ์
แม่ประจวบ จันทร์นวล สมาชิกศิลปาชีพ จากบ้านนาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ เกิดมาในครอบครัวทอผ้าไหม มีพ่อเป็นครูสอนทอผ้า เข้าเป็นสมาชิกศิลปาชีพ ตั้งแต่ปีพ.ศ.2516 เผยถึงพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้ฟังว่า ก่อนจะมาเป็นสมาชิกศิลปาชีพ ชาวบ้านนาโพธิ์ มีอาชีพทำนาเป็นหลัก ว่างก็ทอผ้าไว้ใช้ แต่พอนาแล้ง ไม่ได้ข้าว จึงต้องนำผ้าไหมที่ทอไว้ใช้เองไปแลกข้าว กระทั่ง ท่านผู้หญิงสุประภาดา เกษมสันต์ และ ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ ราชเลขานุการในพระองค์ฯ ได้ลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผ้าไหมที่หมู่บ้าน ได้มาขอซื้อผ้าตามหมู่บ้านต่างๆ ช่วงแรกไม่มีใครยอมขาย เพราะไม่รู้ว่าท่านทั้งสองเป็นใคร แต่พอรู้ว่าท่านเป็นใครก็ยอมขาย นอกจากทรงรับซื้อผ้าไหมจากชาวบ้านในราคาสูงแล้วเพื่อเป็นกำลังใจในการทอผ้าแล้ว ยังพระราชทานลายผ้าตัวอย่างมาให้ชาวบ้านทอตาม จากนั้นท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ก็มารับซื้อที่ อ.พุทไธสง ปีละครั้ง แต่ต่อมาได้มีการรวมกลุ่มเพื่อทอผ้าส่งวังสวนจิตรลดาฯ ทอแล้วก็รวมกันไปส่งที่อำเภอ ส่วนเงินก็จะได้รับเป็นธนาณัติเป็นอย่างนี้เสมอมา
ด้าน แสงเดือน จันทร์นวน ทายาทสืบทอดการทอผ้าไหมของแม่ประจวบ บอกว่า แม่ไม่เคยสอนหรือสั่งให้หัดทอผ้า แต่ด้วยความที่เห็นแม่ทอผ้ามาตั้งแต่เด็กสึงซึมซับและรักการทอผ้า ด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่ก็อยากสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้กับผ้าไหมไทย จึงได้พยายามที่จะพัฒนาคุณภาพการผลิตผ้าไทม ด้วยการนำความจงรักภักดีที่มีต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ
ความรู้ ความผูกพันที่มีต่อผ้าไหม และวิถีชีวิตของคนอิสานมาประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์โดยที่ยังคงกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิมไว้ทุกขึ้นตอน ไม่มีการนำเทคโนโลยีใดๆ มาแทรกในวัฒนธรรมของเรา
“การพัฒนาและอนุรักษ์ผ้าไหมบ้านนาโพธิ์ เป็นเรื่องของการสร้างคุณค่าของผ้าทอมือให้สูงมากขึ้น เพราะการใช้ลดน้อยลงเนื่องจากควาเมปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ดังนั้น จึงต้องสร้างมูลค่าของผ้าไหมให้สูงขึ้นเป็นเหมือนของสะสมที่มีค่า แต่ถ้าต้องการอนุรักษ์ให้เกิดความยั่งยืน ก็ต้องผลิตผ้าเพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ได้ทุกวัย ผู้ผลิตก็ต้องมีการปรับตัว ทั้งเรื่องสีสันและผิวสัมผัสของผ้า โดยคงกระบวนการผลิตแบบทำมือ และเลือกใช้พันธุ์ไหมที่เป็นพันธุ์ไทยแท้เลี้ยงเอง 100% ที่สำคัญต้องสร้างสรรค์รูปแบบให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคทั้งตลาดในไทยและต่างประเทศด้วย”
ร่วมชื่นชมความงามของผ้าไทยที่สะท้อนภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ให้คงอยู่สืบไป พร้อมตระการตากับฉลองพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินาถ ที่ตัดเย็บจากผ้าไทย ตลอดจนศึกษาความเป็นมาของผ้าไทยในแต่ละภูมิภาคได้ที่ พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินาถ ตั้งอยู่ ณ หอรัษฎากรพิพัฒน์ ในพระบรมมหาราชวัง เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00-16.30 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02-225-9430 ต่อ 0 หรือทาง Error! Hyperlink reference not valid. www.facebook.com/qsmtthailand
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี